กกพ.เปิด 3 มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟเขตน้ำท่วม

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เน้นย้ำการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ดำเนินมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ประสบอุทกภัยอันเนื่องจากฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2565

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีหนังสือแจ้งการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และกิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ (กฟส.)) เพื่อเน้นย้ำแนวทางการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัยเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้า ค่าบริการ และค่าธรรมเนียม ในช่วงเดือนที่เกิดอุทกภัย ซึ่งเป็นไปตามมติ กกพ. ในปี 2554 และ 2560 โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย พิจารณาออกหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้สอดคล้องกับแนวทางการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ตามมติ กกพ. ดังนี้

1. กรณีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ถูกเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในเดือนที่อาจจะไม่ได้ใช้ไฟฟ้าอันเนื่องมาจากอยู่ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย และเป็นการเรียกเก็บที่เกิดจากการใช้ค่าเฉลี่ยของการใช้ไฟฟ้าในเดือนที่เกิดอุทกภัยรวมกับเดือนถัดมานั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถแจ้งการไฟฟ้าเพื่อให้พิจารณาตรวจสอบและแยกเรียกเก็บตามจริงได้ ทั้งนี้ หากไม่มีหน่วยการใช้ไฟฟ้าในรอบเดือนที่เกิดอุทกภัย ก็จะได้รับการยกเว้นค่าบริการ

2. กรณีที่มีค่าไฟฟ้าถูกเรียกเก็บ สูงกว่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าจริง อันเนื่องมาจากไฟฟ้ารั่ว ผู้ใช้ไฟฟ้าในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย สามารถขอให้การไฟฟ้าพิจารณาและตรวจสอบ หากพบว่ามีไฟฟ้ารั่วอันเนื่องจากเหตุอุทกภัย ก็ให้มีการพิจารณาดำเนินการคืนค่าไฟฟ้าส่วนเกินตามความเหมาะสม

3. กรณีที่มีการงดจ่ายไฟฟ้าและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการต่อกลับมิเตอร์ไฟฟ้าที่เกิดจากผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ได้รับใบแจ้งหนี้ในช่วงเกิดเหตุอุทกภัย หรือไม่สามารถชำระค่าไฟฟ้าอันเนื่องมาจากเหตุอุทกภัย ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถยื่นคำร้องเพื่อให้การไฟฟ้าตรวจสอบ และคืนเงินค่าธรรมเนียมการต่อกลับมิเตอร์ไฟฟ้าได้

ทั้งนี้ โดยให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายใช้แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้า ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมดังกล่าวร่วมกับมาตรการด้านความปลอดภัยของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าและประชาชนทั่วไปได้รับทราบ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง คำประกาศสิทธิผู้ใช้บริการไฟฟ้า พ.ศ. 2565 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ใช้บริการไฟฟ้าและประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์สูงสุดจากการให้บริการไฟฟ้า และมีสิทธิได้รับการคุ้มครองความปลอดภัยจากการให้บริการไฟฟ้า ตลอดจนตระหนักถึงสิทธิของตนที่จะได้รับการคุ้มครองและการรับรองสิทธิในฐานะผู้บริโภคด้านพลังงาน ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550