เกาะรอยเส้นทางโต ‘กาแฟพันธุ์ไทย’ แจ้งเกิดในปั้ม 11 ปี สู่การสยายปีกนอกปั้ม

เกาะรอยเส้นทางโต ‘กาแฟพันธุ์ไทย’  แจ้งเกิดในปั้ม 11 ปี สู่การสยายปีกนอกปั้ม

เจาะลึกแผน 'กาแฟพันธุ์ไทย' ในปี 2566 ปรับแผนการเปิดสาขาใหม่จากการเปิดสาขาในปั้ม สู่โมเดลใหม่การเปิดร้านนอกปั้ม พร้อมเร่งขยายแฟรนไชส์ เดินหน้าปรับรีแบรนด์ใหม่ครั้งใหญ่รอบ 10 ปี ขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่

ภาพการจดจำของกาแฟพันธุ์ไทย ที่อยู่ในตลาดมายาวนานร่วม 11 ปี จะอยู่เคียงข้างกับสถานีบริการน้ำมันพีทีเป็นหลัก แต่ในปัจจุบันภาพของกาแฟพันธุ์ไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไป จากการปรับกลยุทธ์สู่การเปิดสาขาใหม่นอกสถานีบริการน้ำมันเป็นครั้งแรก เพื่อเป้าหมายการมีสาขาเปิดให้บริการรวม 5,000 สาขาทั่วไทยภายในปี 2570 หรือในอีก 4 ปีข้างหน้า

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดกาแฟในประเทศไทยมีมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดกาแฟนอกบ้าน 2.70 หมื่นล้านบาท และตลาดกาแฟในบ้าน มูลค่า 3.30 หมื่นล้านบาท และตลาดรวมมีการขยายตัว 9.5% ในช่วงที่ผ่านมา

ปัจจัยที่ทำให้ตลาดกาแฟในไทยมีการขยายตัวดีมาตลอด มาจากการที่การดื่มกาแฟของคนไทยเพิ่มขึ้น และมาจากคนรุ่นใหม่สนใจดื่มกาแฟสูงขึ้น  แม้ว่าฐานการดื่มกาแฟของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในโลก

แผนการรุกตลาด "กาแฟพันธุ์ไทย" ในปี 2566 จะเน้นเปิดสาขานอกปั้มน้ำมัน เนื่องจากโอกาสของตลาดยังมีช่องว่างให้แบรนด์ไทย สามารถขยายกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ จึงได้ปรับโมเดลการขยายสาขาใหม่นอกปั้มน้ำมัน พีที ไปสู่การเปิดใหม่พื้นที่เดี่ยว ในแบบแฟรนไชส์ โดยวางรูปแบบสาขาในการขยายแฟรนไชส์ใน 3 แบบ ซึ่งการลงทุนสาขาแฟรนไชส์จะอยู่ที่ 1.25 ล้านบาท และเฉลี่ยแล้วการลงทุนในธุรกิจกาแฟ จะสามารถคืนทุนในเวลา 2-3 ปี

ทั้งนี้จะใช้โมเดลการขยายสาขาแบบแบบ 1 อำเภอ 1 สาขา ที่มีรูปแบบสาขาเปิดให้บริการในปัจจุบันได้แก่ การมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่น การเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่ม Non – Beverage ทั้งขนมอบและเบเกอรี โดยนำขนมแปรรูปมาจากชุมชนในทั่วประเทศ

รวมถึงจะมุ่งขยายฐานลูกค้าสมาชิก จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าสมาชิกกว่า 19 ล้านราย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 21 ล้านรายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้าสมาชิกบัตร Max Card Plus หรือ บัตรแดง ที่มีราคา 599 บาท แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จำนวนมาก คาดว่าจะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มกว่า 1 ล้านคน

นายอรุณพงษ์ ทิพย์คงคง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกาแฟพันธุ์ไทย กล่าวว่า การปรับไปขยายสาขาใหม่นอกปั้มจะรุกเปิดอย่างจริงจังในปี 2566 โดยบริษัทต้องวางกลยุทธ์ใหม่ จากที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เข้ามาใช้บริการในสถานีน้ำมัน พีที และกลุ่มคนเดินทางเป็นหลัก ซึ่งมีหลากหลายกลุ่มช่วงอายุ แต่การปรับไปเปิดนอกปั้ม จะต้องปรับภาพลักษณ์ของกาแฟพันธุ์ไทยใหม่ มุ่งขยายสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนทำงาน โดยเฉพาะอายุ 25-45 ปี

กาแฟพันธุ์ไทย เตรียมจัดทำแคมเปญใหม่ออกมาสู่ตลาด เพื่อสื่อสารถึงแบรนด์กาแฟพันธุ์ไทยในภาพลักษณ์ใหม่ และสร้างการจดจำแก่กลุ่มลูกค้า อีกสิ่งสำคัญคือ การมุ่งนำเสนอเมนูกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มในร้านที่จะปรับให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่มากที่สุด

เกาะรอยเส้นทางโต ‘กาแฟพันธุ์ไทย’  แจ้งเกิดในปั้ม 11 ปี สู่การสยายปีกนอกปั้ม

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ กล่าวต่อว่า จากการปรับแผนใหม่ไปสู่การเปิดสาขาในแบบแฟรนไชส์ จะทำให้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะมีสาขามาจากแฟรนไชส์ 70-80% และมาจากการลงทุนของบริษัทเอง 20-30% จากในปัจจุบัน จะมาจากการลงทุนของบริษัทเป็นหลัก

สาขาในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 600 สาขา แบ่งเป็น สาขาในปั้ม 80% และนอกปั้ม 20% คาดว่าในสิ้นปีนี้ จะมีสาขาในปั้ม 60% และนอกปั้ม 40% โดยตั้งเป้าหมายในปี 2570 ที่จะมีสาขาเปิดให้บริการรวม 5,000 สาขาทั่วประเทศไทย แบ่งสาขาเป็น ในปั้ม 70% และนอกปั้ม 30% ส่วนในสิ้นปี 2566 คาดว่าจะมีสาขาเปิดให้บริการรวม 1,500 สาขา

เกาะรอยเส้นทางโต ‘กาแฟพันธุ์ไทย’  แจ้งเกิดในปั้ม 11 ปี สู่การสยายปีกนอกปั้ม

จากการปรับแผนใหม่ ทำให้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2566 อยู่ที่ 2,300 ล้านบาท เติบโต 80% พร้อมสร้างกำไรเติบโต 2 เท่าตัวจากปีก่อน ส่วนเป้าหมายในระยะยาวมีแผนนำบริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด เข้าตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปี 2568