เป็นงง! ปิดประชุม รมต.ท่องเที่ยว “เอเปค” ไม่สามารถหาฉันทามติในถ้อยแถลงได้

เป็นงง! ปิดประชุม รมต.ท่องเที่ยว “เอเปค” ไม่สามารถหาฉันทามติในถ้อยแถลงได้

รูดม่านปิดประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยว “เอเปค” วันนี้ (19 ส.ค.) ไม่สามารถหาฉันทามติในถ้อยแถลงได้ เหตุผู้แทนจาก “บางประเทศ” ไม่เห็นด้วย กับการมีคำว่า “สงบสุข” และ “ความมั่นคง” ในร่างแถลงการณ์

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงผลการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ 11 ว่า ( 11th Tourism Ministerial Meeting: TMM) ณ โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ กรุงเทพฯ โดยสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคจะมุ่งสร้างสรรค์และฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม และเกิดการฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน (Regenerative Tourism) เพื่อนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของทุกภาคส่วน

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือแผนยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวเอเปค ปี 2563-2567 ที่จะร่วมมือฟื้นฟูการท่องเที่ยวในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโควิด–19 และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในแต่ละเขตเศรษฐกิจ รวมถึงหารือถึงวิธีการรักษาสถานะของการท่องเที่ยวในฐานะภาคส่วนที่สร้างประโยชน์และความอยู่ดีกินดีให้แก่ประชาชนในภูมิภาคเอเปค

“ตลอดระยะเวลาการประชุม ทุกเขตเศรษฐกิจได้ร่วมกันเจรจาร่างถ้อยแถลง และสามารถบรรลุฉันทามติได้ในทุกย่อหน้า ยกเว้นเพียงย่อหน้าเดียวที่เขตเศรษฐกิจต่าง ๆ ไม่สามารถหาฉันทามติกันได้ จึงได้ผลลัพธ์ในรูปถ้อยแถลงประธาน หรือ Chair’s Statement แทน”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นที่ไม่สามารถบรรลุฉันทามติจนออกร่างแถลงการณ์ของรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค และต้องเปลี่ยนเป็นได้ถ้อยแถลงประธานแทน เนื่องจากผู้แทนจาก “บางประเทศ” ไม่เห็นด้วยที่ในร่างแถลงการณ์ในย่อหน้าที่ 2 เพียงย่อหน้าเดียว ซึ่งมีคำว่า Peace and Stability” (ความสงบสุขและความมั่นคง)

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้สามารถรับรองเอกสาร 2 ฉบับ ได้แก่

1.ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเปคให้มีอนาคตที่ดีกว่าเดิม : การท่องเที่ยวฟื้นสร้างอย่างยั่งยืน

2.คู่มือเอเปคสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านการท่องเที่ยว ฉบับปรับปรุง ซึ่งเอกสารทั้งสองฉบับนี้เป็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของเอเปคในปีนี้ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนเป็นก้าวสำคัญของเอเปคในการก้าวไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ปุตราจายา ค.ศ. 2040 และเพื่อให้เราทำงานต่อไปข้างหน้า

สำหรับผลลัพธ์ที่ไทยคาดหวังว่าจะได้รับจากการนำเสนอแนวคิดนี้ คือเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่ต่อยอดมาจากแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อจะช่วยฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดูแลรักษาทรัพยากรในแหล่งท่องเที่ยวของไทยให้คงอยู่อย่างยั่งยืน และให้คนในชุมชนมีส่วนร่วม เกิดการกระจายรายได้สู่คนในท้องถิ่นอย่างแท้จริง สร้างระบบให้ชาวบ้านมีอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเอง สร้างประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นที่มีฐานะเป็น “เจ้าบ้าน” ในทุกแหล่งท่องเที่ยว

โดยสามารถทำให้คนในชุมชนมีความสุขกับการเติบโตของการท่องเที่ยวโดยคนในชุมชนได้รับประโยชน์ในแบบที่ตนเองต้องการไม่ว่าจะเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น และการได้ฟื้นฟูวิถีชีวิตดั้งเดิม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ร่วมกันของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคไม่เพียงแต่ประเด็นการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างกันและการท่องเที่ยว แต่จะครอบคลุมถึงการส่งเสริมการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม โดยมุ่งสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ภายใต้หัวข้อหลักของการเป็นเจ้าภาพเอเปคปีนี้ของไทย คือ "เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล"