BANPU เปิดแผนขยายธุรกิจครึ่บปีหลัง 65 มั่นใจดันรายได้-กำไร ปีนี้นิวไฮ

BANPU เปิดแผนขยายธุรกิจครึ่บปีหลัง 65  มั่นใจดันรายได้-กำไร ปีนี้นิวไฮ

“บ้านปู” เดินกลยุทธ์ Greener & Smarter เล็งเข้าลงทุนโดยตรง "บริษัทเฮลท์แคร์" ในสหรัฐ หลังลงทุนในกองทุนแล้ว พร้อมเพิ่มพอร์ตธุรกิจใหม่นอกเหนือพลังงาน ทั้ง "ธุรกิจอีวี-เทคโนโลยีพลังงาน" ขยายลงทุนธุรกิจพลังงานต่อ รับราคาพลังงานพุ่ง ดันรายได้-อิบิทดาปีนี้นิวไฮ

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU  เปิดเผยว่า  บริษัทเดินหน้าหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมตามกลยุทธ์  Greener & Smarter เร่งเดินหน้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจขยายพอร์ตพลังงานที่สะอาดขึ้น และเทคโนโลยีพลังงาน ยกระดับ Antifragile ในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือทุกความผันผวน รวมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน  

โดยคงเป้าปี 2568 จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) จากธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน (Green Business) มีสัดส่วนมากกว่า 50% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนต่ำกว่า 40% พร้อมตั้งงบลงทุน 5 ปีกว่า 3,000-4,000 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนภายใต้แผนกลยุทธ์ Greener & Smarter 

BANPU เปิดแผนขยายธุรกิจครึ่บปีหลัง 65  มั่นใจดันรายได้-กำไร ปีนี้นิวไฮ

ขณะที่งบลงทุนปีนี้ 1,300 ล้านดอลลาร์ ในช่วงครึ่งปีแรกใช้เงินลงทุนแล้ว 930 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นธุรกิจก๊าชฯ 750 ล้านดอลลาร์ , กองทุนเฮลแคร์ราว 150 ล้านดอลลาร์ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน 30 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนที่เหลืออีก 370 ล้านดอลลาร์ จะนำไปใช้ลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง

ทั้งนี้ ครึ่งปีหลัง 2565 ยังเดินหน้าหาโอกาสการลงทุนต่อเนื่อง ในธุรกิจนอกเหนือพลังงานที่จะเป็นธุรกิจ New S-Curve ในอนาคตเพิ่มโอกาสการทำกำไร โดยเริ่มหาโอกาสเข้าไปลงทุนโดยตรงในธุรกิจเฮลท์แคร์สหรัฐ สร้างพอร์ตธุรกิจใหม่ที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคตนับว่าเป็นการลงทุนในเฟสที่ 2 หลังจากเฟสแรกเมื่อมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเข้าไปลงทุนในกองทุนเฮลธ์แคร์สหรัฐ เน้นลงทุนกลุ่มการแพทย์และสุขภาพ ด้วยเงินลงทุน 150 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,298 ล้านบาท)  

อีกทั้ง ยังมองหาโอกาสการลงทุนในอนาคต เช่น ธุรกิจอีวีและขยายตลาดสร้างการเติบโตในธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานและนำมาเชื่อมโยงกับธุรกิจอื่นๆ ของบ้านปูมากขึ้นในอนาคต รวมถึงการจัดตั้งทีมศึกษาและหาโอกาสในธุรกิจ STRATEGIC MINERALS (ธุรกิจแร่หายาก) ซึ่งสามารถนำโปรดักส์ที่ได้มาซินเนอร์ยี่ในส่วนธุรกิจอื่นๆของบ้านปูได้เช่นกัน 

ทางด้านธุรกิจพลังงาน ยังหาโอกาสการลงทุนในโมเดลเดิมในธุรกิจที่มีการเติบโตและสร้างกำไรที่ดี ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในสหรัฐ  รัฐเท็กซัส อยู่ระห่างการทำดิวดิจิเจนท์ 2 แห่ง

ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในเวียดนาม ไตรมาส 3 ปีนี้ คาดปิดดีลโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 2 แห่ง กำลังผลิตรวม 65 เมกะวัตต์ รวมถึงมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟฟ้าของโครงการ Nhon Hai ขนาด 35 เมกะวัตต์ที่จะรับรู้เข้ามาเต็มที่เป็นไตรมาสแรก การศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้ง พลังงานลมและโซลาร์ฟาร์ม ในกลุ่มประเทศที่บริษัทเคยไปลงทุนแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษา 2-3 โครงการ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบ Feed-in Tariff (FiT) อีก 1 โครงการ คาดจะทยอยได้ข้อสรุปชัดเจนในระยะถัดไป

พร้อมกันนี้ บริษัทยังหาโอกาสใหม่ในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนนำธุรกิจแบตเตอร์รี่ และธุรกิจการซื้อขายไฟในตลาดเสรีเข้ามาเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจอื่นๆ ของบ้านปูที่มีอยู่ในปัจจุบัน 

สำหรับ แนวโน้มครึ่งปีหลังคาดผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 จะดีขึ้น จากสถานการณ์ปัจจุบันดีกว่าปลายปีก่อนและช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ทำให้มั่นใจปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (นิวไฮ) เนื่องจากธุรกิจพลังงานทั้งราคาถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น