ซีอาร์จี เร่งเครื่องลงทุนใหญ่ 1,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ธุรกิจอาหารไทยมาแรง

ซีอาร์จี เร่งเครื่องลงทุนใหญ่ 1,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ธุรกิจอาหารไทยมาแรง

เปิดแผนลงทุนซีอาร์จี ปี 2566 ทุ่มงบ 1,500 ล้านบาท ผุดสาขาใหม่ 150 สาขา เรือธงหลักเคเอฟซี ส่วนแบรนด์ไทยน้องใหม่ที่ร่วมลงทุน ชินคันเซ็น ซูซิ พร้อมดัน ร้านปิ้งย่างแบรนด์ใหม่ “นักล่าหมูกระทะ” ดาวรุ่งมาแรง พร้อมเตรียมแผนเปิดธุรกิจอาหารในเวียดนาม ตลาดกำลังเติบโต

จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่กลับมาขยายตัวได้ดีในปี 2566 และการท่องเที่ยวที่กลับมาเติบโตแรง ทำให้ภาคธุรกิจอาหารไทยต่างมุ่งแผนการลงทุนในปีนี้ โดยบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป ได้ประกาศแผนลงทุนครั้งสำคัญในปีนี้ ทั้งในประเทศและตลาดเวียดนาม

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี (CRG) กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวที่ดี และธุรกิจอาหารมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง คาดว่าธุรกิจอาหารที่มีมูลค่ามากกว่า 4 แสนล้านบาท จะมีการขยายตัว 2-3% ได้รับผลจากตลาดท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวและมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในประเทศ

ซีอาร์จี เร่งเครื่องลงทุนใหญ่ 1,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ธุรกิจอาหารไทยมาแรง สำหรับแผนลงทุนในปี 2566 จะใช้งบลงทุน 1,500 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจอาหารในเครือรวม 20 แบรนด์ แบ่งเป็น การใช้งบลงทุนเพื่อเปิดสาขาใหม่รวม 150 สาขา โดยแบรนด์หลักในการขยายสาขาได้แก่ ร้านไก่ทอดเคเอฟซี, ร้านชินคันเซ็น ซูซิ, ร้านมิสเตอร์โดนัท, ร้านอานตี้แอนส์ และ ร้านเครื่องดื่มอาริกาโตะ รวมถึงใช้เพื่อการเข้าไปร่วมทุนในธุรกิจในกลุ่มธุรกิจอาหารใหม่ ประมาณ 1-2 แบรนด์

ทั้งนี้ในปี 2565 ได้มีการเข้าไปลงทุนในกลุ่มธุรกิจอาหารแบรนด์ใหม่ได้แก่ ราเมน คาเกทสึ อาราชิ แบรนด์ราเมงดังท็อป 3 ของประเทศญี่ปุ่น และเข้าไปร่วมลงทุนแบรนด์ของผู้ประกอบการไทยกับ "ชินคันเซ็น ซูซิ" ที่มีธุรกิจแบรนด์ใหม่คือ ร้านปิ้งย่างแบรนด์ “นักล่าหมูกระทะ” ซึ่งจะเสริมพอร์ตฟอลิโอ ของธุรกิจอาหารให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ทำให้ในปีนี้จะขยายสาขาของ ธุรกิจที่เข้าไปร่วมทุน 25 สาขา ทั้งแบรนด์ส้มตำนัว, ชินคันเซ็น ซูซิ ที่มีแบรนด์ใหม่ นักล่าหมูกระทะ, สลัดแฟคทอรี่ และ บราวน์

ซีอาร์จี เร่งเครื่องลงทุนใหญ่ 1,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ธุรกิจอาหารไทยมาแรง พร้อมกันนี้ บริษัทมีแผนเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนาม เนื่องจากมีภาพรวมเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่อเนื่อง มีประชากรในประเทศกว่า 100 ล้านคนและมีกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก โดยจะนำแบรนด์ในเครือไปขยายการลงทุน เนื่องจากมีความพร้อมในการดำเนินธุรกิจอาหารมายาวนาน และมีบริษัทแม่คือ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่นที่มีธุรกิจในเวียดนามอยู่แล้ว จึงมีความพร้อมในการเปิดสาขาในปีนี้

"บริษัทได้ศึกษาตลาดเวียดนามมานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด แต่เมื่อเกิดโควิด จึงชะลอการเข้าไปลงทุนเปิดสาขา โดยตลาดเวียดนามมีความน่าสนใจที่จะนำแบรนด์ไทยไปขยาย เพราะจากการศึกษาตลาดพบว่ามีร้านอาหารไทยไปเปิดอยู่ที่มีการขยายสาขาหลายแห่ง แต่ไม่ใช่แบรนด์ของผู้ประกอบการไทย และตลาดอาหารไทยก็ได้รับความนิยมในตลาดนี้" 
ซีอาร์จี เร่งเครื่องลงทุนใหญ่ 1,500 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ธุรกิจอาหารไทยมาแรง ขณะเดียวกัน ภาพรวมธุรกิจในปีนี้จะต้องมีปัจจัยที่ติดตามกับเรื่องวัตถุดิบที่สูงขึ้น และบริษัทพยายามตรึงราคาอาหารให้นานที่สุด รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องพนักงาน โดยในปัจจุบันมีพนักงานรวม 1 หมื่นคน

ทั้งนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในปี 2566 จะสร้างผลประกอบการอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท และมียอดขายรวมเติบโต 20% จากปีก่อน โดยมีแบรนด์ภายใต้บริหารจัดการรวม 20 แบรนด์ และมีสาขารวมเปิดให้บริการมากกว่า 1,500 สาขาทั่วประเทศ