นันยาง ‘ช้างดาวสีชมพูดำ’ ก็มา การตลาดเรียลไทม์ โกยกระแส ‘BLACKPINK’
ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ สำหรับเกมกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์รองเท้าสัญชาติไทยอย่าง “นันยาง” โดยเฉพาะการเล่นกับกระแส Real Time Marketing ที่สังคมกำลังให้ความสนใจ
นาทีนี้ Soft Power ที่ทรงพลังอย่างยิ่ง ยกให้กับการคัมแบ็กของวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีใต้อย่าง “แบล็กพิงก์”(BLACKPINK) ที่ปล่อยเพลง Pink Venom มาเขย่าวงการ ซึ่งทันที่ที่ MV ออกมา สามารถโกยยอดการรับชม(View)อย่างล้นหลาม โดยผ่านไป 5 ชั่วโมง(ชม.) ทะลุกว่า 34 ล้านวิวเรียบร้อยแล้ว
ความร้อนแรงและการคัมแบ็กของ “แบล็กพิงก์” ทำให้ “นันยาง” ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า
..ถ้าเพลงใหม่ #BLACKPINK ยอดวิวถึง 80 ล้านใน 24 ชม. จะผลิตช้างดาวสีชมพูดำ..
สิ้นสุดการโพสต์ผ่านไปเพียง 2 ชม. เรียกยอดไลก์จากฐานแฟนได้กว่า 35,000 ไลก์ แชร์กว่า 10,000 ครั้ง และคอมเมนต์อีกหลายพัน สะท้อนถึงเอ็นเกจเมนต์กับแบรนด์มีสูงมาก
ที่น่าสนใจคือความเห็นของแฟน เปรียบเสมือนการสำรวจความต้องการตลาดไปในตัวว่ามีใครคนไหน อยากได้รองเท้า “นันยางช้างดาวสีชมพูดำ” บ้าง แน่นอนผลตอบรับจากสาวก รวมถึง อินฟลูเอ็นเซอร์ เข้ามาเพียบ บ้างบอกให้เตรียมผลิตได้เลย รอสวมใส่รองเท้าบ้าง ผลิตมาให้เยอะอย่าให้ของขาดบ้าง นับเป็นการตลาดที่รวดเร็วทันการณ์ และรับรู้ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายทันท่วงที
ยิ่งกว่านั้น คือการเป็น “ผู้กำหนดเทรนด์” ให้กับรองเท้าได้ด้วย เพราะหากดูสไตล์หรือแนวทางการพัฒนาสินค้าของนันยางช้างดาว ถือเป็นรองเท้าแตะที่มีความเรียบง่าย ทั้งแบบ ดีไซน์ แม้กระทั่งสีสัน ได้แก่ รองเท้าแตะช้างดาว “รุ่นคลาสสิค” มีสีฟ้าวขาว เขียวขาว แดงขาวให้เลือก รองเท้าแตะช้างดาว “รุ่นเบสิก” มีสีดำ สีขาว และรองเท้าแตะช้างดาว “รุ่นพระสงฆ์”
ยังไงกระแสของ MV เพลง Pink Venom ย่อมมีสาวกของไอดอลเกิร์ลปรุ๊ปพร้อมช่วยกันผลักดันยอดวิวให้สูงอยู่แล้ว พลังของ Soft Power ดังกล่าว ยังจุดประกายให้แบรนด์ สร้างสรรค์ช้างดาวสีสันใหม่ๆออกสู่ตลาดด้วย
“นันยาง” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เล่นกับกระแส Real Time Marketing ได้อย่างดี เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่แบรนด์ประกาศแล้ว ผลตอบรับมักดีด้วย นั่นหมายถึง “ยอดขาย” ที่ตามมา แต่ผลลัพธ์เชิงบวกที่ได้ไม่แพ้กันคือ แบรนด์ยังอยู่ในกระแส ครองใจผู้บริโภคได้ตลอดด้วย
หากย้อนดูผลงาน Real Time Marketing ที่นันยางทำ เช่น นันยางเรด รุ่นลิมิเต็ด เอดิชันที่เกิดจากสโมสรฟุตบอลในอังกฤษอย่าง “ลิเวอร์พูล” กำลังจะคว้าแชมป์ประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทางแบรนด์จึงประกาศว่า หากทีมหงส์คว้าแชมป์จะผลิตรองเท้าผ้าใบสีแดงออกมาเอาใจสาวก แน่นอนว่า หงส์ได้แชมป์ และนันยางเรด ก็คลอดมาสู่ตลาด และยังทำให้แบรนด์ชนะแคมเปญการตลาดแห่งปีอีกด้วย
นอกจากนี้ ช่วงที่กระเป๋า FREITAG มาแรง นันยางก็ปิ๊งไอเดีย ด้วยการนำป้ายโฆษณาไวนิลของแบรนด์มารีไซเคิล และพัฒนาเป็นกระเป๋าหรือ NANYANG BAG 2020 ราคาขายราว 650 บาท
หรือแม้แต่กระแสรักษ์โลก ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แค่สร้างลักษณ์ของผู้บริโภค แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนตระหนัก นันยางได้ลุกมาจับมือกับ “ทะเลจร” ลุยโปรเจค “ขยะ”(KHYA) นำขยะมาผลิตรองเท้า ซึ่ง 1 คู่ ใช้ขยะมากถึง 5 กิโลกรัม
สิ่งที่แบรนด์ทำเป็นเรื่องของการตลาด และล้วนตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ไม่เพียงยอดขาย แบรนด์เป็นที่รับรู้ต่อเนื่อง แน่นอนว่า Earn Media เป็นอีกสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้สำหรับการสร้างแบรนด์ในแต่ละกระแสด้วย