UBE - รอฟื้นใน 4Q (วันที่ 19 สิงหาคม 2565)

UBE - รอฟื้นใน 4Q (วันที่ 19 สิงหาคม 2565)

กำไรใน 2Q ถูกฉุดจากการปิดโรงงาน คาดธุรกิจเอธานอลจะดีขึ้นใน 3Q แต่จะถูกหักล้างจากธุรกิจแป้ง starch และแป้ง flour ซึ่งเราคาดว่าปริมาณยอดขายแป้ง Flour จะต่ำกว่าที่คาดไว้ และได้ปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายแป้ง flour รวมถึงปรับลด GPM ของแป้ง starch

ทั้ง native และ organic และแป้ง flour ลงในปี FY22-24 ทำให้ประมาณการกำไรปี FY22-24F ลดลงจากเดิม 1%/13%/17% ตามลำดับและส่งผลให้ราคาเป้าหมาย DCF ของเราเหลือ 2.50 บาท คิดเป็น PE ปี FY23 ที่ 21.3x

 

กำไรสุทธิใน 2Q อยู่ที่ 84 ลบ.(EPS 0.02 บาท) -28% qoq ,+22% yoy

กำไรใน 2Q ดีกว่าประมาณการของเรา 15% จากปริมาณยอดขายสูงเกินคาด ทั้งเอธานอล และ native starch ปริมาณยอดขายเอธานอลลดลง qoq จากการปิดโรงงานนาน 14 วัน โดย 27ml เป็นเอธานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง และอีก 3.5ml เป็นเอธานอลสำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ราคาขายเอธานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเป็น 26.90 บาท/ลิตร ราคาขายส่งเอธานอลที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมยังทรงตัวอยู่ที่ 31 บาท/ลิตร (70% ของปริมาณยอดขาย) ปริมาณยอดขายแป้ง Starch เพิ่มขึ้นเป็น 47k ตัน (จาก 31k ตันใน 1Q) โดย 31kt เป็นแป้ง native starch ส่วนอีก 14k เป็นแป้ง organic starch ในขณะที่ยอดขายแป้ง flour อยู่ที่ 408 ตัน โดยที่ GPM ยังทรงตัว qoq อยู่ที่ 14% ทั้งนี้ การที่เงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ USD ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราลแลกเปลี่ยน 42 ลบ

 

 

 

 

 

ผลการดำเนินงานของเอธานอลจะแข็งแกร่ง แต่ของแป้ง starch จะอ่อนแอ

คาดราคาเอธานอลเพิ่มขึ้นเป็น 27.90 บาท/ลิตร ใน 3Q ตามราคามันสำปะหลังที่ใช้เป็นวัตถุดิบ และอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของแก๊ซโซฮอล์ UBE ซื้อมันสำปะหลังล่วงหน้าไปถึง 4Q22 ที่ 7.50 บาท/ลิตร ขณะที่ราคาในปัจจุบัน 8.5-9.0 บาท/ลิตร ผลการดำเนินงานของธุรกิจเอธานอลน่าจะแข็งแกร่ง แต่ผู้บริหารคาดธุรกิจแป้ง starch น่าจะอ่อนแอ จากปริมาณยอดขาย organic starch ซึ่งมี margin สูง จะลดลงเหลือ 10-12k ตันใน 3Q ปริมาณยอดขาย native starch น่าจะทรงตัว qoq คาด margin แป้ง starch จะลดลง qoq จาก starch content อ่อนแอช่วงปลายฤดูกาล แต่คาดธุรกิจแป้ง starch จะฟื้นตัวได้ใน 4Q เมื่อเข้าฤดูเพาะปลูก (ธันวาคม-มีนาคม) ทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังมี starch content ดีขึ้น และทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

 

คงคำแนะนำ ถือ แต่ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 2.50 บาท (จาก 3.00 บาท)

ปรับลดสมมติฐานปริมาณยอดขายแป้ง flour ปี FY22-24 ลง 10% สะท้อนความล่าช้าในการเร่งปริมาณขาย และปรับลดสมมติฐาน GPM ลง 1ppt ทั้ง แป้ง starch แบบ native (เป็น 11%) และ organic (เป็น27%) และแป้ง flour (เป็น 37%) ทำให้ประมาณการกำไรปี FY22-24F ของเราลดลง 1%/13%/17% ตามลำดับ และส่งผลให้ราคาเป้าหมาย DCF ของเราลดลงเหลือ 2.50 บาท