ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 55 เซนต์ คลายกังวลปิดท่อส่งน้ำมันแคนาดา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง 55 เซนต์ คลายกังวลปิดท่อส่งน้ำมันแคนาดา

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(8ธ.ค.) ดิ่งลง 55 เซนต์ หลังนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับการปิดท่อส่งน้ำมันของแคนาดา

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส  ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 55 เซนต์ ปิดที่ 71.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนกพ. ลดลง 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.15 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นกว่า 4% ทะลุระดับ 75 ดอลลาร์ในช่วงแรก หลังบริษัท TC Energy ของแคนาดาประกาศปิดท่อส่งน้ำมัน Keystone เนื่องจากพบการรั่วไหล

ทั้งนี้ Keystone เป็นท่อส่งน้ำมันจากรัฐแอลเบอร์ตาของแคนาดาไปสู่แถบกัลฟ์โคสต์และมิดเวสต์ของสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิ่งลงในเวลาต่อมา หลังผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปิดท่อส่งน้ำมันดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อปริมาณน้ำมันในตลาด

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันได้แรงหนุนในช่วงแรกจากความหวังที่ว่าจีนจะกลับมาเปิดประเทศ หลังมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยเพิ่มความต้องการใช้น้ำมัน

ทางการเซี่ยงไฮ้ประกาศยกเลิกกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้ประชาชนต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 เป็นลบก่อนเข้าร้านอาหาร หรือสถานบันเทิง โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของจีน ต้องตกอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์หลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้กิจกรรมเศรษฐกิจชะลอตัวลง และทำให้ประชาชนลุกฮือประท้วงมาตรการสกัดโควิด-19

ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากภาวะคับคั่งของเรือบรรทุกน้ำมันดิบของรัสเซียจากท่าเรือในทะเลดำไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งทำให้การขนส่งน้ำมันเป็นไปอย่างล่าช้า หลังมีการบังคับใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียของกลุ่ม G7 และสหภาพยุโรป (อียู)
 

ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาน้ำมันดิ่งลงอย่างหนักวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์เชื้อเพลิงในสหรัฐ หลังจากตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว