Report & Corporate News (23 สิงหาคม 2565)

Report & Corporate News (23 สิงหาคม 2565)

CK ผลประกอบการครึ่งปีหลังไม่น่าสนใจ แต่คาดว่า orderbook จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปี 2023, การเติบโตกำไรของ HANA จะอ่อนแอ

CK

Maintained  

BUY

TP: 25.50 บาท

 

แม้ว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังจะไม่น่าสนใจ แต่เราคาดว่า orderbook ของ CK จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในปี 2023 เนื่องจาก backlog ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากบริษัทร่วมและโครงการใหม่ที่จะมีประมูล โดย CK มีการเติบโตของ orderbook ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคู่แข่งและการจัดการการปฏิบัติงานที่เหนือกว่าทั้งในด้านการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างและการจัดการกำลังคน ซึ่ง CK คือ Top Pick ของเราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 25.50 บาท

HANA

Maintained 

HOLD

TP: 44.00 บาท

 

การเติบโตของกำไรของ HANA จะอ่อนแอเนื่องจากการเติบโตของรายได้จากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง และอัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องเนื่องจากการขาดแคลนวัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง รายได้สุทธิในครึ่งปีแรกของ HANA คิดเป็น 32% ของประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีของเรา คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย: 44.00 บาท

TOP

บมจ.ไทยออยล์ (TOP) เปิดเผยว่า บริษัทคาดกำไรขั้นต้นเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์ (GIM) และค่าการกลั่น (GRM) ในครึ่งปีหลังนี้จะกลับมาสู่ภาวะปกติ หลังไตรมาส 2/65 GRM ทำระดับสูงเป็นประวัติการณ์จากปัจจัยหนุนหลัก คือความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ทั้งนี้ GRM ที่ย่อตัวลงจากจุดสูงสุดนั้น เป็นการย่อตัวลงในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้ง Gasoline, Jet และดีเซล แต่อย่างไรก็ตามคาดอัตรากำไรของโรงกลั่นจะยังสามารถยืนเหนือระดับก่อนเกิดโควิด-19 จากอุปทานตึงตัวและสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งบริษัทได้มีการทำประกันความเสี่ยง โดย mark to market ไปในช่วงปลายไตรมาส 2/65 ซึ่งเป็นระดับราคาที่ค่อนข้างสูง ขณะที่ปัจจุบันสเปรดก็ปรับตัวลงมาใกล้เคียงก่อนเกิดโควิด-19 ส่งผลให้ตัวที่ได้ mark to market ไปมีโอกาสกลับมาเป็นบวกมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่ Aromatics, Olefins และ Lube Base ครึ่งปีหลัง คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/65 ตามความต้องการของตลาดที่ฟื้นตัว(อินโฟเควสท์)

BJC

บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 65 คาดว่าจะเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งสามารถทำยอดขายเติบโตได้ 11.5%หรือทำยอดขายรวมไปได้ 7.43 หมื่นล้านบาท โดยที่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังจากโควิด-19 คลี่คลายลง ทำให้คนกลับมาทำงานและมีรายได้ ส่งผลต่อการบริโภคที่ฟื้นตัวกลับมา โดยที่กลุ่มธุรกิจซุปเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซีมีการเติบโตขึ้นค่อนข้างมาก โดยที่ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) มีการเติบโตในครึ่งปีแรก 5.2% และมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากการเห็นสัญญาณการเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในสาขาของบิ๊กซีมาต่อเนื่อง (อินโฟเควสท์)