รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE

รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE

ภาครัฐจับมือภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ธุรกิจชั้นนำ กว่า 100 องค์กร ในไทย เตรียมลุยบิ๊กอีเวนต์ LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024 ส่งท้ายเดือนแห่งเทศกาล PRIDE จัดพาเหรดยาวสุดในเอเชียระยะทาง 6 กิโลเมตร 30 มิ.ย. ปูทางต่อยอดผลักดันกรุงเทพฯ สู่ Entertainment Hub of Asia

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ในฐานะ รองประธานภาคีเครือข่ายภาคเอกชน กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย

พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายภาคเอกชนกว่า 100 องค์กรชั้นนำ เตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ "LOVE PRIDE ♡ PARADE 2024" ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ โดยไฮไลต์ขบวนพาเหรดยาวที่สุดในเอเชีย 6 กิโลเมตร เป็นการฉลองส่งท้ายเดือนแห่งเทศกาล PRIDE

 

โดยภาคีเครือข่ายภาคเอกชนจากธุรกิจต่างๆ ได้แก่ "กลุ่มธุรกิจรีเทล" ประกอบด้วย กลุ่มบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ปและบริษัทในเครือ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลรีเทล ภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล

"กลุ่มสถาบันการเงิน" ได้แก่ ธนาคารต่างๆ เช่น กรุงเทพ ไทยพาณิชย์ ยูโอบี กสิกรไทย อิออน ทหารไทยธนชาติ วีซ่า และมาสเตอร์การ์ด

 

 

กลุ่มธุรกิจพลังงาน อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ได้แก่ ช.การช่าง, ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น, พี.โอเวอร์ซีส์ สตีล, ปูนซีเมนต์ไทย และ คาม่าร่วมทุน

สำหรับ กลุ่มธุรกิจอุปโภคบริโภค ได้แก่ ไทยเบฟเวอเรจ, บุญรอดเทรดดิ้ง, ดับเบิ้ล เอ (1991), เรนวูด เบฟ เป็นต้น

กลุ่มธุรกิจสายการบิน รถยนต์ โรงแรม ได้แก่ เจแปน แอร์ไลน์, เวียตเจ็ท, โรงแรมสุโกศล, ดุสิตธานี, อโนมา, อนันตรา, Honda และ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)

กลุ่มธุรกิจแฟชั่น ได้แก่ H&M, D’ARK, JASPAL กลุ่มธุรกิจบันเทิง ได้แก่ เมเจอร์ ซินีเพล็กซ์, เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น, ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา และ ทีพีเอ็น โกลบอล เป็นต้น 

รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE

"LOVE PRIDE ♡ PARADE จะเป็นหนึ่งในคอนเทนต์สำคัญจากเทศกาล PRIDE ของประเทศไทย ที่จะช่วยปักหมุด Pride Festival Destination สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIAN+"

อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการผลักดันกรุงเทพมหานครให้แข่งขันได้กับเพื่อนบ้านในเอเชีย  สำหรับการก้าวสู่ฮับแห่งเอ็นเตอร์เทนเมต์ หรือ  Entertainment Hub of Asia เมืองหลวงแห่งกิจกรรมและความบันเทิงของเอเชีย เพื่อบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ควบคู่กับการสร้างภาพลักษณ์ประเทศไทยในการเป็น LGBTQIAN+ Friendly ดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลกทุกปี

พร้อมผลักดันกรุงเทพฯ เป็นเจ้าภาพจัดงาน WORLD PRIDE 2030 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนประเทศไทยมากขึ้น นอกเหนือจากเทศกาลที่เป็นรู้จักกันดีแล้วอย่าง มหาสงกรานต์ เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE

สำหรับเทศกาล PRIDE รัฐบาลประเมินว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยงาน LOVE PRIDE ♡ PARADE ในวันที่ 30 มิถุนายน จะเป็นอีเวนต์ที่ประชาชนทั่วไป ชาวต่างชาติ รวมถึงนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เข้าร่วมชมงานตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ ชั้นกลางต่อเนื่องชั้นใน จากย่านปทุมวัน ย่านสยาม ย่านราชประสงค์ ย่านเพลินจิต ย่านอโศก ย่านสุขุมวิท ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจ การค้า การบริการ การพยาบาล วัฒนธรรม การศึกษา การทูต และศูนย์การค้าชั้นนำ ที่มีความยาวขบวน 6 กิโลเมตรกว่า 1 ล้านคน

รัฐผนึกเอกชนกว่า 100 องค์กร จัดใหญ่ LOVE PRIDE ♡ PARADE ส่งท้ายเดือนแห่ง PRIDE

ทั้งนี้ จะมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการปล่อยขบวน LOVE PRIDE ♡ PARADE บริเวณสนามกีฬาแห่งชาติ ศุภชลาศัย โดยประชาชนสามารถร่วมชมขบวนตลอดเส้นทาง และสามารถชมผ่านโซเชียลมีเดีย Facebook  THE MALL, EMPORIUM EMQUARTIER และ EMSPHERE, Youtube  THE MALL พร้อมร่วมกิจกรรมบันเทิง คอนเสิร์ตเฉลิมฉลองส่งท้ายเดือนแห่งเทศกาล PRIDE ภายในอุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป

นางสาวศุภลักษณ์ กล่าวต่อว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีโอกาสฟื้นตัวหากรัฐบาลมีการจัดกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการดึงศิลปินนักร้องระดับโลกเข้ามาจัดคอนเสิร์ตในไทย  เช่น เทย์เลอร์ แอลิสัน สวิฟต์  พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ระดับโลก

นอกจากนี้ อยากให้ภาครัฐเร่งพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นต่างๆ เช่น พื้นที่สนามบินรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เอื้ออำนวย รวมทั้ง พิจารณาเวลาปิดเปิดและพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ของไทยยังถูกจำกัดให้บริการ

"แม้ที่ผ่านมามีการขยายเวลาปิดบริการถึงตี 4 แต่จำกัดเฉพาะย่านสีลม พัฒน์พงษ์ อาร์ซีเอ  อาจพิจารณาเพิ่มพื้นที่ในย่านใหม่ๆ พร้อมขยายเวลาให้นานขึ้น หรือเปิดเมือง เปิดตลาดโต้รุ่ง โดยเฉพาะพื้นที่นอกจากกรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา เพื่อช่วยสร้างให้การค้าขายคึกคักมากขึ้น"