‘ซาอุฯ-รัสเซีย’ ดัน‘โอเปกพลัส’ ลดผลิตน้ำมันเพื่อหนุนราคา

‘ซาอุฯ-รัสเซีย’ ดัน‘โอเปกพลัส’ ลดผลิตน้ำมันเพื่อหนุนราคา

ซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียกำลังผลักดันให้ชาติสมาชิกโอเปกพลัส ลดการผลิตน้ำมันเพื่อดันราคา ในขณะที่โลกกำลังพยายามต่อสู้เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน เท่ากับการเยือนซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนหน้านี้ ‘ไร้ประสิทธิผลอย่างสิ้นเชิง’

ซาอุดิอาระเบียกับรัสเซียกำลังผลักดันให้ชาติสมาชิกองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries) หรือโอเปก ใช้แผนลดการผลิตน้ำมันเพื่อดันราคา ในการประชุมร่วมกันที่กรุงเวียนนาของออสเตรีย ที่ประกอบด้วย 13 ชาติสมาชิก นำโดยซาอุดิอาระเบีย และ 11 ชาติพันธมิตร นำโดยรัสเซีย หรือโอเปก +11 ในวันพุธที่ 7 ต.ค.นี้ โดยเป็นการประชุมแบบเผชิญหน้าร่วมกันครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2563 ซึ่งหลังจากนั้นต้องจัดประชุมทางไกลอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19

แผนการผลักดันให้สมาชิกและพันธมิตรลดการผลิตน้ำมัน เกิดขึ้นในขณะที่โลกกำลังพยายามต่อสู้เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน หลังจากราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ฉุดอัตราเงินเฟ้อขึ้นไปสู่ระดับสูงในรอบหลายทศวรรษ ที่สร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจทั่วโลกและเกิดวิกฤตค่าครองชีพลุกลามในหลายประเทศ

แม้ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่ประเทศผู้บริโภคน้ำมันได้ผลักดันให้ชาติสมาชิกโอเปก+ (โอเปกพลัส) ผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเพื่อกดราคาลงมา

ขณะที่ตะวันตกพากันรุมตำหนิว่า เป็นข้อเรียกร้องที่ถูกเมินเพื่อความพึงพอใจของปูติน ที่ถูกมองว่าใช้อิทธิพลที่อยู่เหนือตลาดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพื่อตอบโต้การคว่ำบาตรของตะวันตกต่อรัสเซียกรณีการบุกยูเครน

แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ จะเดินทางไปเยือนซาอุดิอาระเบียเมื่อเดือนกรกฎาคม เพื่อโน้มน้าวให้เพิ่มการผลิตน้ำมัน โดยเป็นการ “เข้าพบ” มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน “ผู้ครองราชอาณาจักรโดยพฤตินัย” หรือที่รู้จักกันในชื่อ MBS

แม้ไบเดนจะเคยสัญญาว่าจะทำให้ MBS กลายเป็นคนนอกคอก (pariah) เพราะเชื่อว่าเป็นผู้บงการสังหาร จามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวของวอชิงตันโพสต์ เมื่อปี 2561

แต่ไบเดนเสียอีกที่นอกจากจะเสียรู้ MBS แล้ว ยังเสียหน้าเมื่อถูกนักข่าวกดดันหนักว่า ในเมื่อมาเจอตัวเป็น ๆ ทั้งที ทำไมไม่ทำอย่างที่พูดไว้ตอนหาเสียง จนเขาต้องเดินออกจากโพเดียมไปดื้อ ๆ 

นอกจากนี้ ยังถูกจับผิดว่าเสียศูนย์ เพราะมีการ “เดินเซ” เหมือนไม่มีสติ เหม่อลอยและไปผิดทาง ที่น่าจะเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งอายุมาก ทั้งภารกิจที่หนักหน่ว งและเร่งรีบเกินกว่าที่ชายวัยใกล้ 80 ปีจะรับไหว