"ไทยเที่ยวนอก" เก็บกด ทะลักปีใหม่ 3.3 หมื่นต่อวัน ญี่ปุ่นฮอตสุดลากยาว เม.ย.

"ไทยเที่ยวนอก" เก็บกด ทะลักปีใหม่ 3.3 หมื่นต่อวัน ญี่ปุ่นฮอตสุดลากยาว เม.ย.

คนไทยทะลักเที่ยวนอกช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2566 “ททท.” เผยช่วง 11 วันสุดท้ายของปี ตั้งแต่ 21-31 ธ.ค. คนไทยเดินทางไปต่างประเทศเฉลี่ยกว่า 33,400 คนต่อวัน หรือรวมกว่า 3.67 แสนคน หลังอัดอั้นมานานร่วม 3 ปี แห่ “เที่ยวญี่ปุ่น” สูงสุดอันดับ 1 รองลงมาคือเกาหลี-เวียดนาม

แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยในการคัดเลือกพื้นที่ท่องเที่ยว แต่ความต้องการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศหลังจากอัดอั้นมาเป็นเวลาร่วม 3 ปีนั้นมีมากกว่า ทำให้คนไทยบางกลุ่มที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ระดับปานกลางขึ้นไป ออกเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศแทนการเที่ยวในประเทศ

นอกจากนี้ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนไทย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีเงื่อนไข ผนวกกับได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมุ่งสู่ “ญี่ปุ่น” ของสายการบินต่างๆ และช่วงสิ้นปียังตรงกับฤดูหนาวของญี่ปุ่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงคาดว่าคนไทยที่ยังมีกำลังซื้อจะเลือกออกเดินทางเที่ยวต่างประเทศแทน เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถิติคนไทยเดินทางออกนอกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบว่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. - 31 พ.ย. 2565 มีคนไทยออกเดินทางนอกประเทศเฉลี่ย 28,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 28,800 คนต่อวัน ระหว่างวันที่ 1 - 20 ธ.ค. ทาง ททท.จึงคาดการณ์ว่าระหว่างวันที่ 21-31 ธ.ค.นี้ คนไทยนิยมออกเดินทางนอกประเทศในช่วงปลายปีมากที่สุด หรือช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ คาดว่าเดินทางเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 33,400 คนต่อวัน

สอดคล้องกับข้อมูลการจองโรงแรมที่พักของ Booking.com ในเดือน ธ.ค.2565 มีนักท่องเที่ยวไทยจองโรงแรมในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เวียดนาม สิงคโปร์ และ สปป.ลาว ส่วนระยะเวลาวันที่เข้าพักอันดับ 1 คือช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ธ.ค. หรือช่วงสิ้นปี 2565 รองลงมาคือสัปดาห์ที่ 1-2 ของเดือน ธ.ค. ตามลำดับ ดังนั้นความต้องการเที่ยวต่างประเทศของคนไทยอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของท่องเที่ยวในประเทศในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ไม่คึกคักเท่าที่ควร

 

++ คนเที่ยวในประเทศ “ปีใหม่” 3.14 ล้านคน-ครั้ง

ททท.คาดการณ์ว่าการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 31 ธ.ค.2565 - 2 ม.ค.2566 จะมีจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวและรายได้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยการเติบโตนี้ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่เพิ่งฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนที่สูง ความผันผวนของราคาน้ำมัน ประกอบกับความต้องการเที่ยวต่างประเทศของคนไทย จึงเป็นปัจจัยฉุดให้จำนวนและรายได้ท่องเที่ยวในประเทศเติบโตได้ไม่เต็มที่

“คาดว่าจำนวนการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่อยู่ที่ 3.14 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 11,200 ล้านบาท และมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 75%”

โดยภาคเหนือมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ 78% มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 560,380 คน-ครั้ง รายได้ 2,050 ล้านบาท รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 75% และ 72% ตามลำดับ

 

++ ราคาตั๋วบิน “ญี่ปุ่น” ยังเฟ้อต่อเนื่อง

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ผลตอบรับของการเปิดเส้นทางบินไปญี่ปุ่นครั้งแรกของไทยแอร์เอเชีย เส้นทาง กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - ฟุกุโอกะ เริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. สอดรับกับจังหวะญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศพอดี คนไทยไม่ต้องขอวีซ่า เริ่มมีผลเมื่อวันที่ 11 ต.ค.2565 เป็นต้นไป จึงรุกเพิ่มเที่ยวบินเป็น 1 เที่ยวบินต่อวันเมื่อวันที่ 15 ต.ค. พบว่ามีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) เฉลี่ยอยู่ที่ 80% ด้วยเครื่องบินแอร์บัส A321 ขนาด 236 ที่นั่ง ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวไทยกว่า 80-90% ทำให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นไม่สามารถจองตั๋วบินขากลับได้

