KTB - สำรองจะทรงตัวในระดับต่ำ (23 ส.ค. 2565)

KTB - สำรองจะทรงตัวในระดับต่ำ (23 ส.ค. 2565)

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY22-24 ขึ้น 14-24% เนื่องจากเราปรับลดสมมติฐาน credit cost ปี 2022-2024 ลงจากเดิมที่ 120bps เหลือ 85-90bps หลังจากที่ตัวเลขใน 1H22 ออกมาดีเกินคาด ทำให้เราคาดว่า  ECL จะยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องหลังคุณภาพสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสัดส่วน loss coverage สูงเกินช่วงเป้าหมายของธนาคารแล้ว เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KTB ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2023 ที่ 21 บาท

                                                                 

เศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัวพร้อมแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น

KTB ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี FY22 ขึ้นจากเดิมที่ 3.0% เป็น 3.2% เนื่องจากคาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวได้แข็งแกร่งเกินกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม KTB ปรับลดประมาณการ GDP ปี FY23 ลงจากเดิมที่ 5.1% เหลือ 4.2% เนื่องจากแนวโน้มการส่งออกอาจอ่อนแอตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลง ทั้งนี้ KTB คาดว่า ธปท. จะขึ้นดอกเบี้ยอีกสองครั้งในปีนี้เป็น 1.25% และจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 25 bps อีกสามครั้งเป็น 2.00% ในปี 2023 อย่างไรก็ดี KTB ตั้งเป้าจะคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ที่ระดับเดิมจนถึงสิ้นปี 2022 เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อลูกค้าในภาวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ดังนั้น เราจึงคาดว่า NIM จะยังไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ แต่จะเห็นการปรับตัวดีขึ้นชัดตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป

 

 

 

สินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่และรายย่อยเติบโตแข็งแกร่งหลังโรคระบาด

ผู้บริหารคงเป้าหมายทางการเงินทุกตัวในปี FY22 เอาไว้เท่าเดิม ยกเว้นอัตราการขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าอุปสงค์ในกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่จะแข็งแกร่งหลังจากที่สถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย โดย KTB ได้ปรับเป้าอัตราการขยายตัวของสินเชื่อปี FY22 (ไม่รวมสินเชื่อภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ) เพิ่มขึ้นจาก 3-4% เป็น 4-5% ทั้งนี้ พอร์ตสินเชื่อของ KTB ที่ไม่รวมสินเชื่อภาครัฐขยายตัว 2.5% ใน 1H22 โดยสินเชื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 2.3% และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 3.9% ตามลำดับ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาพอร์ตสินเชื่อที่รวมสินเชื่อภาครัฐแล้วจะทรงตัว ytd เพราะสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อธุรกิจที่เติบโตอย่างถูกหักล้างไปกับสินเชื่อภาครัฐที่ลดลงอย่างมาก 8.1%

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากคุณภาพสินทรัพย์ที่นิ่งขึ้น และ ECL ที่ลดลง

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY22-24 ขึ้นอีก 14-24% เนื่องจากปรับลดสมมติฐาน credit cost ปี 2022-2024 ลงจาก 120bps เหลือ 85-90bps ทั้งนี้ หลังจากที่ ECL ออกมาดีเกินคาดสองไตรมาสติดทำให้เราเชื่อว่า ECL มีแนวโน้มจะทรงตังในระดับต่ำได้ต่อเนื่องใน 2H22 หลังคุณภาพสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว ในขณะที่สัดส่วน coverage ratio สูงเกินช่วงเป้าหมายที่ 160-170% เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ KTB โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2023 ใหม่ที่ 21 บาท อิงจาก PBV ที่ 0.7x โดยคาดว่า ROE จะอยู่ที่ 8% และใช้สมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผล (payout ratio) ที่ประมาณ  35%