กลุ่ม “เจียอาภา” เปิด รร. Andaz ให้เป็นตำนาน วิลล่าหรู 5 แสน/คืน แพงสุดในพัทยา!

เนรมิต “ชีจรรย์ กอล์ฟ รีสอร์ท” สนามกอล์ฟระดับ 5 ดาว ทำเลบริเวณเขาชีจรรย์ ใช้พื้นที่ 500 ไร่ ด้วยเงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2561 ปัจจุบันขึ้นแท่นเป็นสนามกอล์ฟแถวหน้าของเมืองไทย

และล่าสุดได้ฤกษ์เปิดให้บริการ โรงแรม แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช อย่างเต็มรูปแบบ วันที่ 1 ก.พ.2566 ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจคเจาะตลาด “ไฮเอนด์” หลังปักหมุดลงทุนพัฒนาโรงแรมแห่งแรกของกลุ่มชาร์เตอร์ฯ มานานถึง 5 ปี

ณฤทธิ์ เจียอาภา ประธานกลุ่มบริษัท ชาร์เตอร์ สแควร์ โฮลดิ้ง จำกัด เล่าว่า กลุ่มชาร์เตอร์ฯ ใช้เงินลงทุน 3,000 ล้านบาท (ไม่รวมที่ดิน) สำหรับพัฒนาโรงแรม แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช มีห้องพักและห้องสวีทรวมทั้งสิ้น 204 ห้อง บนที่ดินมรดกของตระกูลเจียอาภาขนาด 38 ไร่ ริมหาดตะวันรอน มูลค่ากว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,300 ล้านบาท) เตรียมเปิดให้บริการในเดือน ก.พ. 2566 หลังจากโครงการนี้ล่าช้า 6 เดือนเพราะสถานการณ์ระบาดของโควิด-19

“พัทยายังขาดโรงแรมและสนามกอล์ฟระดับ 5 ดาว นี่คือเหตุผลหลักที่เราเลือกลงทุนธุรกิจท่องเที่ยวและบริการเจาะตลาดไฮเอนด์ เพราะเมื่อมองย้อนไปยัง 10 ปีก่อน พัทยาเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมามากก็จริง แต่ส่วนใหญ่จะยังเป็นระดับกลาง ยังไม่ค่อยมีโรงแรมที่พักระดับลักชัวรีรองรับ แต่พอเริ่มมี ตอนนี้ คนก็เข้าพักเต็ม โดยเฉพาะช่วงวันหยุด”

 

++ แบรนด์ "Andaz" ตรงใจ! ลักชัวรีแบรนด์...สดใหม่แห่งภาคพื้น

และเหตุผลที่เลือกใช้แบรนด์ “แอนดาซ” (Andaz) ในเครือไฮแอท (Hyatt) เป็นเพราะต้องการแบรนด์ระดับลักชัวรีสดใหม่ ยังไม่มีนักลงทุนรายใดใช้แบรนด์นี้ในพัทยา ทั้งชื่อแบรนด์ยังมีความหมายดี เป็นภาษาฮินดี แปลว่า “Personal Lifestyle” สะท้อนอัตลักษณ์ของแบรนด์ มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้มีข้อกำหนดมากมายเหมือนแบรนด์อื่นๆ เน้นดีไซน์เข้ากับท้องถิ่น หลังจากแบรนด์ Andaz เปิดมาแล้ว 25 แห่ง ใน 16 ประเทศทั่วโลก

ท่ามกลางสนามแข่งโรงแรมระดับ 5 ดาวขึ้นไปในพัทยาที่มีเพียงไม่กี่สิบราย ที่เปิดให้บริการให้ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักดี 72% เทรนด์โรงแรมหรูราคา 10,000 บาทต่อคืนจึงมาแรง! กลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับ "ไฮเอนด์" พร้อมจ่าย!

ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนและนักธุรกิจที่เดินทางมาพื้นที่ EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก) รวมถึงกลุ่มเซเลบ และกลุ่มลักชัวรีแฟมิลี่ สามารถทำการตลาดร่วมกับชีจรรย์ กอล์ฟ รีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าต่างชาติกว่า 70% ส่วนใหญ่เป็นเกาหลีและญี่ปุ่น โดยวางเป้าหมายปีแรกที่เปิดดำเนินการโรงแรม มีอัตราการเข้าพักไม่ต่ำกว่า 70% ตั้งราคาขายห้องพักเริ่มต้นที่ 15,000 บาทต่อคืน

“ตอนเราสร้างทั้งโรงแรมกับสนามกอล์ฟ เรามีแพสชั่นว่าต้องการสร้างให้เป็นตำนาน มากกว่าแค่ธุรกิจ”

เพราะอย่างตัวโรงแรมนี้ ถ้าเอาเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาทมาคิดสร้างห้องพักแค่ 204 ห้อง ก็ไม่มีใครเขาอยากทำ ใช้เวลาคืนทุนนาน ทั้งที่สามารถสร้างได้มากถึง 3,000 ห้อง แต่สิ่งที่เราทำนั้น คือการทำโรงแรมเป็นเหมือน “งานศิลปะ” งานประติมากรรม ได้ “คุณค่าทางใจ” ผู้บริหารเมืองมาเห็นแล้วถึงกับชื่นชมและขอบคุณที่ช่วยยกระดับแผนที่พัทยาสู่ระดับโลก!

“พอได้สร้างโรงแรม แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช แล้ว ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญญาสร้างโรงแรมแห่งใหม่ได้อีก เพราะถ้าสร้าง ก็ต้องสร้างให้ได้ดีกว่านี้ (ยิ้ม หัวเราะ)”

 

++ วิลล่าหรู "เรือนไทย" ราคาคืนละ 5 แสนบาท แพงสุดในพัทยา! 

หนึ่งในไฮไลต์ของโรงแรมคือ “บ้านทรงไทยประยุกต์” ซึ่งได้รับการดัดแปลงเป็นที่พักที่มีมูลค่าสูงที่สุดของโรงแรม ได้แก่ “Manor House” วิลล่า 2 ชั้น 4 ห้องนอน และ “Presidential Heritage House” บ้านทรงไทย 6 ห้องนอนสุดตระการตา โดยวิลล่าและบ้านทรงไทยทั้งสองนี้มีสระว่ายน้ำและสวนส่วนตัวที่สร้างประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้เสมือนชาวชุมชนท้องถิ่นที่ใช้ชีวิตที่นี่มายาวนาน ราคาสูงที่สุด 500,000 บาทต่อคืน! สำหรับ Presidential Heritage House 6 ห้องนอน นอกจากนี้ยังมีบริการรับส่งด้วยรถหรู โรลส์ รอยซ์ เช่าไปยังจุดหมายที่ต้องการอีกด้วย

ชินทัต เจียอาภา รองประธานกลุ่มบริษัท ชาร์เตอร์ฯ และทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูลเจียอาภา เล่าเสริมว่า ก่อนที่โรงแรม แอนดาซ พัทยา จอมเทียน บีช จะเปิดให้บริการ จากการสำรวจตลาดเบื้องต้น ราคาห้องพักแพงสุดในพัทยาอยู่ที่ประมาณ 2-3 แสนบาทต่อคืน

“โดยส่วนตัวคิดว่าการพัฒนาโรงแรมของกลุ่มชาร์เตอร์ฯ จะไม่หยุดแค่ที่โรงแรม แอนดาซ พัทยาฯ เมื่อทุกอย่างมั่นคง ก็คงจะเดินหน้าขยายโรงแรมต่อ เป้าหมายคือการพยายามผลักดันให้สินค้าและบริการที่เราทำ “ดีที่สุด” ในแต่ละเซ็กเมนต์นั้นๆ”