“ไทยแอร์เอเชียจึงทำราคาตั๋วบินฝั่งตลาดญี่ปุ่นให้ถูกลงหน่อย เพื่อช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจองตั๋วบินมาไทยมากขึ้น โดยปัจจุบันราคาตั๋วเส้นทาง กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ ของไทยแอร์เอเชีย เฉลี่ยอยู่ที่ 5,500-6,500 บาทต่อเที่ยว ราคายังเข้าถึงง่ายกว่าเส้นทางบินไปโตเกียวและโอซาก้าที่เริ่มเต็มและราคาแพงกว่า ภาพรวมราคาตั๋วบินเส้นทางไปญี่ปุ่นตอนนี้ถือว่าสูงขึ้นทุกสายการบิน เป็นไปตามดีมานด์การฟื้นตัวที่โดดเด่น โดยเทรนด์ราคาตั๋วบินไปญี่ปุ่นจะยังสูงต่อเนื่อง ขึ้นกับการเพิ่มปริมาณที่นั่งโดยสาร (Capacity) ของสายการบิน”

รายงานข่าวจากสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ระบุว่า ราคาตั๋วบินเฉลี่ยเส้นทางบินตรงสู่ประเทศญี่ปุ่นของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์อยู่ที่ 8,500-8,700 บาทต่อเที่ยวบิน โดยปัจจุบันให้บริการรวม 3 เส้นทาง รวม 16 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แบ่งเป็น โตเกียว 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โอซาก้า 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และซัปโปโร 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

ทั้งนี้จำนวนเที่ยวบินสู่ญี่ปุ่นของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ในปัจจุบัน ยังน้อยกว่าภาวะปกติก่อนโควิด-19 ระบาดราว 2.6 เท่า เทียบกับที่เคยทำการบินสูงสุดรวม 42 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แบ่งเป็น โตเกียว สูงสุด 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โอซาก้า สูงสุด 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และซัปโปโร สูงสุด 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

 

++ ยอดจองแพ็กเกจทัวร์ ม.ค.เต็ม หาตั๋วไปญี่ปุ่นไม่ได้

นางสาวณัฐชา ทองห่อ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซีซั่นฮอลิเดย์ บุ๊คกิ้งเซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทค้าส่งทัวร์ (โฮลเซล) กล่าวกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า บริษัทปรับตัวมารุกขายแพ็กเกจทัวร์พาคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2565 ที่ประเทศญี่ปุ่นเริ่มผ่อนคลายมาตรการเดินทาง ต่างจากก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่บริษัทเน้นขายแพ็กเกจทัวร์พาคนไทยไปเที่ยวประเทศจีน โดยพบว่าภาพรวมตลาดแพ็กเกจทัวร์ไปญี่ปุ่นช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ โฮลเซลนำเสนอหลายระดับราคา ทั้งแบบจอยกรุ๊ป กรุ๊ปเหมาส่วนตัว รวมถึงแพ็กเกจเที่ยวเองขับรถเองหรือเช่ารถตู้ เช่น ให้บริษัททัวร์ช่วยจองห้องพัก กับจองรถเช่าให้ ราคาแบบคนไทยเป็นคนขับรถอยู่ที่ 85,000-100,000 เยนต่อวัน

“ช่วงที่ญี่ปุ่นยังไม่ปลดล็อกเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ยังต้องขอวีซ่าอยู่ ขายแพ็กเกจทัวร์ยากมาก แต่พอปลดล็อก คนไทยเข้าไปเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเหมือนเดิม กระแสการเดินทางเรียกได้ว่าประเดประดัง ทำให้หยุดยาวเทศกาลปีใหม่นี้ คนไทยนิยมไปเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่ายุโรป”

นางสาวขวัญชญาย์ กิจรักษา ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท จูบิลี่ แทรเวิล จำกัด ซึ่งเป็นโฮลเซลเช่นกัน กล่าวเสริมว่า ตอนนี้ยอดขายแพ็กเกจทัวร์ไปญี่ปุ่นเดือน ม.ค.2566 เต็มแล้ว หาตั๋วเครื่องบินไม่ได้แล้ว ดีต่อเนื่องจากเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากคนไทยเก็บกด อัดอั้นเรื่องเที่ยวต่างประเทศมานาน กระแสในโซเชียลมีเดียก็มีผลอย่างมาก ยูทูบเบอร์และอินฟลูเอนเซอร์ต่างทำคอนเทนต์รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นหลังเปิดประเทศ ทำให้คนไทยอยากไปเที่ยว จึงคาดว่ากระแสการเดินทางตลาดคนไทยเที่ยวญี่ปุ่นจะดีต่อเนื่องไปจนถึงช่วงพีคซีซั่นเดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งตรงกับช่วงซากุระบาน และมีวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

 

++ 11 เดือนแรก “ไทยเที่ยวญี่ปุ่น” 1.15 แสนคน

รายงานข่าวจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ระบุว่า นับตั้งแต่ญี่ปุ่นประกาศเปิดประเทศให้เที่ยวเองได้และกลับมาใช้มาตรการยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2565 พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวเร็ว ตลอดเดือน พ.ย. มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่น 52,100 คน ส่วนเดือน ต.ค. 34,100 คน เพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. ซึ่งมีจำนวน 7,622 คน ทั้งนี้ตลอด 11 เดือนแรก ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. มีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าญี่ปุ่นสะสม 115,000 คน

ด้านสถิติเมื่อปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่น 1,318,977 คน คิดเป็นสัดส่วน 4.1% มากเป็นอันดับ 6 ของตลาดต่างชาติเที่ยวญี่ปุ่นทั้งหมด รองจากเกาหลีใต้ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐ และมากเป็นอันดับ 1 ของตลาดอาเซียนเที่ยวญี่ปุ่น โดยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเกิน 1 ล้านคน