SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ในธุรกิจ Smart System Solution Business ให้คำปรึกษาแก่พาร์ทเนอร์ พัฒนา NET ZERO Building ที่นอกจากช่วยลดก๊าซเรือนกระจกให้กับโลก ยังรวมถึงการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์

ในภาวะโลกรวนจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง สร้างผลกระทบรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กับสิ่งมีชีวิตบนโลก รวมทั้งมนุษย์ซึ่งเป็นผู้สร้างปัญหา ประเด็น "ความยั่งยืน" กลายเป็นวาระระดับโลกที่ทุกประเทศกล่าวถึงและมีความพยายามที่จะเดินหน้าสู่เป้าหมาย NET ZERO หรือการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

วชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า NET ZERO ที่พูดกันมากเวลานี้คือเรื่องของสิ่งแวดล้อม โดย เอสซีจี ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรม รวมถึงโซลูชันเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ดีขึ้นของผู้คน ทั้งการพัฒนาวัสดุที่ยั่งยืนไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของมนุษย์ (Well-Being)

"ดังนั้น จากเดิมที่บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตวัสดุก่อสร้าง ก็ต่อยอดเพิ่มมูลค่างาน ด้วยการพัฒนานวัตกรรมไปจนถึงการให้คำปรึกษาผ่านหน่วยงาน Smart System Solution Business เนื่องจากวัสดุก่อสร้าง ไม่เพียงจบลงที่อาคารหรือที่อยู่อาศัย แต่รวมถึงการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ด้วย โดยเฉพาะเรื่องการให้คำปรึกษาด้านอาคารเขียวที่ เอสซีจี ดำเนินการมากว่า 10 ปี มีอาคารที่เข้าไปให้คำปรึกษาและประสบความสำเร็จมาแล้วมากกว่า 200 โครงการ ทำให้สามารถนำองค์ความรู้มาต่อยอดและร่วมมือกับพันธมิตรในการขยายผลให้ตอบโจทย์ NET ZERO Building ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการ ลดก๊าซเรือนกระจก ให้กับโลก"

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building

สร้างต้นแบบอาคาร NET ZERO

วชิระชัย กล่าวต่อว่า อาคารต่างๆ ถือเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 39% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด ดังนั้นหากสามารถทำให้อาคารต่างๆ เพิ่มศักยภาพในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ ได้ ก็จะเป็นตัวขับเคลื่อนประเทศสู่ NET ZERO ได้เป็นอย่างดี เอสซีจีจึงได้ต่อยอดแนวคิดผู้ให้บริการด้าน Solution (Solution Provider) โดยผนึกกำลังพันธมิตร เพื่อต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและโซลูชัน ที่ตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนให้มากที่สุด ซึ่งล่าสุดได้จับมือกับ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โดยมีเป้าหมายร่วมกันศึกษาและพัฒนา Guideline โครงการ Pathway to NET ZERO Building ผ่านโครงการต้นแบบและขยายผลการดำเนินการ โดยการใช้เทคโนโลยีประหยัดพลังงานและมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) ภายใต้เงื่อนไขความร่วมมือซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายที่จะนำโครงการต้นแบบนี้เผยแพร่ผลสัมฤทธิ์สู่สาธารณชน

"แรกเลยคือ เราจะนำองค์ความรู้ของเรามาช่วยพัฒนาเฟรมเวิร์กที่จะเป็นเหมือนคู่มือ หรือ Guideline ที่หากเราจะทำ Net Zero Building ควรจะทำอย่างไรบ้าง มีแนวความคิด มีมาตรฐานอะไรบ้างที่จะต้องกำหนด และมีโซลูชันอะไรบ้างที่จะนำมาช่วยได้"

วชิระชัย กล่าวต่อไปว่า แม้ความร่วมมือกับเซ็นทรัลพัฒนานั้นมีมานาน แต่ครั้งนี้ เอสซีจี และ เซ็นทรัลพัฒนา ต้องการทำให้การพัฒนาอาคารเขียวเพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้เป็นกรอบใหญ่ขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกจากอาคารต่างๆ มีจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีการเดิมๆ อาจไม่เพียงพอ ต้องมีวิธีการใหม่ๆ มาตรฐานใหม่ๆ เข้ามา จึงเกิดเป็นความร่วมมือที่จะนำโครงการต่างๆ ของเซ็นทรัล ได้แก่ เซ็นทรัล เวสต์วิลล์, แจ้งวัฒนะ, พัทยา, อยุธยา, นครปฐม และนครสวรรค์ เข้ามาเป็นโครงการนำร่องในการออกแบบ พัฒนาเพื่อนำนวัตกรรมและโซลูชันที่เหมาะสม เพื่อขยับขึ้นมาสู่ Net Zero 2050 ให้มากขึ้น

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building

วิเคราะห์ต้นทุน-ความคุ้มค่า

แนวทางการดำเนินงานของ Smart System Solution Business บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และเซ็นทรัลพัฒนาในครั้งนี้ สอดคล้องกับแนวการพัฒนาที่ยั่งยืนของ เอสซีจี ที่ให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในอาคารมาโดยตลอด โดยบริษัท SCG Building and Living Care Consulting ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นจากการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างของเอสซีจี ผนึกเข้ากับแนวทาง ESG ขับเคลื่อนธุรกิจให้สอดคล้องกับหลักพัฒนาคุณภาพทางสังคมแบบยั่งยืน ต่อยอดสู่ธุรกิจบริการให้คำปรึกษาด้านอาคารโดยผู้ชำนาญการ

