‘พาณิชย์- อเมซอน’ จับมือดัน SMEs ไทย รุกขายออนไลน์ข้ามประเทศ

‘พาณิชย์- อเมซอน’ จับมือดัน SMEs ไทย รุกขายออนไลน์ข้ามประเทศ

อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประเทศไทย ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ย้ำความความร่วมมือในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ไทยรุกตลาดค้าออนไลน์ ในงาน “Amazon Global Selling Thailand Business Accelerator 2022

วันที่ 11 พฤศจิกายน ที่อาคารทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทย จัดงาน "Amazon Global Selling Thailand Business Accelerator 2022" โดยเป็นการเน้นให้ความสำคัญกับผู้สร้างแบรนด์ ผู้ผลิต และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในไทยให้มีข้อมูลเชิงลึก ทักษะ และเครื่องมือที่จะสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อยกระดับการเติบโตในด้านอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ในงานมีผู้เกี่ยวข้องทางด้านการค้าเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยได้รับเกียรติจากโรเบิร์ต เอฟ. โกเดคเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงาน และแบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับศักยภาพด้านเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

  • ปี 65 คนไทยขายออนไลน์กว่า 5 ล้านชิ้น คาด 5 ปี อีคอมเมิร์ซโต 79%

ข้อมูลจาก อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ในประเทศไทย ระบุว่า ตั้งแต่จนถึงเดือนตุลาคม ผู้ขายชาวไทยสร้างยอดขายด้วยจำนวนผลิตภัณฑ์มากกว่า 5 ล้านชิ้นให้แก่ลูกค้าทั่วโลกผ่านร้านค้าบนอเมซอน และจากการสำรวจโดย AlphaBeta ในต้นปี 2565 พบว่า มูลค่าของยอดขายอีคอมเมิร์ซในรูปแบบธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) ที่บริษัทในประเทศไทยได้รับจากการขายสินค้าในต่างประเทศมีศักยภาพเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2570 หากธุรกิจเหล่านี้ยังมุ่งสร้างตลาดในอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน ส่วนแบ่งของยอดขายอีคอมเมิร์ซสําหรับ Micro-SMEs คาดว่าจะอยู่ที่ 31% ในปี 2565 และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 79% ภายในปี 2570

นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมมือกับ Amazon Global Selling Thailand อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยสนับสนุน SME ไทย สู่ตลาดการค้าออนไลน์อย่างครบวงจร ในปี 2566 กรมมีแผนงานร่วมกับ Amazon Global Selling Thailand ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยโดยการจัด Roadshow และ Workshop ด้านการค้าออนไลน์ในทุกภูมิภาค เพื่อส่งเสริมสินค้าศักยภาพของไทยขึ้นขายบนช่องทาง Amazon และขยายสู่ตลาดอื่นๆ ต่อไป อันจะเป็นการประกาศศักยภาพสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ

‘พาณิชย์- อเมซอน’ จับมือดัน SMEs ไทย รุกขายออนไลน์ข้ามประเทศ นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์

  • เล็งเจาะตลาดอเมริกา

นายเอกฉัตร กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย อีกทั้งปัจจุบันกรมมีหน้าร้านค้าออนไลน์ “TOPTHAI Store” บนแพลตฟอร์ม Amazon.com ที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ไทยแท้ ซึ่งถือได้ว่าช่วยเพิ่มโอกาสบุกเจาะตลาดและช่วยขยายการรับรู้แบรนด์สินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ กรมมีแผนงานร่วมกับ Amazon Global Selling Thailand ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย อันจะเป็นการประกาศศักยภาพสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ และยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

สำหรับแนวโน้มการค้าของ Cross-Border eCommerce ในปี 2023 จะเน้นที่การแข่งขันในการสร้างประสบการณ์ที่ดีของการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานได้อย่างสะดวก (User Friendly) ความปลอดภัยในการชำระเงิน และการได้รับสินค้าที่รวดเร็ว อีกทั้งสินค้าก็ต้องตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของผู้ซื้อในโลกการค้ายุคใหม่ด้วย ซึ่งโอกาสสินค้าไทยในตลาดสหรัฐอเมริกาจะเป็นกลุ่มสินค้าเกรดพรีเมี่ยม มีคุณภาพสูง รวมทั้งสินค้าในกลุ่มเสื้อผ้า คอมพิวเตอร์ ของเล่น ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่ต้องการในตลาด

