YLG จับตาเฟด ขึ้นดบ.แรง กดดันทองร่วง แต่เป็นจังหวะเข้าซื้อสะสม

YLG จับตาเฟด ขึ้นดบ.แรง กดดันทองร่วง แต่เป็นจังหวะเข้าซื้อสะสม

“วายแอลจี” จับตาเฟดกลับมาขึ้นดอกเบี้ยแรงกระทบราคาทองปรับตัวลง ชี้เป็นจังหวะซื้อเข้าพอร์ตกระจายความเสี่ยง 5-10% จากราคาทองในประเทศปรับขึ้น จากต้นปีราว5% ปัจจุบันอยู่ 29,750 บาท และขึ้นดอกเบี้ยกระทบศก.ราคาทองปรับขึ้นได้

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า หลังจากรู้ผลการประชุมเฟดที่แจ็คสันโฮล ทำให้ตลาดกลับมากังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย มองว่าทองก็ได้รับผลกระทบแต่ต้องดูว่า การขึ้นดอกเบี้ยลดเงินเฟ้อได้จริงหรือไม่ เพราะหากลดไม่ได้ แล้วกระทบเศรษฐกิจ ช่วงนั้นมองว่าราคาทองก็จะกลับมาได้เช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม ทองในประเทศปรับขึ้นสวนตลาดโลกเพราะบาทอ่อนมาก แต่ทองคำราคาตลาดโลก ในช่วงนี้ถ้าปรับลดลงก็ใช้เป็นจังหวะซื้อได้ กรณีเฟดมีนโยบายขึ้นดอกเบี้ยราคาทองก็ได้รับผลกระทบเ พราะไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ยแต่เมื่อมีวิกฤตคนก็จะหันหาทองคำ

“มองว่า ทองคำ ยังเป็นสินทรัพย์สำหรับกระจายความเสี่ยง เป็นทางเลือกในการลงทุน มีปริมาณที่จำกัด เหมืองทั่วโลกผลิตได้ 3,500 ตันต่อปี และมีทองเก่าหมุนเวียนในระบบ กว่า1,000 ตันและหากราคาตกมากเหมืองก็จะหยุดผลิต ราคาทองคำจึงไม่ปรับลดลงไปมากกว่าต้นทุนหน้าเหมือง” 

แนะนำว่า พอร์ตการลงทุนที่ดีจึงควรมีทองคำไว้ 5-10%เพื่อกระจายความเสี่ยง และลดความผันผวนของพอร์ต เพราะทองก็ไม่ได้ขึ้นอย่างเดียว มีขึ้นมีลง 

“ปีนี้ทองคำปรับตัวขึ้นไป ตอนไตรมาสแรกจากเหตุรัสเซีย ยูเครนถึง 2,069 ดอลลาร์ แต่พอไตรมาส 2 เฟดเริ่มขึ้นดอกเบี้ย ทองก็ลงมาตลอด  ดังนั้นสถานการณ์ช่วงนี้ที่ดอกเบี้ยขาขึ้น จึงไม่ใช่ช่วงที่ดีสำหรับทองคำ แต่สำหรับทองในประเทศกลับเคลื่อนไหวคนละทิศทาง ต้นปีทองแท่งเริ่มต้น 28,600 บาท แต่ปัจจุบันอยู่ 29,750 บาท ปรับขึ้นจากต้นปีประมาณ 5%”