ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’ ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก

อาณาจักร “ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น” บิ๊กเพลย์เยอร์ธุรกิจ “พรม” ในไทยและภูมิภาคอาเซียน ได้เวลาสยายปีกทั้งกลุ่มธุรกิจพรมในรถยนต์และในบ้าน ธุรกิจโซฟา พร้อมแจ้งเกิดดาวรุ่งน้องใหม่ “แผ่นเก็บเสียง” และจ่อซื้อ “ธุรกิจใหม่” ในอังกฤษ ต่อยอดธุรกิจไลฟ์สไตล์ลิฟวิ่งอย่างครบวงจร

ภายใต้การกุมบังเหียนของ พิมล ศรีวิกรม์ หลังยุติบทบาททางการเมือง นั่งเก้าอี้ซีอีโอรับไม้ต่อในฐานะเจเนอเรชันที่ 2 สร้างธุรกิจพุ่งทะยานจากยอดขาย 700 ล้านบาทโตก้าวกระโดด 10 เท่า ในช่วงเวลา 10 ปี ทำนิวไฮแตะ  8,000 ล้านบาท! นับเป็นแรงส่งที่ดี! ต่อการเคลื่อนทัพผงาดเวทีโลกอีกรายสำหรับทุนสัญชาติไทย 

พิมล ศรีวิกรม์  ประธาน บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” เริ่มต้นบทสนทนาด้วยวิสัยทัศน์ธุรกิจของ TCMC ที่ พิมล วางไว้อย่างชัดเจนว่า มุ่งขยายธุรกิจเดิม เพิ่มกลุ่มธุรกิจใหม่ เน้นการซื้อกิจการ (Acquisition) เพื่อเร่งการเติบโตให้ธุรกิจ พร้อมมุ่งหน้าสู่ตลาดโลก ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะตลาดเมืองไทย

โดยห้วงวิกฤติ 2-3 ปีที่ผ่านมา นับเป็นจังหวะดีของการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ! ให้มีความ Lean มากขึ้นในทุกส่วน ไล่ตั้งแต่การปรับโครงสร้างผู้บริหาร การวางแผนการผลิตให้เหมาะสมด้วยการปรับโครงสร้างโรงงาน โดยธุรกิจในอังกฤษจากที่เคยมี 3 โรงงาน ปรับลงเหลือ 2 โรงงานใหญ่ ส่วนอีก 1 โรงงานที่หยุดไป เนื่องจากเป็นโรงงานขนาดเล็กซึ่งได้เช่าพื้นที่ผลิตสินค้า จึงย้ายเครื่องจักรมายังโรงงานใหญ่ นอกจากนี้ได้ปรับจำนวนพนักงานในโรงงานของกลุ่มธุรกิจพรมให้เหมาะสมกับกำลังการผลิต จาก 1,800 คน ปรับมาอยู่ที่ 1,200 คน แต่หากในอนาคตมีการผลิตเพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่มแรงงานผลิตขึ้นได้

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก สำหรับโครงสร้างธุรกิจปัจจุบันมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ “TCM Automotive” ธุรกิจพรม และวัสดุหุ้มบุในรถโดยสาร ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ “TCM Surface” ธุรกิจพรมและวัสดุปูพื้น โดยเฉพาะพรมทอด้วยเครื่องจักรและทอด้วยมือ ใช้ในโรงแรม โรงภาพยนตร์สนามบิน และบ้าน เป็นต้น ใช้เครื่องหมายการค้า Royal Thai และ Carpets Inter และ “TCM Living” ลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศอังกฤษ โดยเฉพาะโซฟาและโซฟาปรับนอนได้ ทั้งชนิดหุ้มผ้าและหุ้มหนัง ใช้เครื่องหมายการค้า Alstons, Ashley Manor, AMX Design และ Alexander & James ซึ่งธุรกิจในอังกฤษเป็นการเข้าซื้อกิจการมาก่อนหน้านี้

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก “ปี 2566 สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นจากปีก่อน เพราะการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา นักท่องเที่ยว และนักธุรกิจทั่วโลกมีการเดินทาง ทำให้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการขยายตัวที่ดี ส่งผลต่อเนื่องมายังธุรกิจของ TCMC”