  • เผยยุทธศาสตร์พา SMEs ไทยลุยอีคอมเมิร์ซ

นายอนันต์ ปาลิต หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า SME หลายรายที่กำลังขายสินค้าออนไลน์กําลังเตรียมพร้อมสําหรับโอกาสและการมีส่วนแบ่งตลาดจากการขายสินค้าอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้นธุรกิจไทยควรที่จะคว้าโอกาสเพื่อใช้ประโยชน์ในตอนนี้

‘พาณิชย์- อเมซอน’ จับมือดัน SMEs ไทย รุกขายออนไลน์ข้ามประเทศ อนันต์ ปาลิต หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"มีโอกาสมากมายในตลาดทั่วโลก และอเมซอนนําเสนอเครื่องมือและบริการที่สามารถช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างรากฐานเพื่อเร่งยอดขายไปทั่วโลก กลยุทธ์ของเราที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยประสบความสําเร็จในปีหน้า คือการแนะนำเครื่องมือ ทรัพยากร และเพิ่มการสนับสนุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการอิสระในการวางเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และทําให้ให้อเมซอนเป็นหนึ่งในที่ ๆ ดีที่สุดในการสร้างแบรนด์ให้เติบโต เป้าหมายของเรายังรวมถึงความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้นกับทุกภาคส่วน เพื่อส่งเสริมความสําเร็จให้แก่ธุรกิจไทยในอนาคต"

 สำหรับ โครงการริเริ่มหลัก 4 ประการ ได้แก่ 1. สนับสนุนธุรกิจไทยในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลข้ามพรมแดนผ่านขนาดและทรัพยากรระดับโลกของอเมซอน ในปัจจุบันอเมซอนครอบคลุมร้านค้า 22 แห่ง จัดส่งผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 200 ประเทศ และมีศูนย์จัดการคลังสินค้ามากกว่า 400 แห่งทั่วโลก

2.บ่มเพาะผู้ประกอบการและสนับสนุนความสําเร็จของผู้สร้างแบรนด์ การขายทั่วโลกจะช่วยยกระดับโปรแกรมผู้ขาย และจะขยายโอกาสสําหรับผู้ขายในการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนทั้งออนไลน์และออฟไลน์

3. เปิดตัวเครื่องมือและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจไทย เช่น เครื่องมือเพื่อการสร้างแบรนด์ เช่น Brand Registry และ Brand Stores, Premium A+ Content, เครื่องมือการเลือกสินค้า Product Opportunity Explorer

4. การมอบสิ่งจูงใจจากอเมซอน เพื่อให้ธุรกิจไทยเริ่มต้นบนเส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เช่น การมอบสิทธิประโยชน์ด้วยมูลค่าสูงสุดถึง 50,000 เหรียญสหรัฐในการสนับสนุนผู้ขายรายใหม่ ซึ่งประกอบด้วย Fulfillment by Amazon และเครดิตสำหรับการโฆษณาสินค้าบน Amazon เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถเริ่มต้นเส้นทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนได้ง่ายขึ้น

เจมี่ เบรนแนน หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำประเทศไทย กล่าวว่า อเมซอนมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อประโยชน์ของผู้ขายสินค้า โดยมุ่งเน้นที่การสร้างการเติบโตและโอกาสสําหรับธุรกิจในประเทศไทย ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจและความร่วมมือต่าง ๆ  ‘พาณิชย์- อเมซอน’ จับมือดัน SMEs ไทย รุกขายออนไลน์ข้ามประเทศ เจมี่ เบรนแนน หัวหน้า อเมซอน โกลบอล เซลลิ่ง ประจำประเทศไทย

"เราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ เช่น DITP เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนผ่านสู่อีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนและจะผลักดันความพยายามเหล่านี้ต่อไปในปี 2566 นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการในประเทศไทยให้เข้าร่วมในโครงการ Climate Pledge Friendly ของ Amazon เพื่อร่วมกันส่งเสริมรูปแบบการพัฒนาที่ยั่งยืน"