4 แบรนด์ยักษ์ใหญ่จีนผงาด ขึ้นแท่นสปอนเซอร์หลักศึกยูโร 2024

4 แบรนด์ยักษ์ใหญ่จีนผงาด ขึ้นแท่นสปอนเซอร์หลักศึกยูโร 2024

สิ่งที่อยู่คู่กับการแข่งขันกีฬาระดับโลกมายาวนานก็คือ “สปอนเซอร์” ซึ่งแบรนด์ที่จะเข้าไปได้ต้องทุ่มงบอย่างมหาศาล แลกกับการโฆษณาให้คนทั้งโลกเห็น และล่าสุด 4 แบรนด์ใหญ่ของจีน ได้เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ “ฟุตบอลยูโร 2024”

ใกล้จะได้รู้กันแล้วว่าใครจะได้เป็นแชมป์สำหรับศึกยูโร 2024 ที่ครั้งนี้มีเยอรมันเป็นเจ้าภาพ ถือว่าเป็นมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป และมีผู้ชมอยู่ทั่วทุกมุมโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีแบรนด์มากมายพยายามทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้เข้าไปเป็นหนึ่งใน “สปอนเซอร์” เพราะจะเป็นโอกาสสำคัญในการประชาสัมพันธ์แบรนด์ของตัวเองให้คนทั้งโลกได้เห็นอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมในสนามหรือผู้ชมทางบ้าน

ที่ผ่านมาเรามักได้เห็นแบรนด์หรือภาคธุรกิจชื่อดังระดับโลกมากมายเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ให้การแข่งขันฟุตบอลยูโรไปจนถึงการแข่งขันระดับโลกอีกมากมาย เช่น ซูเปอร์โบวล์ ฟุตบอลโลก เอเชียนเกมส์ หรือ โอลิมปิก ก็จะมีแบรนด์ดังเข้ามาสนับสนุนมากมายไม่ว่าจะเป็น Apple, Pepsi, Coca Cola, Toyota, Nike และ Adidas แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับสปอนเซอร์ของฟุตบอลยูโร 2024 ก็คือ มีแบรนด์ “สัญชาติจีน” เข้ามาให้การสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ด้วยกัน 4 เจ้า จากทั้งหมด 13 เจ้า

สปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันฟุตบอลยูโรครั้งนี้ได้แก่ BYD, Vivo, AliExpress, Alipay+, Atos, Betano, Booking.com, Coca Cola, Hisense, Lidl, Engelbert Strauss, Visit Qatar และแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ของเยอรมันที่เป็นสปอนเซอร์มาอย่างยาวนาน Adidas

สำหรับ 4 แบรนด์แรกข้างต้นเรียกว่าน่าจับตามองเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นแบรนด์ดังที่มาจากแดนมังกร และมีชื่อเสียงในระดับโลก

BYD (บีวายดี)

BYD” ย่อมาจาก “Build Your Dream” เป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ก่อตั้งเมื่อปี 1995 ในเมืองเซินเจิ้น โดย หวัง ชวนฟู (Wang Chuanfu) ที่ปัจจุบันเป็นทั้งประธานบริหาร, ซีอีโอ และ ประธานบอร์ดของบริษัท ที่สำคัญเขายังเป็น “มหาเศรษฐี” ที่คนทั้งโลกรู้จัก และเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ เทสลา (Tesla) ของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เพราะรายงานล่าสุดของบีวายดีระบุว่ายอดขายทั่วโลกในไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นถึง 21% ตามหลังเทสลาเพียงแค่ประมาณ 12,000 คัน เท่านั้น

อ่านข่าว : ยอดขาย BYD ไตรมาส 2 พุ่ง 21% ตามหลัง ‘เทสลา’ แค่หมื่นกว่าคัน

Vivo (วีโว่)

Vivo” ถือเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีนขับเคลื่อนธุรกิจผ่านการออกแบบพัฒนาอุปกรณ์ และบริการอัจฉริยะรูปแบบต่างๆ มี “สมาร์ตโฟน” เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่มณฑลกวางตุ้ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 ปัจจุบันมีศูนย์กลางการผลิต (Production hub) อยู่ 5 แห่ง รวมถึงศูนย์การผลิตอย่างเป็นทางการของแบรนด์ (Brand authorized manufacturing center) ในประเทศจีน รวมถึงภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สำคัญมีกำลังผลิตสมาร์ตโฟนมากกว่า 200 ล้านเครื่องต่อปี และขายออกไปมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้วีโว่ยังเคยเป็นสปอนเซอร์ให้กับ “ฟุตบอลโลก” มาแล้ว

อ่านข่าว : ‘ฟีฟ่า’ ประกาศ ‘วีโว่’ เป็นสมาร์ตโฟนอย่างเป็นทางการของฟุตบอลโลกปีนี้

AliExpress (อาลีเอ็กซ์เพรส)

AliExpress” เป็นเว็บไซต์หนึ่งในเครือ “อาลีบาบา” หรือ Alibaba ของมหาเศรษฐีชาวจีน แจ็ค หม่า (Jack Ma) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010  โดย อาลีเอ็กซ์เพรส จะรวบรวมผู้ค้าที่หลากหลายทั้งในจีน และฮ่องกงเข้ามาอยู่บนแพลตฟอร์มโดยสามารถเข้าถึงผ่านแอปพลิเคชันได้ด้วย เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขาย โดยส่วนมากจะเป็นสินค้าที่มีราคาถูกทำให้มีคนนิยมเหมาไปขายต่อ และแม้ว่าจะเป็นบริษัทของจีนแต่ก็มี “เดวิด เบ็คแฮม” เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก

อ่านข่าว : ‘อาลีเอ็กซ์เพรส’ ทุ่มเงิน ดึง ‘เดวิด เบ็คแฮม’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ระดับโลก

Alipay+ (อาลีเพย์พลัส)

Alipay+” เป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ภายใต้อาลีบาบา โดยเป็นผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์ที่เน้นให้ธุรกิจต่างๆ เข้าถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย โดยเฉพาะ “จีน” ไปจนถึงฮ่องกง และมาเลเซีย ซึ่งรองรับการชำระเงินผ่าน Digital Wallet ของแต่ละประเทศได้มากกว่า 13 Wallets

สิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทจีนยักษ์ใหญ่เหล่านี้ยอมทุ่มเทเม็ดเงินมหาศาลเพื่อให้ได้เข้าไปเป็น “ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ” ของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2024 ก็เพราะเป็นการประกาศให้โลกได้เห็นว่าแบรนด์ของตัวเองมีความพร้อม และมีประสิทธิภาพในการก้าวขึ้นไปยืนในระดับโลก และยังเป็นการขยายฐานลูกค้าออกไปในวงกว้างโดยเฉพาะในยุโรป

อ้างอิงข้อมูล : IMD, BYD, VivoUEFA และ bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์