วชิระชัย กล่าวว่า SCG Building and Living Care Consulting มีเป้าหมายหลักในการสร้างมาตรฐานคุณภาพการใช้ชีวิตภายในอาคารให้ดีขึ้น จาก 3 บริการหลักคือ Sustainability and Wellbeing Building Certification, Building Services Engineering และ Healthcare and well-being Design ซึ่งมีความชำนาญในการให้คำปรึกษาและออกแบบอาคารเพื่อความยั่งยืนและเพื่อสุขภาวะที่ดี ผ่านการให้คำปรึกษาเพื่อออกแบบกรอบแนวทางดำเนินการวิเคราะห์องค์กร อาคารและผลิตภัณฑ์ คำนวณความคุ้มค่าและผลตอบแทน พร้อมนำเสนอ Solutions ให้เหมาะสมกับเป้าหมายและงบประมาณของแต่ละองค์กร

ทั้งนี้ การทำ NET ZERO Building ไม่จำเป็นต้องเป็นอาคารก่อสร้างใหม่เพียงอย่างเดียว สำหรับอาคารเก่า เอสซีจีก็มีโซลูชันและนวัตกรรมเทคโนโลยีที่สามารถนำมาปรับใช้ได้ ซึ่งการปรับปรุงอาคารเก่าจะช่วยเรื่องการประหยัดพลังงานได้เยอะ และยังลดผลกระทบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงไปได้มากด้วยเช่นกัน

"เราต้องดูที่ baseline ต้องมีการคำนวณ โดยคนที่มีความรู้ว่าตอนนี้ baseline การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของอาคารนี้มีเท่าไร และตั้งเป้าว่าลดเท่าไร ก็จะได้มีทุกอย่างออกมาเป็นรูปธรรม จับต้องได้ วัดผลได้ เพราะเวลาพูดถึง Net Zero เราพูดถึงการวัดผลได้" 

วชิระชัย กล่าวต่อไปด้วยว่า สำหรับการสร้างและปรับปรุงอาคารให้ได้มาตรฐานอาคารเขียวหรือเป็นอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อขับเคลื่อนสู่ Net Zero บริษัทที่ปรึกษามีบทบาทสำคัญที่จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์ว่าจะต้องลงทุนเท่าไร จะได้เป็นอาคารเขียวระดับไหน บวกกับความคุ้มค่าต่างๆ ที่จะมีส่วนร่วมพิจารณาร่วมกับเจ้าของอาคารด้วยเช่นกัน และเรื่องของอาคารเขียว จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นแนวทางสำคัญของการเดินสู่เป้า Net Zero อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ที่ผ่านมา บริษัท SCG Building and Living Care Consulting ในฐานะที่ปรึกษา ยังช่วยให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คว้ารางวัล Best in Building Health 2020 จาก Center for Active Design จากรางวัลมาตรฐานอาคารเพื่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน "fitwel Certificate" ระดับสูงสุด 3 ดาว เป็นแห่งแรกในเอเชีย และแห่งแรกนอกทวีปอเมริกา

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building

Open Innovation ร่วมคิดร่วมพัฒนา

สำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีและโซลูชันที่ เอสซีจี นำมาให้บริการ เกิดจากคอนเซ็ปต์ Open Innovation เป็นการพัฒนาแบบร่วมมือกันทำทั้งกับพาร์ทเนอร์และคู่ค้า โดยเอสซีจีทำหน้าที่เป็น Solution Provider รวบรวมแนวคิดแล้วนำมาพัฒนาต่อยอด ให้เป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ได้เร็วขึ้น

หากมองถึงนวัตกรรมหรือโซลูชันที่ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่ในอาคารให้มีสุขภาวะที่ดี "วชิระชัย" กล่าวเสริมว่า คงหนีไม่พ้นนวัตกรรมหลักในด้านการประหยัดพลังงานและนวัตกรรมที่ช่วยดูแลคุณภาพอากาศในอาคาร เช่น SCG Bi-ion ระบบไอออนกำจัดเชื้อโรคในอากาศ และ SCG Air Scrubber ระบบบำบัดอากาศเสีย พร้อมลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้อาคารประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 20% จากการลดภาระการทำความเย็นของระบบปรับอากาศ ทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นเส้นทางสู่ Net Zero พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยให้มีสุขภาวะที่ดีขึ้นจากการบำบัดก๊าซเสียและมลพิษภายในอาคาร โดยนวัตกรรมทั้ง 2 ส่วนนี้ หากนำมาใช้ประกอบกันได้ภายในอาคาร จะทำให้เป็นประโยชน์ต่อการใช้งานอย่างมาก

"Pathway to NET ZERO Building ไม่ใช่เรื่องทำกันแค่สั้นๆ แต่เป็นกีฬามาราธอนที่ต้องพัฒนาและเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นหนึ่งที่เราออกตัวมาได้ดี และต้องเดินต่อไป" วชิระชัย กล่าวทิ้งท้าย

ตัวอย่างโครงการอื่นๆ

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building โครงการ PTT Station & Amazon cafe Phutthamonthon Sai 3

SCG ต่อยอดแนวคิด Solution Provider ขับเคลื่อน Pathway to NET ZERO Building โครงการสินธร วิลเลจ