Report & Corporate News (26 สิงหาคม 2565)

Report & Corporate News (26 สิงหาคม 2565)

กลุ่มการเงินรายงานผลประกอบการในงวด 2Q22 ดีที่ 5.3 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% yoy และ 4% qoq, GULF แผนการลงทุนในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า 2-3 โครงการ

Finance

Maintained  

MARKET WEIGHT

 

กลุ่มการเงินรายงานผลประกอบการในงวด 2Q22 ดีที่ 5.3 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 10% yoy และ 4% qoq แม้ว่ากำไรสุทธิจะสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเรา แต่  NPL ใหม่ก็เติบโตเร็วกว่าที่คาดไว้ เราเชื่อว่า NPL จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและแตะ 2.7% ในปี 2022 ขณะที่ในด้านบวก Overhang เรื่องอัตราเพดานใหม่สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (HP) ส่วนใหญ่จะหมดไป คงคำแนะนำ MARKET WEIGHT และเราแนะนำให้นักลงทุนเลือกซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง ซึ่ง Top Pick ของเราคือ MTC และ TIDLOR

GULF

บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า 2-3 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ในต่างประเทศ คาดว่าจะสามารถเห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้ ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนในโครงการเดิมตามแผนงานที่วางไว้ ทั้งโครงการ IPP ,โครงการ GSRC, โครงการ GPD และการลงทุนใน GULF1 ที่ดำเนินการในเรื่องของโซลาร์รูปท็อป โดยบริษัทจัดเตรียมงบลงทุน 5 ปี (ปี 65-69) ที่ราว 120,000 ล้านบาท โดย 60% จะใช้ลงทุนโครงการพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม โซลาร์ โรงไฟฟ้าขยะ และอีก 20% ใช้สำหรับลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ , 10% ใช้สำหรับการลงทุนด้านของดิจิทัล, 5% เป็นการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และอีก 5% จะรองรับธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (อินโฟเควสท์)

PLANB

บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) เปิดเผยว่า บริษัทปรับเป้าหมายรายได้ปี 65 ลงเหลือ 5,800 ล้านบาท จากเดิมที่ 6,400-6,700 ล้านบาท โดยได้รับแรงกดดันจากการเลื่อนการจัดงานเอเชียนเกมส์ไปเป็นปี 66 ในขณะเดียวกันยังมีผลกระทบจากสถานการณ์สงคราม และเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นสูงในช่วงที่ผ่านมาด้วย

(อินโฟเควสท์)

FORTH

บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายในระยะ 2-3 ปีจากนี้ (65-67) จะมีตู้เต่าบินกระจายตัวให้บริการทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 20,000 ตู้ ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสนใจจะขยายตู้เต่าบินออกไปยังต่างประเทศ โดยจะเริ่มการทดลองตลาดอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในช่วงปลายปี 65 หรือไม่เกินต้นปี 66 สำหรับประเทศอังกฤษมองว่าจะเป็นตลาดต่อไปหลังจากนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ของตู้เต่าบินลงตัวแล้ว (อินโฟเควสท์)