จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ปูพรมสร้าง Ecosystem เสริมแกร่งธุรกิจเพลง

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ปูพรมสร้าง Ecosystem เสริมแกร่งธุรกิจเพลง

"เพลง" เป็นสิ่งที่อยู่เหนือกาลเวลาและไม่มีวันตาย เมื่อธุรกิจเพลงโลกกลับมาเติบโตอีกระลอกรอบ 20 ปี ทำให้ยักษ์ใหญ่ 'จีเอ็มเอ็มแกรมมี่’ เดินหน้าสร้าง Ecosystem หนุนธุรกิจเพลงให้เติบโตอย่างยั่งยืน

หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ส่งผลให้อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก เริ่มฟื้นตัวและกลับมาเติบโตอีกครั้ง ขณะที่เทรนด์ตลาดเพลงโลกกระแสเพลง “เคป๊อป” ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

อีด้านผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจกลับมาฟังเพลงเก่ามากขึ้น รวมไปถึง แพลตฟอร์ม TikTok กลายเป็นสื่อที่ช่วยโปรโมทเพลงผ่านวีดีโอขนาดสั้นได้เป็นอย่างดี การทยอยเห็นคอนเสิร์ตและมหกรรมดนตรีต่างๆกลับมาจัดอีกครั้ง เป็นปัจจัยหนุนอนาคตอุตสาหกรรมดนตรีให้สดใส

“จีเอ็มเอ็มแกรมมี่” ยักษ์ใหญ่ยืนหนึ่งในอุตสาหกรรมเพลง มองเห็นโอกาสในการต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมเพลงไทย รวมทั้งนำเพลงไทยเข้าสู่อุตสาหกรรมดนตรีระดับโลก หวังขึ้นดันเป็น Soft Power สร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับประเทศไทย ปลุกเศรษฐกิจ

นรมน ชูชีพชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เผยภาพรวมอุตสาหกรรมเพลงไทย ผู้บริโภคชาวไทยยังนิยม ฟังเพลงไทยมากถึง 78% ส่วน 22% เป็นเพลงต่างชาติ โดยมีสัดส่วนประเภทเพลงลูกทุ่งถึง 48% และ 34% เป็นเพลงกระแสหลัก ทั้งป๊อป, ร็อค, เรโทร, เพลงเก่า ที่เหลือ 18% เป็นเพลงกระแสใหม่ที่กำลังมาแรงประเภทไอดอล ฮิปฮอป อินดี้

ด้านส่วนแบ่งตลาดหรือมาร์เก็ตแชร์ตลาดเพลงไทย เมื่อแบ่งตามประเภทแนวเพลง แกรมมี่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 50% ทุกประเภท โดยเฉพาะเพลงร็อคครองส่วนแบ่งถึง 91% เพลงในกระแสทั้งป๊อป เรโทร และเพลงเก่าอยู่ที่ 58% ส่วนเพลงลูกทุ่งอยู่ที่ 63%

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ปูพรมสร้าง Ecosystem เสริมแกร่งธุรกิจเพลง นรมน ชูชีพชัย

“ธุรกิจเพลงของแกรมมี่ยังได้รับความนิยมและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เราจึงเดินหน้าสร้าง Ecosystem ให้กับธุรกิจเพลงตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำสร้างความแข็งแกร่ง”

สำหรับแนวทางการสร้างระบบนิเวศให้ธุรกิจเพลง ประกอบด้วย

1.กระบวนการสรรหา : เปิดรับสมัครออดิชั่นเฟ้นหาเด็กรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ไม่ว่าจะเป็น ป๊อป ไอดอล ร็อค, อินดี้ ลูกทุ่ง และ ไทดอล นำมาฝึกฝนเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเป็นศิลปินฝึกหัด อีกทั้งเพื่อเสริมกำลังในการพัฒนาคนเข้าสู่วงการเพลงมากขึ้น

2.กระบวนการพัฒนา : ศิลปินฝึกหัดทุกคนจะได้รับการพัฒนาทักษะด้านต่างๆจากสถาบัน สอนวิชาชีพศิลปินด้วยมาตรฐานระดับโลก คือ จีเอ็มเอ็ม อะคาเดมี่ เพื่อมุ่งสู่การเป็นศิลปินมืออาชีพ ที่ได้มาตรฐานระดับสากล

