เที่ยวไทยบูม‘เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท’ เร่งรีโนเวท ปั้นสู่เดสทิเนชั่น

เที่ยวไทยบูม‘เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท’ เร่งรีโนเวท ปั้นสู่เดสทิเนชั่น

"เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท" วางเป้ารีโนเวทสาขาครั้งใหญ่ ชี้โอกาสตลาดท่องเที่ยว 2 เดือนโต 1,500% เดินหน้าปรับสู่จุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการ พร้อมเปิดจุดชาร์ทรถยนต์ไฟฟ้า สาขาพัทยา ให้มีขนาดใหญ่สุด

จากการเปิดประเทศรอบใหม่ เป็นแรงหนุนต่อภาคธุรกิจการท่องเที่ยวไทยและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องมีความคึกคัก "เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท" เดินหน้าพลิกโฉมครั้งใหญ่ดึงนักท่องเที่ยว 

นายธรรมศักดิ์ จิตติมาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้าน เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท (FN Outlet) กล่าวว่า ตลาดการท่องเที่ยวในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง เห็นได้จากในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 1,500% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลดีต่อบริษัท ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นและกำลังซื้อที่กลับมา ทำให้บริษัทวางแผนจะรีโนเวทสาขาครั้งใหญ่ ให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ หรือ เดสทิเนชั่นการท่องเที่ยวในประเทศไทย

 

"การวางเป้าหมายปรับสาขาให้เป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวแห่งใหม่ เพื่อทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเข้ามาใช้ชีวิตและใช้บริการท่องเที่ยวในพื้นที่ยาวนานมากขึ้น" 

เที่ยวไทยบูม‘เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท’ เร่งรีโนเวท ปั้นสู่เดสทิเนชั่น
 

ทั้งนี้วางแผนจะรีโนเวทสาขาใหม่ทั้งที่ ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่จะปรับพื้นที่ใหม่ที่เพิ่มพื้นที่สีเขียว และขยายพื้นที่ร้านอาหาร เพื่อเพิ่มพื้นที่เช่าภายใน เพื่อทำให้กลายเป็นจุดแหล่งท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจและดึงดูดทุกคนเข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่

สาขาต่อมา พัทยา เตรียมปรับพื้นที่ทั้งร้านอาหารและพื้นที่ร้านกาแฟ พร้อมเพิ่มสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้มี 10 หัวชาร์จ ทำให้กลายเป็นสถานีชาร์จรถยนต์ ไฟฟ้าที่ใหญ่สุดในพัทยา เนื่องจากตลาดการท่องเที่ยวที่กำลังขยายตัว รวมถึงสอดรับกับกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการเพิ่มภาพลักษณ์และการให้บริการแก่ลูกค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น โดยการขยายเพิ่มจุดชาร์จนี้เป็นความร่วมกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ 

 

 

เที่ยวไทยบูม‘เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท’ เร่งรีโนเวท ปั้นสู่เดสทิเนชั่น พร้อมกันนี้ จะปรับโฉมสาขาใหม่ทั้งที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และฉะเชิงเทรา ให้มีความสดใสและความโดดเด่นมากขึ้น เพื่อรองรับการเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะเข้ามาใช้บริการ แวะถ่ายรูป และทำกิจกรรมต่างๆ ส่วนสำนักงานใหญ่ที่พระราม 9 ที่ได้จัดทำเป็น สาขามินิเอ๊าท์เลท จะมุ่งขยายบริการผ่านระบบออนไลน์ ทำให้สามารถให้บริการส่งสินค้าในพื้นที่ กทม. สามารถส่งได้ในเวลาวันเดียว หรือส่งได้ในวันรุ่งขึ้น

นอกจากการปรับสาขาแล้ว บริษัทได้มีการรีแบรนด์กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์ Inco Women และกระเป๋าเดินทาง Rollica brand ใหม่ สำหรับการรุกตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศและตลาดต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี

ภาพรวมในปัจจุบัน บริษัทมีสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัททั้ง กลุ่มเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย ทั้ง Inco, Cheval, Sleep Mate, ETC และกลุ่มที่ไม่ใช่เสื้อผ้า ได้แก่ แบรนด์ Cherish, Prim, Rollica, Cushy เป็นต้น โดยในระยะยาวมีความสนใจขยายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทไปสู่ตลาดต่างประเทศ คาดว่าจะเริ่มจากตลาดออนไลน์ในช่วงไตรมาสสองหรือไตรมาสนี้

ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่า จากการปรับโฉมสาขาครั้งใหม่ จะทำให้ผลประกอบการรวมในสิ้นปี 2566 ขยายตัวได้ดีอีกครั้ง หลังจากในสองปีที่ผ่านมา ภาพรวมผลประกอบการชะลอตัวลง โดยปัจจุบันมีสาขาเปิดให้บริการรวม 12 สาขา ได้แก่ เพชรบุรี กาญจนบุรี พัทยา ปากช่อง สิงห์บุรี หัวหิน ศรีราชา พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง มินิช้อปสำนักงานใหญ่ และสาขา Singer x FN living space ถนนคู้บอน กทม. รวมถึงมีผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ทั้งผ่าน แอปพลิเคชั่น FN และผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