เปิดประวัติ "จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" หัวสิงห์แห่งอาณาจักรบุญรอดบริวเวอรี่

เปิดประวัติ "จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" หัวสิงห์แห่งอาณาจักรบุญรอดบริวเวอรี่

รู้จัก "จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี" ทายาทรุ่น 3 ผู้ขับเคลื่อนอาณาจักรแสนล้าน ที่เก่าแก่ 89 ปี นอกจากธุรกิจ ยังเป็นบุคคลสำคัญในการทุ่มสรรพกำลังวางรากฐานการพัฒนาวงการกีฬาคนพิการในประเทศไทยด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่สะเทือนวงการธุรกิจอีกครั้ง เมื่ออาณาจักรเครื่องดื่มเก่าแก่ 89 ปีอย่าง “บุญรอดบริวเวอรี่” หรือสิงห์ ต้องสูญเสียแม่ทัพธุรกิจคนสำคัญ “จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี” ด้วยวัย 65 ปี หลังป่วยและเข้ารับการรักษาตัวที่สหรัฐฯ เป็นเวลานานหลายเดือน

หากเปิดประวัติ นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี หรือ "คุณนิดหน่อย"

เกิดวันที่ 9 เมษายน 2500 เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูลภิรมย์ภักดี

บุตรของ นายจำนงค์ ภิรมย์ภักดี และ คุณหญิงสุภัจฉรี ภิรมย์ภักดี

ชีวิตส่วนตัวสมรสกับ ม.ล.ปิยาภัสร์ ภิรมย์ภักดี (นามสกุลเดิม กฤดากร)

มีทายาท 3 คน คือ "ตั๊น" จิตภัสร์ กฤดากร, "ตุ๊ย" นันทญา และ "ต่อย" ร้อยโท ณัยณพ ภิรมย์ภักดี

ประวัติการศึกษา

มัธยมศึกษา โรงเรียนฮอทช์คิส รัฐคอนเนคติกัต สหรัฐอเมริกา

ปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยบอสตัน รัฐแมสซาชูเสต สหรัฐอเมริกา

หลักสูตร Families in Business: From Generation to Generation บัณฑิตวิทยาลัย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา

หลักสูตร Strategic Negotiations: Deal Making for the Long Term บัณฑิตวิทยาลัย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา

ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การเงิน) ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร

ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (การจัดการ) ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก

“คุณจุตินันท์” เป็นทายาทตระกูล “ภิรมย์ภักดี” รุ่นที่ 3 เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่กับบรรดาพี่น้อง เครือญาติอีกหลายชีวิต และนอกจากเจนฯ 3 ของบุญรอดฯ ทำหน้าที่นำทัพธุรกิจ ปัจจุบันยังมีเจนฯ 4 เป็นกำลังเสริมสำคัญอีกหลายชีวิตในการขยายอาณาจักรเครื่องดื่มให้เติบโตยิ่งใหญ่สืบไป

ย้อนไปเดือนมีนาคม 2563 หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขององค์กร “บุญรอดฯ” คือการปรับเปลี่ยน “หัวสิงห์” หรือ “แม่ทัพ” เมื่อ “คุณจุตินันท์” ได้ก้าวขึ้นรับตำแหน่ง “กรรมการผู้จัดการใหญ่” จากก่อนหน้านั้นเป็น “รองกรรมการผู้จัดการใหญ่”

 การเข้ามารับไม้ต่อธุรกิจครอบครัว มีภารกิจสำคัญมากมาย แน่นอนว่าการมุ่งขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตสำคัญ ทว่า ห้วงเวลาแห่งการเข้ามากุมบังเหียนธุรกิจ “คุณจุตินันท์” ต้องเผชิญความท้าทายใหญ่ เมื่อต้องรับมือกับวิกฤติโควิด-19 ระบาด

กลยุทธ์การฝ่ามรสุมโรคระบาดต้องมี ทว่า สิ่งหนึ่งที่เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารองค์กร “แสนล้าน” ให้ก้าวข้ามช่วงยากลำบากดังกล่าว “คุณจุตินันท์” เคยเล่าบทเวทีสัมมนาเกี่ยวกับเรื่อง “คน” หรือทรัพยากรมนุษย์คือกุญแจสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งบริษัทมองเป็น “ครอบครัว” และถือเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอขององค์กรสิงห์ด้วย

นอกจาก คุณจุตินันท์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด แล้ว ยังดำรงประธานกรรมการ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) รวมถึง ประธานกรรมการ บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด, ประธานกรรมการ บริษัท ซี.บี.โฮลดิ้ง จำกัด ฯลฯ

โดยแนวคิดการบริหารองค์กร คือ ให้ความสำคัญกับการเติบโตแบบยั่งยืนและการตอบแทนสังคม

สำหรับบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ปี 2565 องค์กรเดินทางก้าวสู่ปีที่ 89 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ธุรกิจเติบโตจากรุ่นสู่รุ่น สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันอาณาจักรยิ่งใหญ่มีหลากเสาหลัก เช่น  ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจซัพพลายเชน และธุรกิจอาหาร เป็นต้น 

นอกเหนือจากงานที่บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด คุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกีฬาพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552 โดยก่อนหน้านี้ได้เป็นผู้จัดการทีมคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย เมื่อปี 2548 เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการกีฬาคนพิการของไทย ดูแลนักกีฬาคนพิการในการแข่งขันหลายรายการตั้งแต่ระดับอาเซียนจนถึงพาราลิมปิก โดยทํางานร่วมกับ 5 สมาคมกีฬาคนพิการ คือ สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬาคนพิการทางสมองแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาคนหูหนวกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย

คุณจุตินันท์ ถือเป็นผู้วางรากฐานการพัฒนาวงการกีฬาคนพิการในประเทศไทย พร้อมทุ่มเทดูแลนักกีฬาอย่างเต็มที่ จนปัจจุบันประสบความสำเร็จพานักกีฬาพาราไทยสร้างผลงานอยู่แถวหน้าของโลกได้ รวมถึงการผลักดันภาครัฐในการดูแลนักกีฬาอย่างเท่าเทียม ระหว่าง นักกีฬาคนปกติ และ นักกีฬาคนพิการ

คุณจุตินันท์ เคยกล่าว เมื่อ ปี 2564 หลังจากที่ทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย สร้างผลงาน คว้า 5 เหรียญทอง 5 เหรียญเงิน 8 เหรียญทองแดง ที่ “พาราลิมปิก โตเกียว เกมส์ 2020” ว่า “สิ่งที่ผมทำทั้งหมด ผมทำด้วยความสุข ผมเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก คลุกคลีอยู่กับนักกีฬามากมาย บอกได้เลยว่านักกีฬาพารามีหัวใจเป็นนักกีฬา มีความตั้งใจพยายามไม่แพ้คนปกติ ผมสัญญากับนักกีฬาของผมว่า ผมจะอยู่เคียงข้างพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะไม่ต้องการผม จะอยู่ตรงนี้เคียงข้างพวกเขาตลอดไป”

เมื่อข่าวสิ้นหัวสิงห์ถูกเผยสู่สาธารณะ วงการกีฬาต่างๆได้แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้ง 

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 23.50 น. วันที่ 12 ก.ย.65 ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ เวลา 10.52 น. วันที่ 13 ก.ย.65 ตามเวลาประเทศไทย คุณจุตินันท์ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่โรงพยาบาลในนครบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา