‘สยามพารากอน’ทรานส์ฟอร์มใหญ่ปั้น‘ต้นแบบโลก’ยึดที่หนึ่งในใจลูกค้า

‘สยามพารากอน’ทรานส์ฟอร์มใหญ่ปั้น‘ต้นแบบโลก’ยึดที่หนึ่งในใจลูกค้า

‘สยามพารากอน’ กางแผน The Next Level Evolution เดินหน้าทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ ยกระดับโกลบอลแลนด์มาร์กสู่โลกแห่งอนาคต ปักหมุด Global Prototype แพลตฟอร์มใหม่ เชื่อมโลก 'Physical-Digital-Metaverse‘ ส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับ หวังครองที่หนึ่งในใจลูกค้าทั้งโลก

อภิโปรเจกต์ “สยามพารากอน” World-class Global Destination ที่โดดเด่นไม่แพ้โครงการสำคัญในประเทศต่างๆ ปักหมุดเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลกมากว่า 17 ปี  เป็น "โชว์เคส" ที่นักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้ามาสัมผัสวิถีชีวิตไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ในฐานะส่วนหนึ่งของ DNA แห่งกรุงเทพฯ ที่แทรกซึมอยู่ทุกจังหวะการเต้นของชีพจรมหานครแห่งนี้

เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือความคาดหมาย เสริมสร้างสีสัน และชีวิตชีวาให้ชีวิตประจำวันของคนเมืองและนักท่องเที่ยว ความนิยมของสยามพารากอน สะท้อนจากสถานะอันดับที่ 6 สถานที่ที่นักท่องเที่ยวเช็คอินสูงสุดในโลก! ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเดียวในไทยและภูมิภาคเอเชียติดทำเนียบ "1 ใน 10" จากการจัดอันดับของ Facebook Review ในปี 2558 (Global Legendary Landmark) 

เส้นทางก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 “สยามพารากอน” มุ่งภารกิจ "ทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่" แลนด์มาร์คระดับโลกใจกลางมหานครกรุงเทพฯ ด้วยการกำหนดนิยามใหม่ของที่สุดแห่งความล้ำเลิศเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิติ สร้างปรากฎการณ์เขย่าวงการค้าปลีกอีกระลอก

แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการขายและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการระดับโลกสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม แลนด์มาร์คริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้ง สยามพรีเมี่ยมเอาท์เล็ต กรุงเทพ กล่าวว่า การทรานส์ฟอร์มใหญ่ทั้งอาคารสยามพารากอน พื้นที่ 5 แสนตารางเมตรครั้งนี้ เป็นการพลิกเกมเปลี่ยนโลก หรือ Game Changing ที่จะส่งผลให้ประเทศไทยผงาดบนเวทีโลกและครองความเป็นที่หนึ่งในใจของคนทั้งโลกอย่างต่อเนื่อง 

ตอกย้ำภาพลักษณ์ “สยามพารากอน” ในฐานะจุดหมายปลายทางสำคัญระดับโลก (Global Landmark Destination) ที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่ง 

‘สยามพารากอน’ทรานส์ฟอร์มใหญ่ปั้น‘ต้นแบบโลก’ยึดที่หนึ่งในใจลูกค้า

“เราจะรังสรรค์แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (Global Prototype) ที่จะเป็นเวทีให้ผู้ที่เป็นสุดยอดฝีมือในทุกๆ ด้านมาร่วมกัน Co-create เพื่อสร้างผลงานและประสบการณ์ระดับโลกเหนือความคาดหมาย ภายใต้โปรเจกต์ The Next Level Evolution ที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของวงการค้าปลีกอีกครั้ง"

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2564 สยามพารากอน เริ่มทำการปรับโฉม “พารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์” หลายชั้นซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2566 ล่าสุด จัดสรรงบประมาณเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ส่วนศูนย์การค้าทั้งหมด โดยเริ่มดำเนินการแล้วเป็นส่วนๆ ตั้งแต่ปลายปี 2565 ตามแผนจะใช้เวลา 18 เดือนจากนี้ มีกำหนดเสร็จสมบูรณ์กลางปี 2567

อีกโจทย์สำคัญ ที่มาของการพลิกโฉมใหญ่ของสยามพารากอน เพื่อต้อนรับลักชัวรีแบรนด์และแบรนด์ใหม่นับร้อย! ที่อยู่ในรายชื่อ Waiting List ซึ่งหลายแบรนด์เป็นการเปิดตัวครั้งแรกในไทย และมีแบรนด์ Exclusive เฉพาะ

แคโรไลน์ ขยายความว่า  สยามพารากอน เป็นเวทีส่งเสริมผู้ประกอบการทั้งกลุ่มลักชัวรีแบรนด์และผู้ประกอบการไทย สามารถนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด โดยพบว่า สินค้ากลุ่มลักชัวรีทุกประเภทได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า สามารถสร้างยอดขายและเติบโตโดดเด่น สูงเป็นลำดับต้นๆ ของโลก! 

“บรรดาแบรนด์หรูมุ่งหน้าตลาดเมืองไทยเป็นเวทีสำคัญในการเปิดตัวคอนเซปต์สโตร์ หรือคอลเลคชั่นใหม่เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการขยายพื้นที่และขยายสาขามากขึ้น”

สยามพารากอน ถือเป็น Destination ของสินค้าลักชัวรีและแบรนด์ดังต่างๆ นิยมเปิดพื้นที่ “Pop-up Store” เพื่อจำหน่ายลิมิเต็ดคอลเลคชั่นพิเศษเป็นครั้งแรกในเอเชียอยู่เสมอ สร้างความตื่นตาตื่นใจตอบโจทย์ประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้ลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ครองฐานกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงมากที่สุดในประเทศไทย 

ในปี 2565 สยามพารากอน สร้างรายได้ทะลุเป้าหมาย เติบโตมากกว่า 50% จากปี 2564 และสูงกว่าปี 2562 แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีจำนวนมากเทียบเท่าก่อนวิกฤติโควิค โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มลักชัวรีแบรนด์สร้างยอดขายและเติบโตสูงตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ย้ำความเป็นเพชรน้ำงามของ Luxury Destination ระดับโลก

‘สยามพารากอน’ทรานส์ฟอร์มใหญ่ปั้น‘ต้นแบบโลก’ยึดที่หนึ่งในใจลูกค้า

‘สยามพารากอน’สู่แพลตฟอร์มระดับโลก

ทางด้าน มยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร กล่าวเสริมว่า นโยบายการทำธุรกิจของกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ คือ “Collaborate to Win” ภายใต้ความเชื่อมั่นในศักยภาพไร้ขีดจำกัดของอีโค่ซิสเต็มที่ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ ครอบคลุมทุกอุตสาหกรรม ที่จะร่วมผนึกกำลังสร้างธุรกิจให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆ ฉีกกฎ และตำราเดิมๆ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 

“สยามพารากอน ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้าอีกต่อไป แต่จะเป็นแพลตฟอร์มเวทีระดับโลก ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายแขนง ทั้งสถาปนิก วิศวกร มัณฑนากร ผู้เชี่ยวชาญ ด้านศิลปะ เทคโนโลยี และผนึกกำลังผู้ประกอบการลักชัวรีแบรนด์ทั่วโลก ผู้ประกอบการคนไทย มาร่วมกันรังสรรค์ (Co-creation) เชื่อมต่อแพลตฟอร์ม ทั้งบนโลกกายภาพ (Physical World) โลกดิจิทัล (Digital World) ผ่าน OneSiam SuperApp และโลกเสมือนจริง (Metaverse) แบบไร้รอยต่อ เพื่อเติมเต็ม ยกระดับชีวิตของผู้คน และผู้ที่มาเยือนให้ได้รับประสบการณ์ระดับโลกที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติอย่างสมบูรณ์แบบ”

แนวคิด Co-creation บนแพลตฟอร์มนี้จะนำมาซึ่งการพัฒนาและการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน! เพราะทุกคนจะร่วมสร้างนิยามใหม่อีกระดับของที่สุดแห่งความล้ำเลิศร่วมกับผู้ประกอบการหลายราย ซึ่งได้เคยสร้าง Flagship Store ที่ประสบความสำเร็จสูงมาแล้ว ใน “Next Level” ก็จะรังสรรค์ Iconic Store ที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย

มยุรี ย้ำว่า สยามพารากอนต้อนรับคนทั่วโลกที่มาเยี่ยมเยือนทุกวัน จึงมุ่งหวังที่จะให้สยามพารากอนเป็นสถานที่สร้างคอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก จึงทำการศึกษาลงลึกกลุ่มลูกค้าที่กว้างที่สุด เพื่อตอบสนองความเชื่อ ความปรารถนา และความสนใจที่หลากหลาย นำเสนอประสบการณ์ที่ “แตกต่าง” แต่ “ตรงใจ”

การทรานสฟอร์มสยามพารากอนครั้งนี้ จะเป็นการสร้างปรากฏการณ์แรกของการเปิดให้ลูกค้าทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ด้วย ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้ สยามพารากอนจะเปิดพื้นที่สาธารณะรับฟังไอเดียของลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติทั่วโลก ผ่านโครงการ Wall of Wonders ในรูปแบบ Interactive Wall ที่ลูกค้าสามารถแนะนำว่า "ปรารถนาจะได้เห็นความแปลกใหม่ในรูปแบบใดในสยามพารากอน" 

ความคิดเห็นจากผู้คนทั่วโลกจะนำมาเป็นไอเดียรังสรรค์พื้นที่ต่างๆ ให้มีความหลากหลายตรงกับความสนใจของผู้คนในแต่ละคอมมูนิตี้ผสานกับเทคโนโลยีล้ำสมัย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในมิติต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจยิ่ง

สยามพารากอน The Next Evolution

สำหรับ 5 องค์ประกอบสำคัญที่จะต่อจิ๊กซอว์การใช้ชีวิตแห่งโลกอนาคตในทุกมิตินั้น เริ่มจาก 

