"อิชิตัน" บุกหนักเร่งพอร์ต "นอน-ที" โต คิกออฟ “ตันซันซู” ลุยตลาดน้ำอัดลม

ตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ “แสนล้านบาท” ครึ่งปีแรกเติบโตเล็กน้อย 0. 4% ทว่า “แชมป์” การเติบโตสูงสุดคือ “ชาเขียวพร้อมดื่ม” ทั้งเชิงมูลค่าขยายตัวถึง 20.5% และเชิงปริมาณโต 16.3% หมวดนี้มีผู้เล่นบิ๊กแบรนด์ 2 ราย ขับเคี่ยว และโกยส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด โดย “อิชิตัน” เป็นเบอร์ 2 ที่ครองส่วนแบ่งราว 30.2% ขณะที่เบอร์ 1 อยู่ที่ 48%

ผลงานครึ่งปีแรก “อิชิตัน กรุ๊ป” สร้างรายได้จากการขาย 3,058.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% มีกำไรสุทธิ 256.5 ล้านบาท ลดลง 10.3%

ทั้งนี้ ครึ่งปีหลัง บริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ 3N ได้แก่ การออกสินค้าใหม่(New Product ขยายตลาดใหม่(New Market) และธุรกิจใหม่(New Business) สร้างการเติบโตของยอดขายแตะ 6,500 ล้านบาท เติบโต 24% ตามเป้าหมายที่วางไว้

ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เล่าไฮไลท์ครึ่งปีหลัง จะเห็นขบวนสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดจำนวนมาก ภายใต้แบรนด์ตัวเอง รวมถึงรับจ้างผลิต(โออีเอ็ม)ให้กับลูกค้าต่างๆ

สินค้าใหม่ที่จะเห็นได้แก่ ชาเขียวพร้อมดื่ม 2 รายการ ทั้งชาเขียวมะลิ และอู่หลง ซึ่งครั้งนี้จะรับเทรนด์สุขภาพ และการเก็บภาษีความหวานที่จะมีผล 1 ตุลาคมนี้ ทำให้บริษัทต้องปรับสูตร 0 แคลอรี และ “น้ำตาล 0%” ทำให้บริษัทลดภาระด้านภาษีความหวาน 0.3 บาทต่อขวด เซฟเงินในกระเป๋าอีกมาก

ด้านแบรนด์ “เย็นเย็น” ได้เวลาขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้า ขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย ผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น จะเติมรสชาติใหม่ “รสบ๊วย” ผสมสมุนไพร ซึ่งเป็นการดึงรสยอดฮิตขายดียาวนานกว่า 20 ปี ในประเทศจีนและไต้หวันมานำเสนอสู่คนไทยเดือนกันยายน นี้ ตั้งเป้ายอดขาย 70 ล้านบาท ที่สำคัญหวังดันขึ้นท็อป 3 ในตลาดชาพร้อมดื่ม

ในกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียวหรือนอน-ที จะเปิดเกมรุกต่อสำหรับ “อิชิตัน น้ำด่าง” ที่มาพร้อมสาร “ซีบีดี” จากกัญชง เป็นการย้ำจุดยืนของแบรนด์ว่าไม่ใช่ “น้ำผสมวิตามิน” ขอเป็นน้ำด่างที่ดื่มแทนน้ำเปล่าได้ ซึ่งจะออกมาสู่ตลาดเดือนกันยายนนี้ ตั้งราคาขาย 20 บาท ตั้งเป้ายอดขาย 50 ล้านบาท

 นอกจากนี้ จะเห็นน้องใหม่คือแบรนด์ “ตันซันซู” น้ำอัดลมที่จะมาเกาะกระแส K-Pop เพื่อทำตลาดเดือนตุลาคม 2 รายการ ราคาขาย 20 บาท โดยตั้งเป้ายอดขาย 150 ล้านบาท แต่ต่อปีมองยอดขายถึง 500 ล้านบาท รองรับตลาดขนาดใหญ่มูลค่า 31,000 ล้านบาท รวมถึงการร่วมมือกับ “เนสท์เล่” ในการออกสินค้าใหม่หมวดไอศกรีม หลังจาก 2 สินค้าที่เสิร์ฟผู้บริโภคได้การตอบรับอย่างดี

“ในปีนี้เราจะมีการโคแบรนด์กับเนสท์เล่อีกครั้ง เพื่อออกสินค้าใหม่สู่ตลาด”

ขณะที่การขยายตลาดใหม่ ต้องเดินหน้าผลักดันการส่งออกชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตัน ไปยังตลาดเพื่อนบ้านกลุ่มกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามหรือซีแอลเอ็มวี ที่บางตลาดเริ่มนโยบายเปิดประเทศแล้ว เช่น กัมพูชา เริ่มฟื้นตัว หลังจากตลาดหดตัว ส่วนลาวยังค่อนข้างฟื้นตัวช้า แต่บริษัทจะออกหมัดการตลาดทั้งกลับไปทำแคมเปญ โปรโมชั่น กิจกรรมต่างๆ มากขึ้น

ทว่า หนึ่งในตลาดที่เป็นกุญแจสร้างการเติบโต คือ อินโดนีเซีย ที่มีสินค้าพระเอกอย่าง “ชาไทย” โกยยอดขายอย่างต่อเนื่อง เสริมทัพด้วยอิชิตัน บราวชูก้าร์ ที่เติบโตถึง 300% บริษัทยังเติมสินค้าใหม่เสิร์ฟผู้บริโภคกับแบรนด์ “Calvit” โยเกิร์ตพร้อมดื่ม เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาด

บริษัทยังเดินหน้าขยายกำลังการผลิตสินค้าเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นด้วย

ล่าสุด บริษัทยังรุกคืบบุกตลาด “ฟิลิปปินส์” ผ่านฐานผลิตในอินโดนีเซีย ซึ่งภารกิจใหญ่ ยังควงพันธมิตรอย่าง บริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด เจ้าของห้างค้าปลีก “อัลฟ่า มาร์ท” ไปขยายช่องทางจำหน่ายให้กว้างขึ้น ด้วยการผนึกทุนเบอร์ 1 อย่าง “SM Investments” อาณาจักรค้าปลีก เบอร์ 1 เพื่อสร้างการเติบโต

ในระยะยาวบริษัทยังมองการสร้าง “ฐานผลิต” ในฟิลิปปินส์ด้วย ภายใน 2-3 ปี หรือไม่เกิน 5 ปี ซึ่งเงื่อนไขการลงทุนเปิดกว้าง เพราะไม่ต้องลงทุนเอง แต่พันธมิตรมีฐานโรงงานในการสร้างไลน์การผลิตอยู่แล้ว จากเดิมจะผลิตให้ค่ายเครื่องดื่มไต้หวัน

ขณะที่การรับจ้างผลิตสินค้า จะผลิตเครื่องดื่มชูกำลัง “ไทเทเนียม พาวเวอร์” ให้กับศิลปิน “ไทเทเนียม” และเครื่องดื่มที่ผสมสารซีบีดี ให้กับกลุ่มทุนบุรีรัมย์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายก๊าซแอลพีจีถิ่นอีสานตอนใต้ ประเดิมล็อตแรก 20,000 ลัง

“ทิศทางการเติบโตในครึ่งปีหลัง คาดการณ์ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะการออกสินค้าใหม่ จะส่งผลให้การรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4”

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์