‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z

‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z

'โทนี่ เฟอร์นานเดส' เจ้าพ่อสายการบินโลว์คอสต์ 'แอร์เอเชีย' ยังคงเดินกลยุทธ์กระจายความหลากหลายของธุรกิจในกลุ่ม 'แคปปิตอล เอ' (Capital A) ที่ไม่ได้มีแค่สายการบินเท่านั้น! ล่าสุดประกาศเปิดตัวบริการ 'บิ๊กเพย์' (BigPay) กระเป๋าเงินดิจิทัลใหม่ในไทยเมื่อ 18 ก.ค.

หลังจากเริ่มก่อตั้ง บิ๊กเพย์ เมื่อปี 2560 ขยายธุรกิจนี้ในมาเลเซียและสิงคโปร์ ก่อนจะมาเจาะตลาดเมืองไทย และเตรียมเปิดตัวในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเป็นลำดับถัดไป

หากไล่เลียง “โครงสร้างธุรกิจ” ของกลุ่มแคปปิตอล เอ ประกอบด้วย 5 กลุ่มธุรกิจที่มีดีเอ็นเอพื้นฐานเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนและมีประสิทธิภาพการทำงานสูง รวมถึงภาพลักษณ์คุณภาพคุ้มราคา ขับเคลื่อนด้วยพนักงานกว่า 21,000 คน ได้แก่ 1.กลุ่มธุรกิจ “สายการบินแอร์เอเชีย” ปัจจุบันเปิดให้บริการ 7 สายการบิน ครอบคลุมฐานปฏิบัติการบินใน 5 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และล่าสุดคือกัมพูชา ตั้งเป้าใหญ่เติบโตสู่ระดับ “TOP 10” ของสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

2.กลุ่มธุรกิจบริการโซลูชันด้านการบิน “แคปิตอล เอ เอวิเอชัน เซอร์วิส กรุ๊ป” (Capital A Aviation Services Group: CAPAS) 3.กลุ่มธุรกิจ “เทเลพอร์ต” (Teleport) ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ในอาเซียน 4.กลุ่มธุรกิจ “แคปิตอล เอ อินเตอร์เนชันแนล” (Capital A International) มุ่งสร้างพอร์ตโฟลิโอการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในทรัพย์สินของแบรนด์

และ 5.กลุ่มธุรกิจ “มูฟ ดิจิทัล” (MOVE Digital) ดำเนินงานบริการดิจิทัลของแคปิตอล เอ มีแพลตฟอร์ม “แอร์เอเชีย มูฟ” (airasia MOVE) ซึ่งรีแบรนด์จากชื่อเดิม แอร์เอเชีย ซูเปอร์แอป (airasia Superapp) นอกจากนี้ยังมี “บิ๊กเพย์” (BigPay) ฟินเทคสัญชาติอาเซียน ให้บริการทางการเงิน อาทิ การโอนเงินในประเทศหรือชำระเงินระหว่างประเทศ ประกันภัยสำหรับรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคล ไปจนถึงการจัดการเงิน

โทนี่ เฟอร์นานเดส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แคปปิตอล เอ และ มูฟ ดิจิทัล กล่าวว่า มั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถขยายธุรกิจบิ๊กเพย์ให้เติบโตในประเทศไทยได้ “บางคนบอกว่าเราเข้ามาในเกมฟินเทคช้าเกินไป!” แต่ลืมไปหรือไม่ว่าตอนที่เริ่มก่อตั้งสายการบินแอร์เอเชีย คือในปี 2544 หรือเมื่อ 23 ปีก่อนนี่เอง ด้วยเครื่องบินเพียง 2 ลำ เฉพาะในประเทศไทยสามารถขยายธุรกิจสายการบินไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ จนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มแอร์เอเชีย รองจากมาเลเซีย

“เราจึงมองว่าในตลาดฟินเทคของประเทศไทย ยังมีพื้นที่ในการเติบโตและพัฒนาตลาดไปพร้อมกับพันธมิตรของเราเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงและความคุ้มค่าแก่ผู้ใช้บริการ โดยมั่นใจว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า บิ๊กเพย์จะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ เหมือนสายการบินแอร์เอเชียที่กำลังเป็นอยู่”

‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z

อภิฤดี ปรัชญาเศรษฐ ผู้จัดการ บิ๊กเพย์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งเป้าหมายในสิ้นปี 2567 จะมีฐานผู้ใช้บริการบิ๊กเพย์ 1 แสนราย และเพิ่มเป็น 1 ล้านรายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รุกเจาะตลาด “คนรุ่นใหม่” อายุ 18-35 ปี ส่วนใหญ่เน้น “เจน Z” ซึ่งมีฐานประชากรในไทยกว่า 13 ล้านคน กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศผ่านบิ๊กเพย์ คาดหวังเห็นการใช้จ่ายราว 3,000-5,000 บาทต่อคนต่อเดือน

‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z

“เราจะเน้นสร้างระบบนิเวศ นำเสนอสิทธิประโยชน์เชื่อมต่อกับการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นจุดแข็งของกลุ่มแคปิตอล เอ ส่วนปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ลงไปถึงเจน Z ส่งผลให้บิ๊กเพย์ต้องรุกนำเสนอโปรดักต์และทิปส์ทางการเงินเพื่อหนุนให้คนรุ่นใหม่ออมเงินมากขึ้น มีวินัยทางการเงินมากขึ้น เรียนรู้ทิปส์ออมเงินก่อนไปเที่ยว”

‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z

เดิม “บิ๊กเพย์” มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นอี-วอลเล็ต (E-Wallet) ก่อนจะได้รับการพัฒนาเรื่อยมา จากการเจาะอินไซต์ผู้ค้าและลูกค้าในมาเลเซียและประเทศไทย โดยพบว่าอินไซต์ส่วนใหญ่ 65% ของผู้ใช้ เจอ “ความท้าทาย” ใน “การบริหารจัดการเงิน” ไม่ว่าจะเป็นการใช้เงินออกไปท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลายคนต้องการเก็บเงินระยะยาวเพื่อเกษียณ และเตรียมความพร้อมทางการเงินในอนาคต ขณะที่กว่า 60% ของผู้ใช้ “เห็นความสำคัญ” ของการบริหารจัดการเงิน รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร และรู้ว่าการบริหารจัดการเงินที่ดีจะนำมาซึ่งชีวิตที่อยากจะเป็น นำไปสู่การกำหนดวิสัยทัศน์ของบิ๊กเพย์ “Levelling up Lives, One Transaction at a Time.”

‘โทนี่’ เจ้าพ่อโลว์คอสต์ฝ่าหนี้ครัวเรือน ดัน ‘BigPay’ เจาะคนไทยเจน Z