WHA - การดำเนินงานสูงกว่าเป้าหมาย (22 ส.ค. 2565)

WHA - การดำเนินงานสูงกว่าเป้าหมาย (22 ส.ค. 2565)

ยอดขายที่ดิน (1,000-1,100 ไร่) และโลจิสติกส์ (เซ็นสัญญาแล้ว 111,136 ตรม.) แข็งแกร่งปีนี้ ประกอบกับลูกค้าที่อย่ระหว่างเจรจาจำนวนมาก ทำให้ WHA ปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ขึ้น 32% เป็น 1,650 ไร่

ในขณะที่ธุรกิจ โลจิสติกส์อาจจะสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เราปรับประมาณการกำไรปี FY22F  ขึ้น 14% เพื่อสะท้อนการโอนที่ดินแปลงใหญ่และอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นของเวียดนาม เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลง 5.6% YTD ยังไม่สะท้อนถึงแนวโน้มที่สดใสของบริษัท คงคำแนะนำซื้อ  

 

ปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้น หลังฟื้นตัวรวดเร็ว

WHA ขายที่ดิน 513 ไร่ (362 ไร่ในประเทศไทย 31 ไร่ในเวียดนาม และที่ดินนอกนิคมอุตสาหกรรมอีก 120 ไร่) เพิ่มขึ้นถึง 87% yoy นอกจากนี้ WHA เซ็นสัญญาขายที่ดินประมาณ 600 ไร่ที่  RY36 ให้กับผู้ผลิตรถ EV เร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะทำให้ยอดขายที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 1,000-1,100 ไร่ ดังนั้น WHA จึงปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินเป็น 1,650 ไร่ จากเดิม 1,250 rai ไร่  นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดิน 1,000+ ไร่ ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นบวก เราเชื่อว่าบริษัทจะขายได้ตามเป้า

ธุรกิจโลจิสติกส์อาจสูงกว่าเป้า

WHA เซ็นสัญญาเช่าพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานรวม 111,136 ตรม. ใน 1H คิดเป็น 60% ของเป้าปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของโครงการที่เปิดใหม่ที่เทพารักษ์ (400,000 ตรม.) หากรวมดีลที่ปิดได้แล้ว QTD และลูกค้าที่อยู่ระหว่างเจรจา บริษัทมียอดเซ็นสัญญาเกือบ 185,000 ตรม.ตามเป้าแล้ว WHA จะเปิดโครงการใหม่ 300 ไร่ปีหน้า (ใกล้ศูนย์โลจิสติกส์เทพารักษ์เดิม) เราคาดจะได้รับการตอบรับอย่างดี

 

ธุรกิจสาธารณูปโภคเป็นไปตามเป้า

ยอดขายน้ำ (75 ล้านลบ.ม. ใน 1H) และยอดเซ็นสัญญา PPA ของ solar rooftop (เซ็นสัญญาแล้วประมาณ 50MW YTD ซึ่งรวม 10MW ของ Mega Bangkok และ 7.7MW ของ Ford Motor Thailand ที่เซ็นสัญญาใน 3Q) จะทำให้ได้ตามเป้า 150 ล้านลบ.ม. และ 50MW ตามลำดับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากผู้ใช้น้ำรายใหญ่ และลูกค้าใหม่ที่จะเปิดดำเนินงานได้แก่ Gulf SRC เฟส 2, โรงงานปิโตรเคมี, โรงไฟฟ้า SPP และนิคมอุตสาหกรรม Nghe An ในเวียดนาม

 

คงคำแนะนำ ซื้อ ปรับราคาเป้าหมายเป็น 4.90 บาทหลังปรับประมาณการขึ้น

เราปรับประมาณการกำไรปีนี้ขึ้น 14% เป็น 3.4 พันลบ. และปี FY23-24F ขึ้นปีละ 2% เป็น 3.3 พันลบ. และ 3.7 พันลบ.ตามลำดับ เพื่อสะท้อนการโอนที่ดินแปลงใหญ่ประมาณ 600 ไร่ปีหนี้ และอัตรากำไรขั้นต้นของนิคมในเวียดนามที่เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 40% เราปรับราคาเป้าหมายเป็น 4.90 บาทจาก 4.70 บาท