‘อินเดีย’ แชมป์เจน Y-Z อันดับ 1 โลก ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย สู่เป้า 2 ล้านคนปี 67
ตลาด 'อินเดีย' ขุมทรัพย์ใหญ่ของภาคการท่องเที่ยวโลก ด้วยจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 1 รวมกว่า 1,437 ล้านคน และเมื่อดูเฉพาะฐานประชากรกลุ่มนิวเจน (New Gen) ได้แก่ เจนซี (Gen Z) และเจนวาย (Gen Y) ยังครองสัดส่วนมากที่สุดของโลกอีกด้วย!
จากขนาดประชากรอันดับ 1 ของโลก หนุนอัตราการเติบโตของจีดีพี (GDP) ในปี 2567 ของอินเดีย คาดว่าจะเติบโตสูงถึง 7.3% และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอินเดียมีแนวโน้มจะขยับขึ้นเป็นลำดับ 3 ของโลกในปี 2570 ขณะเดียวกันการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินอินเดีย มีแนวโน้มจะเป็นหนึ่งในตลาดธุรกิจการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
“นักท่องเที่ยวอินเดีย” ถือเป็นหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพและมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย เมื่อปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยรวม 1,628,542 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) กว่า 75.77% และมีสัดส่วนของเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยเป็นครั้งแรก (First Visit) ถึง 62.17%
ส่องเป้าปี 67 ดึงตลาด 'อินเดียเที่ยวไทย' 2 ล้านคน
ส่วนปี 2567 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายผลักดันนักท่องเที่ยวอินเดียเดินทางเข้าไทยให้ถึงจำนวน 2 ล้านคน โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) มีนักท่องเที่ยวอินเดียสะสมมากกว่า 8 แสนคนแล้ว มากเป็นอันดับ 4 ของตลาดต่างชาติเที่ยวไทยสูงสุด รองจากอันดับ 1 จีน อันดับ 2 มาเลเซีย และอันดับ 3 รัสเซีย ส่วนอันดับ 5 คือเกาหลีใต้
และข่าวดีล่าสุดคือ รัฐบาลไทยได้ประกาศขยายระยะเวลามาตรการยกเว้นวีซ่า (วีซ่าฟรี) แก่นักท่องเที่ยวอินเดีย อีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. – 11 พ.ย. 2567 ให้พำนักอยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วัน จากเดิมมีกำหนดสิ้นสุดระยะมาตรการในวันที่ 10 พ.ค. 2567
Airbnb เปิดข้อมูล เจน Y-Z จองที่พักในไทยโต 60%
รายงานจาก Airbnb แพลตฟอร์มจองที่พักระดับโลก เปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียกลุ่มเจน Z (อายุ 18-29 ปี) และเจน Y (อายุ 30-39 ปี) จองที่พัก Airbnb ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบกับปี 2565 โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว เช่น เทศกาลโฮลีและเทศกาลอีสเตอร์ ระหว่างวันที่ 23-31 มี.ค. 2567 พบว่าชาวอินเดียค้นหาที่พัก Airbnb ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไปประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน ของ Airbnb เปิดเผยว่า นักเดินทาง Airbnb ชาวอินเดียยังคงชื่นชอบและสนใจที่จะท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่านักท่องเที่ยวชาวอินเดียเริ่มเดินทางไปยังสถานที่ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ซึ่งนับเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมมากขึ้นและยังเป็นการช่วยกระจายเศรษฐกิจไปยังชุมชนต่างๆ ไม่เพียงแค่เมืองใหญ่
การที่รัฐบาลไทยขยายระยะเวลาวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวอินเดีย ถือเป็นการสนับสนุนและช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และยังส่งผลให้ความต้องการในการเดินทางมายังประเทศไทยสูงขึ้น ซึ่ง Airbnb พร้อมสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวในประเทศไทย และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในดวงใจของนักเดินทางชาวอินเดีย
"กระแสความนิยมในการเดินทางเที่ยวเมืองไทยของกลุ่มนิวเจนอินเดียเพิ่มมากขึ้น นักเดินทางชาวอินเดียกลุ่มเจน Z และเจน Y ที่จองที่พัก Airbnb มีสัดส่วนมากถึง 80% ของนักท่องเที่ยวชาวอินเดียทั้งหมด เนื่องจากอินเดียมีประชากรเจน Z-Y มากที่สุดในโลก"
อมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไป ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อินเดีย ฮ่องกง และไต้หวัน Airbnb
เปิด 5 อันดับเมืองยอดนิยมในไทยปี 66 ของชาวอินเดีย
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมในประเทศไทยของนักเดินทาง Airbnb ชาวอินเดีย 5 อันดับแรกเมื่อปี 2566 ได้แก่ กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่, และเกาะสมุย ตามลำดับ โดยชาวอินเดียท่องเที่ยวในไทยเพื่อพักผ่อนใกล้ชายหาดและในเมือง ส่วนประเภทที่พัก Airbnb ในไทยที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียเลือกจองมากที่สุด ได้แก่ สระสุดเจ๋ง, เขตร้อน, ชายหาด, อุทยานแห่งชาติ และเมืองดัง
จากข้อมูลการจองที่พัก Airbnb พบด้วยว่า นักท่องเที่ยวชาวอินเดียส่วนใหญ่จะเดินทางเป็นคู่และเดินทางคนเดียว ในขณะที่การเดินทางแบบกลุ่มเล็ก (3-5 คน) และการเดินทางแบบกลุ่มขนาดกลาง (5 คนขึ้นไป) มีการเติบโตเร็วที่สุด โดยนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มเล็กเพิ่มขึ้น 67% และแบบกลุ่มขนาดกลางเพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