1.จักรวาลใหม่แห่งการใช้ชีวิตสุดล้ำ (Universe of World’s Excellence) สยามพารากอนจะพัฒนาในคอนเซปต์ Co-creation & Collaboration กับพันธมิตรทุกอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันสร้างมหาปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษที่ 21 นำเสนอสิ่งที่โดดเด่นล้ำยุคที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่ใดในวงการค้าปลีกของโลก ยกระดับให้สยามพารากอนเป็นโครงการระดับโลกที่สร้างมาตรฐานใหม่แห่งความเป็นเลิศอย่างแท้จริง

2.ประตูสู่ดินแดนใหม่ที่โลกดิจิทัลบรรจบกับโลกจริง (Gateway to Next Frontier Where Digital World Meets Physical World) สยามพารากอนจะเป็น Co-Creative แพลตฟอร์มต้นแบบใหม่ครั้งแรกของโลก (New Global Prototype) ในการผสานเชื่อมโยงโลกศูนย์การค้าที่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 อย่างที่จับต้องได้ เข้ากับจินตนาการของโลกดิจิทัล และโลกเสมือนจริงได้อย่างกลมกลืนและไร้รอยต่อ เพื่อนำเสนอรูปแบบการชีวิตในโลกอนาคตแบบเหนือความคาดหมายและมอบประสบการณ์ทางกายภาพที่สอดประสานกับโลกเสมือนจริงที่มีความมหัศจรรย์น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแม็กเนตสำคัญที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมเยือน

3. มิติใหม่แห่งความลักชัวรี (Celebration of Inclusive Luxury) ในทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต (Luxury for All) สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นในด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ การรับประทานอาหาร การเดินทางท่องเที่ยว เทคโนโลยี การเงิน และประสบการณ์เฉพาะตัว เป็นครั้งแรกในโลกที่ทุกคนสามารถสัมผัสและเข้าถึงความลักชัวรีได้ในหลากหลายมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตและให้รางวัลชีวิตได้ในสถานที่แห่งนี้

4. ผู้นำแห่งการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณภาพ (Pioneering Quality Life Experience) มุ่งสร้างโมเดลต้นแบบตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ด้วยการออกแบบพื้นที่ขนาดใหญ่ที่จะผสานเอาศิลปะ เทคโนโลยี และธรรมชาติเข้ามาอยู่ในโครงการที่เป็นจุดหมายปลายทาง เพื่อทำให้โลกใบนี้สะอาด จัดระบบการใช้พลังงานโดยการใช้นวัตกรรมต้นแบบรองรับการใช้ชีวิตสู่ความยั่งยืน สามารถใช้เวลาอยู่ในสยามพารากอนได้เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ และการควบคุมอุณหภูมิและอากาศที่มีสุขอนามัย รวมทั้งการบริหารก๊าซเรือนกระจกที่สมบูรณ์แบบที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย

5.คอมมูนิตี้ที่สมบูรณ์แบบของพลเมืองโลก (The Paragon Community of Global Citizens) ยกระดับการนำเสนอประสบการณ์เหนือความคาดหมายทั้งในศูนย์การค้าและในโลกดิจิทัล จะเพิ่มศักยภาพให้สยามพารากอนขยายฐานลูกค้าสู่ Global Citizen ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและเป็นการเติบโตด้วยความมั่นคง อย่างยั่งยืน ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมสร้างคอมมูนิตี้ ให้สามารถแบ่งปันความคิด ความสนใจ ร่วมกันค้นพบเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างธุรกิจร่วมกันได้จากทุกที่บนโลกใบนี้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

ซุ่มพัฒนาคอนเซปต์แปลกใหม่หลายรูปแบบ

พร้อมกันนี้ สยามพารากอน ได้พัฒนาคอนเซปต์ที่แปลกใหม่อีกหลายรูปแบบ! เพื่อนำมาใช้เป็นครั้งแรกในเมืองไทยและครั้งแรกในโลก เป็นไฮไลต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในการทรานสฟอร์มสู่วิถีแห่งโลกอนาคต

“ผลการวิจัยทุกครั้งพบว่า สยามพารากอนเป็นที่หนึ่งในใจของคนไทยและคนทั่วโลกมาโดยตลอด และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่คนกรุงเทพฯ ทุกเจนเนอเรชั่นรู้สึกใกล้ชิดและคุ้นเคย ความผูกพันที่ยาวนานกับลูกค้าและกับผู้มาเยือนจากทั่วโลกเกือบ 2 ทศวรรษ คือ อัตลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของสยามพารากอน" 

ภายใต้การเดินหน้าทรานสฟอร์มครั้งสำคัญสู่ที่สุดแห่งความล้ำเลิศนั้น จะยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์เฉพาะตัวของการดูแลและการต้อนรับที่อบอุ่นเสมือนบ้านหลังที่สองของลูกค้า ซึ่งเป็นแกนหลักสำคัญที่ทำให้ “สยามพารากอน” เป็นที่หนึ่งในใจผู้คนทั่วโลกอย่างไม่มีโครงการใดเสมอเหมือน