จับแก๊ง Efferin หลอกขายอาหารลดหุ่น อ้างดีเจ-พิธีกรดัง สูบเงินเหยื่อหมุนเวียน 660 ล้าน

จับแก๊ง Efferin หลอกขายอาหารลดหุ่น อ้างดีเจ-พิธีกรดัง สูบเงินเหยื่อหมุนเวียน 660 ล้าน

ตำรวจ ปคบ. รวบ 4 ผู้ต้องหา ร่วมตั้งเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ขาย Efferin อาหารลดหุ่นสรรพคุณเกินจริง อ้างดีเจ พิธีข่าวชื่อดัง เกิดความน่าเชื่อถือ สร้างรายได้ 6 เดือน กวาดเงินกว่า 219 ล้าน มีงบโฆษณาต่างประเทศ 188 ล้าน เงินหมุนเวียนอีกกว่า 660 ล้าน อย.เตือนสติ อาหาร เครื่องสำอางค์ ไม่สามารถรักษาโรค

ทลายเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ขาย Efferin อาหารลดหุ่นสรรพคุณเกินจริง อ้างดีเจ พิธีกรชื่อดัง เกิดความน่าเชื่อถือ สร้างรายได้  6 เดือน กวาดเงินกว่า 219 ล้าน มีงบโฆษณาต่างประเทศ 188 ล้าน เงินหมุนเวียนอีกกว่า 660 ล้าน ด้าน อย.เตือนสติ อาหาร เครื่องสำอางค์ ไม่สามารถรักษาโรค

วันที่ 6 กันยายน 2565 เวลา 10.00 น. กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับ การคุ้มครองผู้บริโภค ( ผบก.ปคบ.)  ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ(ศรป.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา  4 คน ประกอบด้วย นายมนัสศิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี นายพิศิษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี นายธิติพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี น.ส.อิสรีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี พร้อมของกลาง คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ เอกสารต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพผิดกฎหมาย รวมมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดร่วมกันเป็นเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์สร้างข้อมูลเท็จหลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ 

สืบเนื่องจาก ดีเจสาว ชื่อดัง ร้องขอให้ตรวจสอบ เพจเฟซบุ๊กชื่อ Center for the health of the nation นำรูปถ่ายไปใช้แอบอ้างโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก Efferin เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจสอบพบ บริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ดำเนินการโฆษณาและจัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว โดยมีการโฆษณาโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นที่ผิดกฎหมายอีกจำนวนหลายรายการ

นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังมีการตัดต่อรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง , แพทย์หรือสถานพยาบาลชื่อดัง มาใช้แอบอ้างโฆษณา อาทิ คุณกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ หลอกให้เหยื่อสนใจติดต่อเข้ามา ก่อนให้ผู้ร่วมขบวนการสวมรอยเป็นฝ่ายขาย หรือ Call Center ติดต่อกลับไปหาเหยื่อเพื่อบรรยายสรรพคุณเกินจริง โน้มน้าวให้เหยื่อตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งกว่ารู้ตัวว่าสินค้าไม่ได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณาก็สายไปเสียแล้ว 

หลังการจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่า เป็นการประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยมี นายธิติพัทธ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น ทำหน้าที่บริหารจัดการดูแลบริษัท ส่วน น.ส.อิสรีย์ น้องสาวของนายธิติพัทธ์ จะทำหน้าที่ดูแลด้านการเงิน ส่วนการโฆษณาสินค้า ทางบริษัทได้ว่าจ้างบริษัทในประเทศเวียดนาม, สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นผู้ดำเนินการ

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบเงินหมุนเวียนกว่า 660 ล้านบาท เฉพาะเพียงช่วงระหว่างเดือน ม.ค. 65 ถึง มิ.ย. 65 มีรายได้จากการ หลอกหลวงขายผลิตภัณฑ์กว่า 219 ล้านบาท มีการจ่ายเงินค่าโฆษณาไปยังต่างประเทศ รวมเป็นเงินจำนวน 188 ล้านบาท 

ด้าน ภญ. อรัญญา กล่าวเตือนประชาชน ขออย่าได้หลงเชื่อโฆษณาที่หลอกลวงเกินจริง หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีหลักฐาน หรือผลการสอบประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์สนับสนุน ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า อาหารหรือเครื่องสำอางไม่มีสรรพคุณรักษาโรคได้ ฉะนั้น ก่อนำสั่งซื้อทุกครั้ง ควรไตร่ตรองให้รอบคอบ