"ทีเส็บ" ชง ครม. ประกาศปีแห่งการประชุม ฟื้นรายได้ไมซ์ไทยปี 66 เฉียด "แสนล้าน"

"ทีเส็บ" ชง ครม. ประกาศปีแห่งการประชุม  ฟื้นรายได้ไมซ์ไทยปี 66 เฉียด "แสนล้าน"

“ทีเส็บ” จ่อชง “ครม.” ประกาศ “ปีแห่งการประชุม 2566” หนุนฟื้นรายได้รวมไมซ์ไทย 9.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 50% ของรายได้รวม 2 แสนล้านบาทเมื่อปี 62 พร้อมจับมือ 11 พันธมิตร เร่งกระตุ้นการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ เปิดตัวแคมเปญ “SPIRE Thailand” มั่นใจสร้างเม็ดเงินกว่า 7.8 พันล้านบาท

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า พิจารณาการประกาศให้ปี 2566 เป็นปีแห่งการประชุม (Thailand MICE to Meet You 2023) เพื่อฟื้นรายได้รวมจากอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE: การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และจัดแสดงสินค้า) ของประเทศไทยในปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.2565-ก.ย.2566) อยู่ที่ 96,000 ล้านบาท หรือประมาณ 50% ของรายได้รวมไมซ์ไทยเมื่อปีงบประมาณ 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 2 แสนล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ 2565 คาดมีรายได้รวมไมซ์ไทยอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัวราว 15% ของรายได้รวมไมซ์ไทยปีงบประมาณ 2562

สำหรับการฟื้นรายได้กลุ่มการจัดงานแสดงสินค้า (Exhibition) ทีเส็บมีแผนขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดนี้ในประเทศปี 2566 ด้วยการผนึกกำลังกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน 11 หน่วยงาน ผลักดันการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ ภายใต้การดำเนินโครงการหลักคือ โครงการ EMTEX (Empower Thailand Exhibition)

โดยในปีงบประมาณ 2566 เปิดแคมเปญกระตุ้นการตลาดการจัดงานแสดงสินค้าร่วมกันภายใต้ชื่อ SPIRE Thailand: Strengthen Power In Regional Exhibitions” ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจกว่า 7,802 ล้านบาท จากจำนวนงานเป้าหมาย 27 งาน มีผู้เข้าชมงานรวม 50,000 คน และผู้แสดงสินค้าเข้าร่วมงานกว่า 2,000 องค์กร

“หน่วยงานพันธมิตรทั้ง 11 หน่วยงาน ภายใต้โครงการ EMTEX พร้อมเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการใช้ธุรกิจไมซ์เป็นเครื่องมือพัฒนาการจัดงานแสดงสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศไทย”

โดยมุ่งเน้น 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่

1.กลุ่มอาหาร เกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพ

2.กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์

3.กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์และระบบเครื่องกลที่ใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม รวมถึงกลุ่มดิจิทัลเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว

4.กลุ่มพลังงานทางเลือก รถยนต์ โลจิสติกส์ และคลังสินค้า

5.กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม การท่องเที่ยวและบริการที่มีมูลค่าสูง

เพราะการจัดงานแสดงสินค้าสามารถสร้างรายได้เข้าสู่ห่วงโซ่ธุรกิจและเป็นแพลตฟอร์มในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่ม SME ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ฐานงานแสดงสินค้าเป็นเครื่องมือทำการตลาด ทีเส็บและหน่วยงานพันธมิตรมั่นใจว่าจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดธุรกรรมทางเศรษฐกิจได้ในระยะเวลารวดเร็ว และมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว

“ทีเส็บมุ่งหวังว่าการเปิดตัวแคมเปญ SPIRE Thailand จะช่วยสร้างความตื่นตัวในตลาดงานแสดงสินค้าในประเทศซึ่งนิยมจัดกันในช่วงปลายปีนี้”

โดยแคมเปญดังกล่าวมอบแพ็กเกจการสนับสนุนร่วมกับพันธมิตรทั้ง 11 หน่วยงาน ประกอบด้วย การสนับสนุนงบประมาณส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าในประเทศ ผ่าน 2 แพ็กเกจหลัก ได้แก่ 1.แพ็กเกจ Clustering Show สนับสนุนงานแสดงสินค้าทั่วไปในวงเงินไม่เกิน 700,000 บาท/งาน โดยเป็นงานที่ส่งเสริม 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก และต้องมีระบบการลงทะเบียนเข้างาน รวมถึงการเก็บฐานข้อมูลที่ชัดเจน

และ 2. แพ็กเกจ Regional Best Show สนับสนุนงานแสดงสินค้าระดับภูมิภาคในวงเงินไม่เกิน 1,000,000 บาท/งาน เป็นงานที่ส่งเสริม 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก มีขนาดการจัดงานทั้งหมดมากกว่า 3,000 ตารางเมตร โดยมีสินค้าและบริการครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายระดับภูมิภาคหรือข้ามภูมิภาค และอยู่ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือจากเครือข่ายภาคี EMTEX ไม่ต่ำกว่า 3 หน่วยงาน รวมถึงมีการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการด้วยกันเองแบบ Business to Business (B2B)