“จุรินทร์” ชง กนป. ตั้งคณะอนุกรรมการ "ดูแลราคาปาล์ม-น้ำมันปาล์มให้สมดุล"

“จุรินทร์” ชง กนป. ตั้งคณะอนุกรรมการ "ดูแลราคาปาล์ม-น้ำมันปาล์มให้สมดุล"

“จุรินทร์” นั่งหัวโต๊ะประชุมกก.บริหารจัดการปาล์มน้ำมัน เคาะตั้งคณะอนุกรรมการ "ดูแลราคาปาล์ม-น้ำมันปาล์ม” พร้อมสั่งให้รายงานสต๊อกน้ำมันปาล์มทุก 7 วัน โว พาณิชย์คุมราคาปาล์มน้ำมันขวดให้อยู่ที่ 65-68 บาทต่อขวด ตามโมเดล วิน-วิน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดครั้งที่ 1/ 2565 ว่า  ที่ประชุมมีมติตั้งคณะอนุกรรมการดูแลปาล์ม ประกอบด้วย 3 ฝ่าย 1.หน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมการค้าภายใน  กรมการค้าต่างประเทศ.กรมศุลกากร  สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร  กรมพัฒนาพลังงานและอนุรักษ์พลังงาน 2.เกษตรกร และ 3.ผู้ประกอบการ  ได้แก่สมาคมโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม สมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม  สมาคมผู้ผลิตไบโอดีเซลไทย และผู้แทนคลังรับฝากน้ำมันปาล์ม เพื่อให้การบริหารจัดการผลปาล์มดิบของเกษตรกร การผลิตน้ำมันปาล์มดิบของโรงสกัด และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มรีไฟน์เข้าสู่ภาวะสมดุล ไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนสำหรับบริโภค และมีเสถียรภาพด้านราคาเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

โดยคณะอนุกรรมการมีหน้าที่ 1. วิเคราะห์สถานการณ์การผลิต การตลาด ราคาและปัจจัยอื่นๆที่เกี่ยวข้องที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์ม  2.ให้กำหนดปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบที่เหมาะสมกับสถานการณ์และให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ เพื่อป้องกันน้ำมันปาล์มขาดแคลน  3.ให้มีหน้าที่กำหนดมาตรการแนวทางเงื่อนไขหลักเกณฑ์วิธีการและอื่นๆที่เกี่ยวกับการให้เกิดความสมดุลของน้ำมันปาล์มให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปปฏิบัติ และภารกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

“จุรินทร์” ชง กนป. ตั้งคณะอนุกรรมการ \"ดูแลราคาปาล์ม-น้ำมันปาล์มให้สมดุล\"

นายจุรินทร์ กล่าวว่า  นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้ยังได้มีมติให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสต๊อกและรายงานสต๊อกให้อนุกรรมการชุดนี้รับทราบทุก 7 วัน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เพื่อติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด ให้มีน้ำมันปาล์มบริโภคเพียงพอและดูแลราคาให้มีเสถียรภาพเหมาะสมต่อไป เพื่อเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายทั้งเกษตรกร โรงสกัด ผู้ประกอบการและผู้บริโภค ทั้งนี้จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติหรือ กนป.ต่อไป

ขณะนี้มีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบอยู่ประมาณ 180,000 ตัน ถึง 200,000 ตัน โดยข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. 2565 หรือ4 เดือนแรกปี 64  มีผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดแล้ว 5.75 ล้านตัน มากที่สุดในเดือนมี.ค. จำนวน 1.82 ล้านตัน สำหรับผลผลิตปาล์มน้ำมันในระยะต่อไป มีแนวโน้มลดลง ในเดือนพ.ย.จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวน 1.70 ล้านตัน

สำหรับปริมาณผลปาล์มในประเทศ มีประมาณ 17.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน  โดยขณะนี้ราคาผลปาล์มในประเทศราคาดีขึ้นมาก โดยราคาผลปาล์มวันที่ 11 พ.ค. 2565 กิโลกรัมละ 9.80-11.20 บาท เพิ่มขึ้น 52% จากราคาเฉลี่ยปีที่แล้วทั้งปี เมื่อราคาในประเทศเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคเพิ่มสูงขึ้นด้วย เพราะต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้น ราคาน้ำมันปาล์มขวดถ้าคิดตามโครงสร้างต้นทุน จะต้องตกประมาณขวดละ 76 บาท แต่จากการบริหารจัดการของกรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถปรับราคาลงจาก 76 บาทเหลือประมาณ 65-68 บาทต่อขวด

“ ต้องยอมรับว่าราคาผลปาล์มสูงขึ้นมากซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะเป็นนโยบายของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯและรัฐบาล ทำให้ผลปาล์มมีราคาสูงเพื่อประโยชน์กับเกษตรกร ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลปาล์มตกกิโลกรัมละ 2 บาทกว่า เมื่อผมเข้ามาบริหารจัดการทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นเป็น 8-12 บาท/กก. แต่อาจจะกระทบต่อต้นทุนการผลิตน้ำมันปาล์มบริโภคจึงต้องมีคณะอนุกรรมการชุดนี้ ช่วยดูแลสร้างสมดุล ให้ทุกฝ่าย วิน-วิน ตามนโยบาย"วิน-วินโมเดล" ให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ และกระทรวงพาณิชย์กำกับราคาน้ำมันปาล์มขวดบริโภคที่แม้ต้นทุนจะสูงมากแต่อย่าให้แพงจนเกินควร” นายจุรินทร์ กล่าว