‘โรงแรม-แอร์ไลน์’ ชูนวัตกรรม-ยั่งยืน มัดใจทัวริสต์ขยายวันพักหนุนรายได้โต

เมื่อวันที่ 29 พ.ค. สถาบันเลส์ โรชส์ (Les Roches) สถาบันการโรงแรมระดับโลก จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ร่วมกับ บริษัท เอกธนา ฮอสปิตอลลิตี้ เอ็ดยูเคชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด และบริษัทเนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) จัดงาน “INNOVATION TOURISM & HOSPITALITY FOR SUSTAINABILITY” ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา มีตัวแทนภาครัฐและเอกชนจากประเทศไทยและสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวระดับโลก ขึ้นเวทีนำเสนอมุมมองและเทรนด์นวัตกรรมในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ สู่การพัฒนาธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน

 

“นวัตกรรม-ความยั่งยืน” เมกะเทรนด์ท่องเที่ยว

นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวบนเวทีอภิปรายหัวข้อ “Innovation Tourism Hospitality For Sustainability” ว่า จากเมกะเทรนด์ของภาคการท่องเที่ยวทั่วโลก ทุกประเทศต่างมุ่งขยายวันพำนักของนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้จากการจับจ่าย ภาคการท่องเที่ยวไทยได้เปลี่ยนผ่านจากยุคสมัยการท่องเที่ยวแบบเน้นชมสถานที่ (Sightseeing) เพียงอย่างเดียว และเข้าสู่ยุคใหม่ที่นักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสวัฒนธรรม ประสบการณ์แปลกใหม่ เข้าถึงความเป็นท้องถิ่นยิ่งขึ้น

ประเทศไทยนับเป็นจุดหมายปลายทางที่โชคดีอย่างมาก ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวและสินค้าบริการ สามารถส่งมอบประสบการณ์ผ่านกิจกรรมน่าสนใจ เช่น คลาสสอนมวยไทย คลาสสอนทำอาหารไทย หรือแม้แต่การแต่งกายชุดนักเรียนไทยที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากนักท่องเที่ยวจีนในขณะนี้

“ผมมองว่าซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) คือสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองและเป็นไปโดยธรรมชาติ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องขับเคลื่อนร่วมกัน ให้เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับนานาชาติ”

FETTA จ่อยื่นสมุดปกขาวนายกฯ เคลื่อนท่องเที่ยว

นายเทียนประสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเป้าหมายของรัฐบาลไทยที่ต้องการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่น้อยกว่า 39 ล้านคนในปี 2567 ทางสมาพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย หรือ FETTA (เฟตต้า) เตรียมส่งมอบสมุดปกขาว (White Paper) ถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในเร็วๆ นี้ เพื่อสนับสนุนภารกิจขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวไทย ประเด็นหลักๆ เบื้องต้นคือ การเร่งกระจายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองรอง ไม่ให้กระจุกตัวในเมืองหลัก ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการเดินทาง เช่น รถไฟ ให้ไปไหนมาไหนสะดวกยิ่งขึ้น เพราะการเดินทางไปเมืองรองในปัจจุบันเป็นเรื่องค่อนข้างยาก

อีกโจทย์หลักของภาคการท่องเที่ยวไทยคือการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง (Ease of Traveling) สามารถนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกและยกระดับความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ให้ทุกการเดินทางเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ด้านเทรนด์ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ภาคการโรงแรมต้องผสมผสานการใช้คนและ AI ให้อยู่ในจุดที่เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนของหน้างานยังต้องให้คนต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบริการอันอบอุ่น ส่วนระบบหลังบ้าน ให้พนักงานปรับใช้ AI มาช่วยในการทำการตลาดออนไลน์เพื่อดึงรายได้เข้าโรงแรมควบคู่กับการคุมต้นทุน

“แนวคิดการทำภาคท่องเที่ยวก็เหมือนกับการทำร้านอาหาร ร้านอาหารจะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อมีลูกค้าประจำ มาใช้บริการซ้ำ ภาคท่องเที่ยวก็เช่นกัน เราจำเป็นต้องผลักดันนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางซ้ำให้ยังเดินทางมาไทยต่อเนื่อง พำนักในประเทศไทยนานขึ้น ด้วยการสร้างสรรค์สินค้าบริการและกิจกรรมใหม่ๆ ออกมาดึงดูด รวมถึงการเดินหน้าเรื่องความยั่งยืน ที่ตอนนี้โรงแรมหลายแห่งในไทยกำลังปรับตัวเพื่อรับเทรนด์นี้ สร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจ”