ดังนั้น ก้าวต่อไปของ “TCMC”  มุ่งสู่ตลาดโลกโดยจะให้ความสำคัญในการขยาย 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ทั้ง กลุ่มธุรกิจพรมในรถยนต์ ที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีต่อเนื่อง ตามแนวโน้มอุตสาหกรรมในตลาด ทำให้มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น  ตามมาด้วยกลุ่มธุรกิจพรมในโรงแรม จะใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ลงทุนในโรงงานเพื่อขยายและปรับปรุงเครื่องจักร รองรับโอกาสจากธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยและทั่วโลกกลับมาเปิดบริการทั้งหมด ซึ่งโรงแรมบางแห่งไม่ได้ซ่อมแซม หรือต้องปิดนาน 2 ปี แน่นอนว่า นำมาสู่ “คำสั่งซื้อพรม” ที่เพิ่มขึ้น 

ปัจจุบัน TCMC เป็นผู้นำในตลาดพรม ครองส่วนแบ่งการตลาดในไทย 65-70% จากตลาดในประเทศมูลค่า 2,000 ล้านบาท และเป็นเบอร์ 1 ของตลาดอาเซียนอีกด้วย 

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก

เปิดตลาดใหม่เจาะไพรเวทเจ็ท-สนามบิน-เรือยอชต์

การต่อยอดธุรกิจพรมไปในตลาดโลกนั้น “พิมล” ฉายภาพให้เห็นด้วยว่า ตลาดที่ให้ความสำคัญมากขึ้นจะเป็นกลุ่มพรมในเครื่องบิน ไพรเวทเจ็ท และเรือยอชต์ เริ่มมีลูกค้าใหม่จากสหรัฐ ขณะที่ตลาดสนามบิน มีกลุ่มลูกค้าสนามบินสิงคโปร์และฮ่องกงมาใช้บริการแล้ว

“เราเน้นทำตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (นิชมาร์เก็ต) และมีการสั่งซื้อสินค้าต่อเนื่อง จากคุณภาพการผลิตสินค้า การดีไซน์ที่แตกต่าง ประกอบกับการมีทีมขายในต่างประเทศที่แข็งแกร่ง ทั้งที่สิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และยุโรป นับเป็นจุดแข็งของ TCMC”

อีกธุรกิจใหม่ที่เป็นดาวรุ่งคือ “แผ่นซับเสียง” เป็นวัสดุที่อยู่ติดอยู่กำแพงและเพดาน ที่มีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียงในห้อง เริ่มทำตลาดในปีนี้เป็นการขยายตลาดกลุ่มใหม่ๆ ทั้งลูกค้ากลุ่มที่ทำห้องประชุม คอนเสิร์ต 

สำหรับวัสดุเก็บเสียงได้ทำการวิจัยและพัฒนาตั้งแต่ปลายปี 2564 และเป็นรายแรกๆ ในประเทศไทยที่ได้ทำออกมาสู่ตลาด

ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก

ขยายไลน์โปรดักต์ใหม่ในธุรกิจโซฟา

และไม่บ่อยนักที่ธุรกิจของไทยจะผงาดในต่างประเทศได้สำเร็จ! ซึ่ง “พิมล” เป็นหนึ่งในนี้กับธุรกิจโซฟาในประเทศอังกฤษ พิมล เล่าต่อว่า การเปลี่ยนผ่านหลังซื้อกิจการเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง! โดยบริษัทอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแรงมาก เป็นผู้ผลิตและนำเข้าโซฟาประเทศอังกฤษ อยู่ในลำดับต้นๆ จะเรียกว่าเป็นผู้นำในตลาดก็ว่าได้ 

“ปีนี้เศรษฐกิจอังกฤษอาจไม่ดีนัก เพราะมีปัญหาเงินเฟ้อ ดอกเบี้ย และค่าพลังงานสูงขึ้น แต่เรามุ่งขยายช่องทางออนไลน์เพื่อเจาะตรงผู้บริโภคในรูปแบบ B2C ไม่ได้เน้นการขยายสาขาเหมือนที่ผ่านมาซึ่งขายผ่านรีเทลเลอร์เป็นส่วนใหญ่”

กลยุทธ์จากนี้ จะเพิ่มความหลากหลายของสินค้า จากที่มีโซฟาเป็นโปรดักท์แชมเปี้ยน! จะเพิ่ม  “โต๊ะ” ให้ครอบคลุมในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ เพื่อก้าวสู่ “ไลฟ์สไตล์ ลิฟวิ่ง” ครบวงจรเต็มตัวในปีหน้า พร้อม “ต่อยอด” ขยายตลาดส่งออก ทั้งยุโรป ตะวันออกกลาง และจีน ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพและโอกาสของเศรษฐกิจในประเทศดังกล่าวที่กำลังเติบโต

