Report & Corporate News (19 สิงหาคม 2565)

Report & Corporate News (19 สิงหาคม 2565)

BCH กำไรใน 2H22 คาดว่าจะลดลงทั้ง yoy และ hoh, BEC เปลี่ยนตำแหน่งรายได้ดิจิทัลด้วยการเพิ่มผู้ใช้แอปพลิเคชันระดับพรีเมียมของ 3Plus ให้มากขึ้น

BCH

Maintained  

HOLD

TP: 19.00 บาท

 

กำไรใน 2H22 ของ BCH คาดว่าจะลดลงทั้ง yoy และ hoh จากการลดลงของรายการที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 แม้ว่าผู้ป่วยทั่วไปจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีการกลับมาของผู้ป่วยในตะวันออกกลางที่ WMC อย่างไรก็ตาม กำไรของ BCH อยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างร้ายแรงจากการผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นและการตัดจำหน่าย (write-off) วัคซีน Moderna ที่ยังขายไม่ออก ดังนั้น เราจึงแนะนำให้นักลงทุนสะสมอีกครั้งหลังจาก hangover นี้หมดลงเท่านั้น คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย: 19.00 บาท

BEC

Maintained 

BUY

TP: 16.00 บาท

 

โทนในการประชุมนักวิเคราะห์ของ BEC เป็นไปในเชิงบวก กำไรจะได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องจากรายได้จากการโฆษณาและลิขสิทธิ์ นอกจากนี้ BEC ยังพยายามเปลี่ยนตำแหน่งของรายได้ดิจิทัลด้วยการเพิ่มผู้ใช้แอปพลิเคชันระดับพรีเมียมของ 3Plus ให้มากขึ้น ผลการดำเนินงานของ BEC จะยังคงแข็งแกร่งในปี 2023 โดยได้รายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของ ADEX คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 16.00 บาท

MINT

บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) เปิดเผยว่า บริษัทมองว่าแนวโน้มผลงานในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นการเติบโตสูงกว่าครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยหนุนมาจากภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่างๆที่กลับมาฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากโควิด-19 คลี่คลาย โดยเฉพาะโรงแรมในเครือของบริษัทในต่างประเทศที่ยังมีแนวโน้มอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักที่อยู่ไนระดับที่ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในยุโรปบางแห่งที่อัตราการเข้าพักกลับมาอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 และราคาห้องพักโรงแรมในยุโรปบางแห่งได้ปรับขึ้นมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 แล้ว ช่วยหนุนรายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (Revpar) ของโรงแรมในยุโรป รวมถึงโรงแรมในมัลดีฟส์ ที่อัตราการเข้าพักและค่าห้องพักปรับสูงขึ้นไปแล้วเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ส่วนโรงแรมในออสเตรเลียได้เริ่มเห็นอัตราการเข้าพักปรับสูงขึ้นมาแตะระดับ 80% ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวกลับมาของโรงแรมในต่างประเทศ (อินโฟเควสท์)

WHAUP

บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) คว้าดีลติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Carpark) บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ จำกัด ขนาดการผลิตไฟฟ้า 7.7 เมกะวัตต์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนพื้นที่หลังคารวม 59,000 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 235 ล้านบาท ด้าน CEO "สมเกียรติ เมสันธสุวรรณ" ปลื้มปัจจุบันที่มีการเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสะสมไปแล้ว 77 โครงการ คิดเป็น 127 เมกะวัตต์ โดยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้ว 46 โครงการ คิดเป็น 40.2 เมกะวัตต์ หนุนเป้าทั้งปี ยอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสม 150 เมกะวัตต์

(อินโฟเควสท์)