แผน 'เมเจอร์' ลุยธุรกิจโรงหนังปี 66 ปูพรมเปิดสาขา ดันหนังไทยสู่ฮับคอนเทนต์

แผน 'เมเจอร์' ลุยธุรกิจโรงหนังปี 66 ปูพรมเปิดสาขา ดันหนังไทยสู่ฮับคอนเทนต์

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เปิดเกมรุก ปี 2566 สยายปีกทั้ง โรงหนัง โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ นำเข้าสุดยอดเทคโนโลยี IMAX LASER ScreenX PLF และ CAPSULE HOLOGRAM เร่งสร้างรายได้จากป๊อปคอร์น "พันล้าน" นอกโรงหนัง ดันหนังไทยต่อยอด Soft Power ส่งออกสู่ตลาดโลก

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เดินหน้าเปิดเกมรุกในปี 2566 ลงทุนขยายสาขาโรงภาพยนตร์ 13 สาขา 49 โรง โบว์ลิ่ง 3 สาขา 40 เลน และคาราโอเกะ 30 ห้อง พร้อมนำเข้าสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุดของโลกภาพยนตร์มาเติมเต็มบริการให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษก่อนใคร ทั้งระบบการฉาย “IMAX with LASER” และ “ScreenX PLF” ที่หาชมได้ยากเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตลอดจน เป็นโรงภาพยนตร์รายแรกของโลกที่นำเทคโนโลยี “CAPSULE HOLOGRAM” ที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริง และเมต้าเวิร์ส สามารถใช้ได้ทั้งในโรงภาพยนตร์และในงานพิเศษต่างๆ

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าเร่งสร้างรายได้จากธุรกิจ ป๊อปคอร์นนอกโรงหนัง (Out Cinema) ต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร พร้อมพัฒนาสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ไทยหวังดันมาร์เก็ตแชร์ให้ถึง 50% และผลักดันให้ประเทศไทยมู่งสู่การเป็น King of Content Hub เผยแพร่วัฒนธรรมไทยต่อยอด Soft Power นำรายได้เข้าประเทศ

วิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป เติบโตในธุรกิจโรงภาพยนตร์ครบรอบ 28 ปี เห็นทุกการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และโรงภาพยนตร์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่การเปลี่ยนจากแผ่นฟิล์มเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผ่านการดิสรัปชั่นของสตรีมมิ่งออนไลน์

จนมาถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โควิด-19 ได้ทำให้ทุกชีวิตได้พัก ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมภาพยนตร์นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมครั้งสำคัญ ถึงแม้จะผ่านทุกการเปลี่ยนแปลง 

ทั้งนี้ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดนิ่ง แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราไม่หยุดคิดที่จะนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ล้ำสมัยมาให้บริการลูกค้าได้สัมผัสความบันเทิงที่แตกต่างระหว่างการดูหนังในโรงหนัง หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ

สำหรับในปี 2566 จะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีนับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่ง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จะขยายสาขาโรงภาพยนตร์มากที่สุดถึง 13 สาขา 49 โรง ด้วยงบลงทุนประมาณ 600 ล้านบาท เปิดที่ One Bangkok จับมือเซ็นทรัลเปิดที่ เซ็นทรัล เวสต์ วิลล์ ราชพฤกษ์ จับมือกับโรบินสัน เปิดที่ โรบินสัน ฉลอง จับมือกับโลตัส เปิดที่ นครนายก, สระแก้ว, นราธิวาส, ปัตตานี จับมือกับบิ๊กซี เปิดที่ บางบอน, สระบุรี, ยะลา เปิดกับไฮเปอร์ มาร์เก็ต 2 สาขา และ เปิดสาขาสแตนด์อโลนที่ภูเก็ต ตลอดจน ขยายสาขาโบว์ลิ่ง เพิ่มอีก 3 สาขา 40 เลน และ คาราโอเกะ 30 ห้อง

ปัจจุบัน เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป มีสาขาโรงภาพยนตร์ที่เปิดให้บริการ ณ สิ้นปี 2565 รวมทั้งสิ้น 180 สาขา 839 โรง 188,973 ที่นั่ง

 ในประเทศ 172 สาขา 800 โรง 180,081 ที่นั่ง

 - สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 44 สาขา 346 โรง 77,605 ที่นั่ง

 - สาขาในต่างจังหวัด 128 สาขา 454 โรง 102,919 ที่นั่ง

 ต่างประเทศ 8 สาขา 39 โรง 8,449 ที่นั่ง

 - สาขาในประเทศลาว 3 สาขา 13 โรง 3,235 ที่นั่ง

 - สาขาในประเทศกัมพูชา 5 สาขา 26 โรง 5,368 ที่นั่ง

 มีสาขาโบว์ลิ่ง บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล เปิดให้บริการ 8 สาขา 210 เลน, คาราโอเกะ 121 ห้อง, ห้องแพลตตินั่ม 9 ห้อง

