บูม "วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล" ปลุกสีสัน "พัทยา" ดึงทัวริสต์ทั่วโลก!

บูม "วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล"  ปลุกสีสัน "พัทยา" ดึงทัวริสต์ทั่วโลก!

“วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล” ห่างหายจากปฏิทินการจัดงานเทศกาลประจำปีระดับนานาชาติของโลกไปถึง 2 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 ส่งผลให้ "สแครทช์ เฟิร์สท์" ผู้สร้างสรรค์เทศกาลแห่งความสุขที่เปี่ยมล้นด้วยแรงบันดาลใจของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต้องเดินเข้าสู่โหมดปรับตัว!

กระทั่งตอนนี้ประเทศไทยและโลกต่างพร้อมในเรื่อง “ไทม์มิ่ง” แล้ว สแครทช์ เฟิร์สท์ จึงประกาศความพร้อมกลับมาจัดงาน วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล อย่างยิ่งใหญ่ในช่วงปลายปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 15-18 ธ.ค. บนพื้นที่ 400 ไร่ ณ เดอะฟิลด์ แอท สยามคันทรีคลับ พัทยา

ประณิธาน พรประภา ทายาทรุ่นที่ 3 ของกลุ่ม “สยามกลการ” เล่าในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท สแครทช์ เฟิร์สท์ จำกัด ผู้สร้างสรรค์ “วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล” ว่า หลังห่างหายจากการจัดงานนี้ไปถึง 2 ปี วิกฤติโควิด-19 ได้นำพา “ความท้าทาย” มาสู่การจัดเตรียมงานครั้งที่ 7 ในปีนี้ เพราะกว่าบริษัทจะตัดสินใจจัดงานหลังประเมินสถานการณ์ ก็เข้าเดือน พ.ค.เข้าไปแล้ว ทำให้เวลาเตรียมงานหายไปถึง 5 เดือน

แต่ในช่วงที่ผ่านมาทีมงานได้ขบคิดอย่างแตกต่างและลุ่มลึกกว่าเคย! ว่า “งาน วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล มีความหมายอย่างไรต่อผู้คน” ด้วยการยึดมั่นกับแนวคิดของวิถีความยั่งยืน ใกล้ชิดธรรมชาติ รักษ์สิ่งแวดล้อม รวมถึงการมีสติและมีจิตสำนึก (Consciousness) มากยิ่งขึ้น! พร้อมนำประสบการณ์การจัดงานตลอด 6 ปีแรก ตั้งแต่ปี 2557-2562 มาเป็นตัวแปรสำคัญ ยกระดับการจัดงานให้สอดรับกับ “พฤติกรรมใหม่” ของผู้คนในยุคหลังโควิด-19 เช่น มาตรฐานด้านสาธารณสุข และการจัดการขยะ

สำหรับการจัดงานปีนี้ บริษัทใช้เงินลงทุนมากขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับปี 2562 เพราะทุกอย่างแพงขึ้น! จากปัจจัยเงินเฟ้อ ราคาน้ำมันสูงขึ้น รวมถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เจอแบบเต็มๆ ปัจจุบันค่าเงินบาทอยู่ที่ระดับ 37-38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

“เศรษฐกิจโลกตอนนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยมากมาย เรียกได้ว่ายังทรงๆ เห็นได้จากงบสนับสนุนจากเอกชนบางรายถูกตัดไปบ้าง เป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ ก็ต้องปรับตัวรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ให้ได้”

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่างาน วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล ปีนี้จะยังคงได้รับความนิยม มีจำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 2.5 หมื่นคน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาดซึ่งมีจำนวนผู้เข้าชมงาน 1.8 หมื่นคน หลังมียอดขายตั๋วเข้างานดี! เป็นยอดขายตลาดต่างประเทศ 60% จาก 101 ประเทศทั่วโลก เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง อังกฤษ สหรัฐ และญี่ปุ่น ส่วนยอดขายอีก 40% มาจากตลาดในประเทศ ทั้งชาวไทยและเอ็กซ์แพท (Expat)

“งานวันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล เป็นเหมือนเมืองเมืองหนึ่ง เราเริ่มต้นจากจำนวนผู้เข้าชมงานในปีแรกเมื่อปี 2557 จำนวน 2,000 คน ค่อยๆ เติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปีนี้ที่คาดว่าจะมีกว่า 2.5 หมื่นคนเข้าชมงาน ถือเป็นหนึ่งในเฟสติวัลที่มีชื่อเสียงระดับโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติปักหมุดมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ แล้ววางแผนเที่ยวในประเทศไทยต่อ ในอนาคตเราอาจจะขยายสเกล (Scale) ของงานให้รองรับได้ 3-4 หมื่นคน แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากกว่าคือ คุณภาพของผู้เข้าชมงาน ทั้งในเชิงมุมมองที่ต้องตรงกันเรื่องความยั่งยืน รวมถึงคุณภาพด้านการใช้จ่าย”

ทั้งนี้ มั่นใจว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกและชาวไทยจะได้รับ “ประสบการณ์เฉพาะสุดพิเศษ” จากการเข้าร่วมเทศกาลระดับโลกที่ชูแนวคิดเรื่องความยั่งยืนนี้ ผ่านโปรแกรมมากมายและไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เช่น ศิลปะ ดนตรีจากศิลปินและดีเจนานาชาติกว่า 150 ราย อาคารสิ่งปลูกสร้างแบบกึ่งถาวร การนั่งสมาธิ การได้ลิ้มรสอาหารชั้นเลิศจากเชฟมากมายกว่า 100 ร้าน และโปรแกรมทอล์ก พูดคุยกับเหล่านักสร้างสรรค์และผู้นำทางความคิด เป็นต้น

รวมถึงความประทับใจจากการเดินทางมาท่องเที่ยว “เมืองพัทยา” ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักที่มีโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับอย่างครบครัน นับเป็นการเริ่มต้นเพื่อต่อยอดสู่การผลักดันพัทยาให้เป็น “แลนด์มาร์ก” สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย

“เราไม่ได้สนใจว่างาน วันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล จะเป็นอีเวนท์แนวเอ็นเตอร์เทนเมนต์ขนาดนั้น เพราะสิ่งที่เราสนใจมากกว่าคือการได้เห็นวัฒนธรรมเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม นี่คือคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจนของงานวันเดอร์ฟรุ๊ต เฟสติวัล เชื่อว่าเหล่าวันเดอร์เรอร์ทั่วโลกต่างก็รอคอยการกลับมาสัมผัสประสบการณ์ที่คุ้นเคย เพื่อสำรวจ เรียนรู้ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมหลากหลายประเภท และการแลกเปลี่ยนไอเดียความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ภายในงานนี้”  ประณิธาน กล่าวปิดท้าย