3.กระบวนการสร้างสรรค์ผลงาน : เมื่อฝึกฝนจนผ่านมาตรฐาน International Quality Training Program และมีศักยภาพในการเป็นศิลปินมืออาชีพ ซึ่งในการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินแต่ละคน เรามุ่งดึงศักยภาพและความเป็นตัวตนของศิลปินออกมาทั้งสไตล์เพลง คาแรคเตอร์ จนพร้อมที่จะออกสู่ตลาด เมื่อออกไปแล้วเรายังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสู่การเป็น มืออาชีพ เป็นซุปเปอร์สตาร์ต่อไป

นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิดตัวค่ายเพลงเพิ่มเติมเพื่อรองรับความหลากหลายทางดนตรี ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนล่าสุด “ไทดอลมิวสิค” ค่ายเพลงน้องใหม่ที่ปั้นมาเจาะกลุ่มแฟนคลับ คนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นวัยรุ่นในภาคอีสาน รองรับกระแสลูกทุ่งอีสานเลือดใหม่ที่กำลังมาแรง

นอกจากนี้ บริษัทยังพัฒนาศิลปินให้มีจุดเด่น ประกอบกับพัฒนาเพลงให้มีความหลากหลายทางดนตรีมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้ปรากฎสู่สายตาทั่วโลกและนำไปสู่การเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ

จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ปูพรมสร้าง Ecosystem เสริมแกร่งธุรกิจเพลง “หากปั้นศิลปินให้ดังระดับโลก จะกลายเป็น Soft Power ทรงพลัง นำมาซึ่งรายได้หมุนเวียนเข้าประเทศ รวมไปถึงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเพลงไทยได้อย่างต่อเนื่อง”

ปัจจุบันแกรมมี่ได้สร้างศิลปินเลือดใหม่ที่มีความหลากหลายและครอบคลุมในหลายเซ็กเมนต์ โดยแบ่งเป็น ประเภทร็อค มีศิลปินดังมากมาย เช่น ไททศมิตร, ทรีแมนดาวน์, ทิลลี่เบิร์ด, โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของ เพลงฮิต ดวงเดือน 170 ล้านวิว และเพิ่งสร้างปรากฏการณ์ 100 ล้านวิวยูทูปภายใน 2 สัปดาห์ กับเพลงนะหน้าทอง วง CLOCKWORK MOTIONLESS กับเพลง ปล่อย ที่ฮอตฮิตทั่วประเทศพร้อมยอดวิว 209 ล้าน

ประเภทลูกทุ่ง-ไทดอล ที่มีฐานแฟนคลับนับล้านบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น ลำเพลิน วงศกร ที่มีผู้ติดตามบนYoutube 1.65 ล้านคน และแอปพลิเคชันTikTok 1.2 ล้านคน เบลล์-นิภาดา ที่มีผู้ติดตามในแอปพลิเคชันTikTok 4.7 ล้านคน และFacebook 1.2 ล้านคน มีนตรา อินทิรา ที่มีผู้ติดตามในแอปพลิเคชันTikTok 1.2 ล้านคน และFacebook 7.6 แสนคน ยังมี ตรี ชัยณรงค์ เจ้าพ่อพวงมาลัยเงินล้าน, เวียง นฤมล, เบียร์ พร้อมพงษ์, เน็ค นฤพล, ออยเลอร์ เบนซ์ เมืองเลย และ จา สิงห์ชัย

ด้านศิลปินประเภทป๊อป เริ่มต้นต้อนรับวาระครบรอบ 36 ปี พร้อมเปิดอัลบั้มที่ 22 ของซูปเปอร์สตาร์ตลอดกาล เบิร์ด​ ธงไชย แมคอิน​ไตย์ ที่เปิดตัวส่งความสุขอย่างทั่วถึงทุกคนแบบ 720 องศา, ป๊อบ ปองกูล กับเพลง สลักจิต ที่ติดชาร์ตอันดับ 1 Billboard Thailand เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมเป็นพันธมิตรสื่อ เช่น วีจีไอ รถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ที่อยู่ในทำเลทองหรือแลนด์มาร์กสำคัญใจกลางเมือง เช่น สยามสแควร์, อโศก ด้วยการนำศิลปิน ในเครือแกรมมี่มาสร้าง Interactive ด้วย Content 3D เพื่อเชื่อมต่อศิลปินกับแฟนคลับให้ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น อีกทั้งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการพัฒนาสร้างสรรค์คอนเท้นท์ให้มีความสนุกน่าสนใจและสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาการสื่อสารการตลาดผ่านเสียงเพลง (Music Marketing) ให้มีรูปแบบ ที่แปลกใหม่หลากหลาย น่าสนใจเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนและเข้าถึงมากขึ้น