ส.อ.ท.จี้รัฐ ‘รื้อ’ โครงสร้างค่าไฟช่วยภาคอุตฯ

ช่วงปลายปีนี้ที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนอยากให้ช่วยเหลือเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน ที่มองว่าหลังจากนี้ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มสูงขึ้น

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เกรียงไกร เธียรนุกุล ระบุ ช่วงปลายปีนี้ที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภาคเอกชนอยากให้ช่วยเหลือเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อ ค่าพลังงาน ที่มองว่าหลังจากนี้ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ฤดูหนาว ส่งผลให้ค่าพลังงานสูงขึ้น รวมถึงค่าแรงที่ปรับขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม รวมทั้งค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น การออกแพ็คเกจกระตุ้นเศรษฐกิจเข้าไปจะเป็นการช่วยให้เศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเอสเอ็มอี ผ่านช่วงที่ยากลำบากไปได้ จนกว่าจะถึงช่วงที่คลี่คลายได้ในปี 2566 ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี มาได้ถูกเวลาแล้ว

ทั้งนี้ สิ่งที่เอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเพิ่มเติม คือ ภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเผชิญกับต้นทุนพลังงาน ที่สะท้อนไปยังค่าขนส่ง ค่าไฟ โดยหลายอุตสาหกรรมมีคู่แข่งผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน ทำให้แข่งขันได้ยาก จึงอยากให้กลับมาดูแก้ไขปัญหาโครงสร้างค่าไฟ ค่าพลังงานที่ต้องเผชิญ หากมีมาตรการใดที่จะช่วยลดผลกระทบให้กับภาคเอกชนด้านต้นทุนได้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

หอการค้าจี้รัฐเพิ่มงบเยียวยาน้ำท่วม

ด้านประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สนั่น อังอุบลกุล ระบุ ขณะนี้บรรยากาศเศรษฐกิจดีมาก โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคการส่งออกก็ดีอยู่แล้วปี 2565 คาดว่าโตได้ 7-8% ต่อปี และภาคการเกษตรก็เก็บเกี่ยวได้ดี และรายได้ก็ดีขึ้นมาก สะท้อนจากการซื้อรถยนต์ รถปิ๊กอัพ รถจักรยานยนต์ในพื้นที่ภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก

อย่างไรก็ดี ยังมีอุปสรรคเรื่อง อุทกภัยที่สร้างความเสียหายแล้ว 53 จังหวัด ซึ่งประเมินว่าความเสียหายอยู่ที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เสียในส่วนภาคการเกษตร  1 หมื่นล้านบาท และอีก 1.2 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนอื่นๆ เช่น บ้านเรื่อนประชาชน การขนส่ง เป็นต้น ซึ่งภาครัฐได้ประกาศจะนำเงินออกมาเยียวยาประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท

หากดูในรายละเอียดรัฐบาลได้แบ่งงบมา 6 พันล้านบาทจาก 2.3 หมื่นล้านบาท มาใช้เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งหอการค้ามองว่าไม่เพียงพอ เพราะประเมินความเสียหายก็กว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ดังนั้นหอการค้าในฐานะภาคเอกชน จึงจะขอเข้าไปหารือกับภาครัฐ เรื่องขอให้จัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม 

ส่วนมาตรการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน และช้อปดีมีคืนนั้น เป็นมาตรการที่ภาครัฐเคยใช้ และเห็นผลดี ก็สนับสนุนให้ใช้ต่อไป เพียงแต่อยากให้เพิ่มวงเงินให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้เห็นผลการกระตุ้นมากขึ้น

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าจีดีพีในไตรมาสสุดท้ายยังดีอยู่และคาดว่าทั้งปี 2565 จีดีพีจะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% ส่วนปี 2566 หากปัญหาน้ำท่วมลดลง เกิดการใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้าน การซ่อมแซมถนน ทำให้มีเม็ดเงินลงไปสู่ภูมิภาคเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจากการที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค 2022 ก็จะทำให้ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้มากขึ้น และหากผลักดันให้มาเร็ว เม็ดเงินก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเร็ว ส่วนปีหน้าคาดว่าจีดีพีมีโอกาสโตได้ถึง 4%