คมนาคมจี้ 'การบินไทย' ปมกระเป๋าล่าช้า เตรียมประมูลหารายใหม่บริการ มี.ค.นี้

คมนาคมจี้ 'การบินไทย' ปมกระเป๋าล่าช้า เตรียมประมูลหารายใหม่บริการ มี.ค.นี้

คมนาคมขีดเส้น 30 วัน สั่ง “การบินไทย และบีเอฟเอส” เร่งแก้ปัญหากระเป๋าล่าช้า พร้อมเดินหน้าหนุน ทอท.ประมูลหาผู้ประกอบการรายใหม่ คาดชง ครม.เปิดประมูลต้นปี 2566

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหากระเป๋าล่าช้าในท่าอากาศยาน โดยระบุว่า ขณะนี้ ทางกระทรวงฯ มี 2 แนวทางในการปฏิบัติ คือ แผนระยะสั้น มอบหมายให้ บริษัท การบินไทย จํากัด (มหาชน) และบริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (บีเอฟเอส) บริษัทในเครือสายการบินบางกอกแอร์เวย์​ส ไปดำเนินแก้ไขปัญหาดังกล่าวภายใน 30 วัน

อย่างไรก็ดี หากผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ยังไม่สามารถแก้ไขได้ กระทรวงฯ จะเรียกสายการบินอื่นมาหารือ เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยอาจจะถามถึงความพร้อมในการจ้างเอาท์ซอร์ซ (Outsource) มาให้บริการในแต่ละสายการบินเอง เพื่อให้การบริการจัดการคล่องตัวมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการบินไทยรับจ้างให้บริการภาคพื้นขนถ่ายกระเป๋าครองสัดส่วนประมาณ 80% และทางบีเอฟเอส ให้บริการในสัดส่วน 20%

“ตอนนี้มีผู้ประกอบการเพียงสองราย และปัญหาที่เกิดขึ้นเกิด คือ บุคลากรในการให้บริการขนกระเป๋าของการบินไทยไม่เพียงพอ เนื่องจากมีการปลดพนักงานออกในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นผลให้ปัจจุบันเหลือพนักงานเพียง 30% เมื่อเทียบกับปี 2562 จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเป๋าล่าช้ากว่ากำหนด ซึ่งเรื่องนี้ต้องเร่งแก้ไข”

ส่วนแผนระยะยาวได้มอบหมายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ไปศึกษาหาผู้ให้บริการรายใหม่มาเตรียมให้บริการเพิ่ม เนื่องปัจจุบันนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเดินทางมากขึ้นแล้ว ทำให้ปัจจุบันเกิดปัญหาดีมานด์มากกว่าซัพพลาย รวมถึงต้องเตรียมพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะกลับเข้ามาไทยในปี 2566 และรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับเข้ามาแบบก้าวกระโดด หรือเทียบเท่าก่อนช่วงเกิดโควิด หรือเทียบเท่ากับเมื่อปี 2562

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พบว่าบริการอื่นๆ มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยว อาทิ การให้บริการของจุดตรวจคนเข้าเมือง ที่มีความรวดเร็วและลดความแออัดได้มากขึ้น รวมถึงทางท่าอากาศยานได้มีการเพิ่มเครื่องเช็คอินอัตโนมัติเพื่อให้บริการอีกด้วย ส่วนการให้บริการรถสาธารณะแท็กซี่ ยืนยันว่าเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งในขณะนี้ มีแท็กซี่ให้บริการอยู่ที่ 4,000 คัน จากเดิมมีการให้บริการ 6,000 คัน ทั้งนี้ ได้มีการหารือกับกลุ่มผู้ขับแท็กซี่ หากให้บริการไม่เพียงพอยินดีที่จะให้ขนส่งรายอื่นมาให้บริการแทนได้ต่อไป

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ในเรื่องของการแก้ปัญหาการให้บริการขนส่งกระเป๋าเดินทางล่าช้านั้น ขณะนี้ปลัดกระทรวงคมนาคมได้เรียกผู้ประกอบการที่ให้บริการขนถ่ายกระเป๋าทั้ง 2 ราย คือ การบินไทย และบีเอฟเอส มาหารือและให้เร่งรัดแก้ไขปัญหาแล้ว ขณะที่ ทอท.ได้ทำหนังสือถึงผู้ประกอบการให้เร่งแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จภายใน 90 วัน เพื่อไม่ให้กระทบต่อสัญญากำหนดไว้

ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว เรื่องการจัดหาผู้ประกอบการรายใหม่ ปัจจุบัน ทอท.ได้นำเสนอเรื่องนี้ไปยัง คณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการพีพีพี)​ โดยอยู่ระหว่างพิจารณา หากผ่านการเห็นชอบจะนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกลับเข้าสู่ขั้นตอนเปิดประกวดราคาในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ.2566 ดังนั้นคาดว่าจะได้ตัวผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาให้บริการเพิ่มเติมในเดือน มี.ค. 2566