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังมองภาพการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ด้วยการเน้นการพัฒนาและสนับสนุนการสร้างภาพยนตร์ไทย หวังผลักดันให้มีส่วนแบ่งการตลาดภายในประเทศให้ได้ 50% ตั้งเป้าหมายให้ภาพยนตร์ไทยเข้าฉายปีละ 20 เรื่อง เฉลี่ยประมาณเดือนละ 2 เรื่อง เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น King of Content Hub หวังสร้างภาพยนตร์ไทยป้อนสู่ตลาดโลกพร้อมผลักวัฒนธรรมบันเทิงผ่านภาพยนตร์ให้เกิด Soft Power นำรายได้เข้าสู่ประเทศผ่านเนื้อหาในภาพยนตร์ เช่น ตัวละคร เครื่องแต่งกาย สถานที่ และอาหารในเมืองไทย เพื่อเทียบชั้นกับประเทศเกาหลีใต้ที่ขึ้นเป็น Role Model ของอุตสาหกรรมบันเทิงโลก ซึ่งในที่สุดจะนำรายได้กลับสู่ประเทศไทย และทำให้เศรษฐกิจหรือ GDP ของประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังนำเข้าสุดยอดเทคโนโลยีล่าสุดของโลกภาพยนตร์มาเติมเต็มบริการให้ลูกค้าคนไทยได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษก่อนใคร เพื่อให้ลูกค้าได้รับอรรถรสการชมภาพยนตร์ในโรงแตกต่างจากการดูที่บ้านหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ดังนี้

- ระบบการฉายภาพยนตร์ IMAX ใหม่ล่าสุด กับ “IMAX with Laser” ซึ่งเป็นระบบการฉายภาพยนตร์ผสมผสานการฉายภาพด้วยเลเซอร์ระดับ 4K ก้าวล้ำด้วยระบบออปติคัลใหม่ เลนส์ที่ออกแบบเอง และชุดเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ให้ภาพสว่างกว่าด้วยความละเอียดเพิ่มขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การชมภาพยนตร์ระดับพรีเมียมมาจัดฉายที่โรงภาพยนตร์ 3 สาขา คือ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ไอคอน ซีเนคอนิค และจะขยายสาขาไอแมกซ์แห่งใหม่อีก 1 แห่ง พร้อมระบบการฉาย IMAX with Laser ที่ เมกา ซีนีเพล็กซ์

-เปิด “โรงภาพยนตร์ ScreenX PLF” ในรูปแบบ Premium Large Format แห่งใหม่ ที่พารากอน ซีนีเพล็กซ์ แห่งที่ 2 หลังจากเปิดให้บริการโรงภาพยนตร์ ScreenX สาขาแรกที่โรงภาพยนตร์ ควอเทียร์ ซีเนอาร์ต เมื่อปี 2558 เป็นโรงภาพยนตร์รูปแบบพิเศษครบมิติ ด้วยความโดดเด่นของมุมมองการรับชมภาพที่กว้างมากขึ้นถึง 270 องศา สะใจและคมชัดด้วย 3 จอขนาดยักษ์ที่ให้ภาพกว้างรวมกันมากถึง 55 เมตร ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์แบบแรกของโลกที่ใช้ระบบการฉาย 3 ทิศทาง คือ จอด้านหน้า และจอบนกำแพงด้านซ้าย และขวา ด้วยเครื่องฉายหลายตัว (Multi-Projection System)

-ลงทุนในเทคโนโลยี CAPSULE HOLOGRAM เป็นโรงภาพยนตร์รายแรกของโลกที่ซื้อ CAPSULE HOLOGRAM ของ ARHT Media Inc. มาไว้ที่โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ จะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์พิเศษแก่ผู้ชมที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริง และเมตาเวิร์ส ทั้งในโรงภาพยนตร์และในงานพิเศษต่างๆ ผู้ชมจะสามารถพบปะและทักทายกับโฮโลแกรม 3 มิติเสมือนจริง สามารถส่งสัญญาณสดไปยังหน้าจอได้จากทุกที่ในโลก และยังมีฟังก์ชันการทำงานแบบอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว จอสัมผัส และกล้องสองทาง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ได้หลากหลายวิธี

สำหรับ New Business ในส่วนของ ธุรกิจ Concession เห็นโอกาสการเติบโตอย่างชัดเจน จากตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ทุกธุรกิจเกิดการชะงัก แต่ในส่วนของการจำหน่ายป๊อปคอร์นกลับมีตัวเลขการเติบโตของรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายป๊อปคอร์น นอกโรงหนัง (Out Cinema) ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน มีช่องทางการจัดจำหน่าย ดังนี้

 - Delivery : ผ่าน Grab, Food Panda, Line Man, Shopee Food, Robinhood, Air Aisa Food

 - Kiosks & Event : ณ สิ้นปี 2565 มี Kiosks สาขานอกโรงภาพยนตร์บริการรวม 19 สาขา และในปี 2566 จะมี Kiosks บริการเพิ่มอีก 20 สาขา

 - Modern Trade : ผ่าน Convenience Store เซเว่น อีเลฟเว่น, Discounted Store โลตัส บิ๊กซี และ Supermarket ได้แก่ วิลล่า มาร์เก็ท, กูร์เมต์ มาร์เก็ต และโฮม เฟรช มาร์ท, ท็อปส์ มาร์เก็ต และ ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต

 - Major Mall

ป๊อปคอร์นถือเป็นซิกเนเจอร์ของโรงหนัง เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนเพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้า แต่ยังคงเอกลักษณ์ของป๊อปคอร์นโรงหนัง มีความหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกบริโภคมากขึ้น ทั้งป๊อปคอร์น ทูโก ในถุงซิปล็อก ลูกค้าสามารถซื้อไปแจก จัดเลี้ยงรับรองในงานต่างๆ ป๊อปสตาร์ สแน๊ค ป๊อปคอร์นเกรดพรีเมียมกับรสชาติที่ลงตัว ป๊อปสตาร์ ไมโครเวฟ ป๊อปคอร์นที่ลูกค้าสามารถนำไปเข้าตู้อบไมโครเวฟทำเองได้ที่บ้าน และป๊อปสตาร์ ป๊อปคอร์น ตอบโจทย์ความสะดวกผ่านร้านเซเว่น อีเลฟเว่น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์