ทัวริสต์เกือบ 30% พร้อมเที่ยวไทยซ้ำใน 12 เดือน

นางสาว Anh-Thu Van Do ผู้จัดการทั่วไป ประจำประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก ทำให้ในปี 2567 น่าจะฟื้นตัวดีกลับไปใกล้เคียงปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 โดยจากรายงานผลการศึกษาของวีซ่า (VISA) เมื่อปี 2566 หัวข้อ “Repeat Travelers to Boost Thailand Tourism” มีการสอบถามกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยเดินทางมาไทยเมื่อปีที่แล้วว่าอยากกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้งหรือไม่ พบว่าเกือบ 30% ตั้งใจกลับมาเที่ยวไทยอีกครั้งใน 12 เดือนข้างหน้า

 

กลุ่มลุฟท์ฮันซ่าลุยการบินยั่งยืน ชี้ไทยสัญญาณดี

ด้านภาคการบินกับมิติความยั่งยืนในระดับโลก จะเห็นความเข้มข้นของทั้งฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจการบินเป็นหนึ่งในกิจกรรมปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจก ด้วยสัดส่วนราว 3% ของการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก ถ้าหากผู้ประกอบการด้านการบินไม่ทำอะไรเลย สัดส่วนอาจมากกว่านี้ในอนาคต เพราะหลังหมดยุคโควิด ผู้คนต่างหลั่งไหลออกมาท่องเที่ยวจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตระหนักด้านความยั่งยืนในยุโรป ทำให้เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการบิน ไปเดินทางด้วยระบบรถไฟแทน หลายประเทศในยุโรปได้กำหนดให้ใช้เชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (SAF: Sustainable Aviation Fuel) มากขึ้น ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเลือกสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดของสายการบิน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนของธุรกิจการบิน

“เรามองว่ามิติความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ต้องเร่งสร้างการรับรู้ให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสายการบินเองก็อยากเห็นว่าลุฟท์ฮันซ่าจะเข้าถึงเรื่องความยั่งยืนได้มากขนาดไหน อีกหนึ่งอย่างก็คือลูกค้าของเราเต็มใจอย่างมากในการชดเชยหรือมีส่วนร่วมช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเมื่อใช้บริการเที่ยวบิน โดยเราเห็นสัญญาณที่ดีอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องความยั่งยืนในประเทศไทย”

 

แอ๊บโซลูท โฮเต็ลฯ แนะเอกชนผนึกรัฐปรับตัว

นายโจนาธาน วิกลีย์ ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่ม บริษัท แอ๊บโซลูท โฮเต็ล เซอร์วิส จำกัด (Absolute Hotel Services) กล่าวเสริมว่า ภาคเอกชนไม่สามารถทำเรื่องทั้งหมดนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว ต้องร่วมมือกับภาครัฐในการผลักดันความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง โดยปัจจุบันโรงแรมในภูมิภาคเอเชียเริ่มเห็นการปรับตัวรับเทรนด์ความยั่งยืนมากขึ้น เพราะในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ถ้าไม่ทำเรื่องนี้ อาจกระทบต่อธุรกิจโรงแรมได้

“ต่างจากเมื่อ 5 ปีก่อน คุณคงไม่เคยคิดว่าเมื่อจองโรงแรมสักแห่ง จะต้องมองหาโรงแรมที่มีชื่อเสียงด้านความยั่งยืน”

ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีสินค้าบริการยอดเยี่ยม ผู้คนยอดเยี่ยม อาหารยอดเยี่ยม เช่น สุดยอดสตรีทฟู้ด ถ้าดูเฉพาะในกรุงเทพฯ จะเห็นนักท่องเที่ยวเอเชียจากจีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ เดินทางมาที่นี่เพื่อกินอาหารอร่อยๆ จำนวนมาก

“การโปรโมตปีการท่องเที่ยวของไทยนับว่าทรงพลังต่อนักท่องเที่ยวทั่วโลก แต่โจทย์สำคัญคือการกระตุ้น เพิ่มการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวให้สูงขึ้นด้วย”