พิมล กล่าวต่อถึงการบริหารจัดการธุรกิจในอังกฤษให้สามารถเดินหน้าต่อเนื่องได้อย่างราบรื่นนั้น ใช้แนวทางผสมผสานการบริหารและวัฒนธรรมของทั้งแบบไทยและอังกฤษเข้าด้วยกัน เช่น อังกฤษในช่วงซัมเมอร์ของทุกปี พนักงานทุกคนจะต้องหยุด 2 สัปดาห์ และต้องปิดโรงงาน! ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของอังกฤษ แตกต่างจากไทยที่ไม่มีการปิดโรงงานเลย ต้องทำความเข้าใจจุดนี้  ส่วนระบบการทำงานของไทย หากมีช่วงเวลาที่ต้องประชุมด่วนก็ต้องสามารถทำได้ทันที ทุกคนก็เข้าใจ เมื่อมาผสมผสานกันทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางด้วยดี

ปัจจุบัน ในอังกฤษมีพนักงาน 500-600 คน รวมทั้งในโรงงานและสำนักงาน การทำงานโดยรวมเดินหน้าได้ดี ชาวอังกฤษมีการทำงานที่สร้างโปรดักต์ทิวิตี้ที่ดี มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดี สร้างผลผลิตในการทำงานที่ดี มีความซื่อสัตย์ มีมารยาทดี และมีความเที่ยงตรงต่อหน้าที่มาก
ผ่าอาณาจักรหมื่นล้าน‘TCMC’  ลุยต่อยอดธุรกิจทั่วโลก เล็งซื้อธุรกิจใหม่เสริมแกร่งไลฟ์สไตล์ลิฟวิ่ง

อย่างไรก็ดี การลงทุนซื้อธุรกิจที่ผ่านมา พิมล ยอมรับว่า ได้บทเรียนและมีผิดพลาดบ้างเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ! และเวลานี้ กำลังศึกษาแผนซื้อธุรกิจใหม่เกี่ยวกับกลุ่มตกแต่งภายในและสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เพื่อขยายการเติบโตครั้งใหม่ 

"การโตที่รวดเร็วคือ การซื้อกิจการ ซึ่งช่วงโควิดเราได้ศึกษาข้อมูลธุรกิจใหม่ที่จะเข้าซื้อ แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ ผมเป็นคนที่ทำแล้วค่อยพูด การเข้าซื้อกิจการใหม่นั้นยังมองที่อังกฤษเป็นลำดับต้นๆ เพราะมีบริษัทและเครือข่ายพร้อมอยู่แล้ว รวมถึงมีธุรกิจส่วนตัวของครอบครัวที่ซื้อไว้แล้ว คือ ธุรกิจโรงแรม”

สำหรับปี 2566 นี้ TCMC คาดธุรกิจขยายตัว 10% กลุ่มที่โตมาแรง ได้แก่ พรมสำหรับกลุ่มโรงแรม รองลงมา คือ พรมในกลุ่มรถยนต์ และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์

พิมล กล่าวทิ้งท้ายถึงการเลือกตั้งที่กำลังเกิดขึ้นในเดือน พ.ค.นี้ว่า...การเลือกตั้งเป็นเรื่องที่ดีที่มีการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาตลาดซบเซาพอควรดูได้จากตัวเลขเศรษฐกิจ ปัจจุบันการท่องเที่ยวเริ่มกลับมา แต่เราช้ากว่าคนอื่น ยังไม่เท่าเดิม และมีปัญหาทั้งโลก โดยเฉพาะผลกระทบจากปัญหายูเครนและรัสเซียต้องติดตามต่อไป 

สำหรับ “รัฐบาลใหม่” ไม่ว่าใครจะเป็นผู้นำประเทศก็ตาม อยากให้มีทิศทางในการดำเนินนโยบายของประเทศที่ชัดเจน อย่างประเทศเกาหลีใต้ ชัดเจนในการมุ่งสู่ “เทค” แต่ประเทศไทยยังคงมุ่งด้านท่องเที่ยว แต่ด้านอื่นยังไม่ชัดเจน