ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 1.9% กังวลตลาดแรงงานซบ

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่ง 1.9% กังวลตลาดแรงงานซบ

ราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันอังคาร(4ต.ค.)พุ่งขึ้น 1.9% ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่อ่อนแอ

สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.9% สู่ระดับ 1,734.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 1.1 ล้านตำแหน่ง สู่ระดับ 10.1 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 11.1 ล้านตำแหน่ง

ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งลดลงกว่า 1 ล้านตำแหน่งในเดือนส.ค. เป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2563

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 265,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากพุ่งขึ้น 315,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

ราคาทอง ยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 50.9 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.3 จากระดับ 52.8 ในเดือนส.ค.

ดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบจากการหดตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ซึ่งเป็นการหดตัวลงเป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้ ขณะที่การจ้างงานหดตัวเป็นครั้งที่ 4