CPN-CRC คัมแบ็ก! ยอดคนเดินห้างฟื้น

CPN-CRC คัมแบ็ก! ยอดคนเดินห้างฟื้น

เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย นำมาสู่การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนในประเทศสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ กิจการ ห้าง ร้านต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง

เห็นได้จากการประกาศตัวจีดีพีล่าสุดของสภาพัฒน์ฯ เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ขยายตัว 2.5% ต่อเนื่องจากช่วงไตรมาส 1 ที่ขยายตัว 2.3% ส่งผลให้ครึ่งปีแรกจีดีพีไทยเติบโตเฉลี่ยแล้ว 2.4% 

โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักมาจากการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการส่งออกที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว

โดยสภาพัฒน์ฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีกว่าครึ่งปีแรก และคาดการณ์กรอบการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่ 2.7-3.2% หรือมีค่ากลางอยู่ที่ 3% ขยายตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.4% ในปี 2564

หนึ่งในสถานที่ที่สะท้อนให้เห็นว่าการใช้ชีวิตของคนไทยกลับสู่ปกติแล้ว คือ “ห้างสรรพสินค้า” ซึ่งเป็นศูนย์รวมของคนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันบรรยากาศกลับมาคึกคัก ประชาชนออกมาชอปปิง เดินเล่น ทานข้าว ดูหนังกันแน่นห้าง จนแทบจะหาที่จอดรถไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

“กลุ่มเซ็นทรัล” ถือเป็นยักษ์ใหญ่ในธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้าของประเทศ ภายใต้ 2 เรือธงสำคัญ ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN รับหน้าที่พัฒนา บริหาร และให้เช่าพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์การค้าภายใต้การดูแลทั้งหมด 37 สาขา ครอบคลุม 18 จังหวัดทั่วประเทศไทย

และบริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ที่รับผิดชอบในส่วนของพื้นที่ค้าปลีกภายในห้างสรรพสินค้าทั้งหมด โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 ในประเทศไทยมีร้านค้าทั้งหมด 1,897 ร้านค้า ใน 56 จังหวัด และ 121 ร้านค้า ใน 41 จังหวัดของประเทศเวียดนาม

ส่วนที่ประเทศอิตาลีมีห้างสรรพสินค้า 9 สาขา ใน 8 เมือง เมื่อรวมกันทั้ง 3 ประเทศ ร้านค้าปลีกมีพื้นที่ขายทั้งหมด 3,247,313 ตารางเมตร และพลาซ่ามีพื้นที่ให้เช่ารวม 680,005 ตารางเมตร

ซึ่งต้องยอมรับว่าตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลเต็มๆ อย่างในประเทศไทยในช่วงแรกที่เกิดโรคระบาด ห้างถูกสั่งปิด ถูกจำกัดเวลาในการให้บริการ มีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวด ร้านอาหารห้ามนั่งทานที่ร้าน โรงหนังถูกปิด จนแทบไม่มีคนเดินห้าง

ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของทั้ง CPN และ CRC ซึ่งนอกจากรายได้จากจำนวนผู้ใช้บริการที่หายไปแล้ว ยังต้องช่วยเหลือคู่ค้า ด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่า ยืดเวลาในการชำระค่าเช่า หรือ พักชำระไปก่อน

CPN-CRC คัมแบ็ก! ยอดคนเดินห้างฟื้น

แต่เชื่อว่าขณะนี้จุดต่ำสุดของธุรกิจได้ผ่านไปแล้ว เมื่อสถานการณ์โรคระบาดคลี่คลาย โดยผู้บริหารของ CPN ระบุว่า ยอดผู้เข้าใช้บริการศูนย์การค้าในช่วงครึ่งแรกปี 2565 กลับมาแล้ว 90% และมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังจำนวนผู้ใช้บริการจะกลับสู่ระดับเดียวกับช่วงปี 2562 ก่อนที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19

ส่วนการเปิดโครงการใหม่ ในไตรมาส 4 นี้ เตรียมเปิดคอมมูนิตี้มอลล์ที่โครงการ Mache ทองหล่อ และปี 2566 จะเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ West Ville ราชพฤกษ์ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 และเตรียมประกาศเพิ่มเติมอีก 2-3 ศูนย์ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด

ด้าน CRC ผู้บริหารระบุว่า อัตราการเช่าพื้นที่ของกลุ่มอสังหาฯ เชิงพาณิชย์อยู่ในระดับ 86% ส่วนลดค่าเช่าอยู่ในระดับ high-single digit จากระดับ mid-double digit ในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา และสามารถขึ้นค่าเช่าจากการ renew contract หลังจำนวนผู้ใช้บริการเริ่มกลับมา โดยปัจจุบันผู้ใช้บริการอยู่ที่ราว 80% ของปี 2562

และมีแผนเปิดห้างสรรพสินค้าภายใต้แบรนด์ใหม่ Go! Mall เริ่มที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในไตรมาส 3 นี้ และตั้งเป้าเปิดทั้งหมด 4 สาขา ภายในปี 2565

ด้านบล.ดาโอ ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิ CRC ปี 2565 และ 2566 ขึ้น 3% และ 5% เป็น 5.83 และ 8.24 พันล้านบาท ตามลำดับ โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2565 คิดเป็น 46% ของประมาณการกำไรปี 2565 ใหม่

ทั้งนี้ ได้ปรับรายได้ปี 2565 ขึ้น 5% เป็น 2.17 แสนล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายสาขาของกลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์จำนวน 8 สาขา และกลุ่มแฟชั่นจำนวน 2 สาขา ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ประกอบกับช่วงไตรมาส 4 ถือเป็นไฮซีซันของธุรกิจค้าปลีกซึ่งจะเห็นการเติบโตของรายได้ ทั้งรายได้จากการขายสินค้าและรายได้ค่าเช่า

ในขณะที่ธุรกิจอาหารบริษัทจะเริ่มกลับมาขยายสาขาไฮเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนาม ตั้งเป้าเปิด 3 สาขา ในปี 2566 ส่วนธุรกิจอสังหาฯ เชิงพาณิชย์ มองว่ายังมีอัพไซด์จากในประเทศเวียดนามที่ฟื้นตัวได้อีก และการขยายสาขาในประเทศไทย

ด้าน CPN ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 8.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoY จากการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลงเหลือ 15% จากปี 2564 ที่ให้ส่วนลด 40% ขณะที่แนวโน้มกำไรในไตรมาส 3 ปี 2565 จะฟื้นตัว YoY จากการให้ส่วนลดค่าเช่าลดลงต่อเนื่อง และธุรกิจอื่นๆ เริ่มฟื้นตัวได้

โดยผู้บริหารคาดส่วนลดค่าเช่าในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จะลดลงมากกว่าช่วงครึ่งปีแรกซึ่งอยู่ที่ 16% จากภาพรวมการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี ขณะที่ยอด Traffic เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ยังเดินหน้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมากกว่า 80% จากช่วงไตรมาส 2 ที่ 85% ขณะเดียวกันยังคงแผนขยายงานทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่อง