มองภาวะสงครามสามด้านในอเมริกา

มองภาวะสงครามสามด้านในอเมริกา

ชาวอเมริกันกำลังทำสงคราม 3 ด้านพร้อมกัน แม้บางด้านจะไม่ปรากฏแก่สายตาว่ากำลังเกิดขึ้นก็ตาม ด้านที่เป็นข่าวใหญ่รายวันมาเป็นเวลากว่าปี

สงครามสามด้านของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ สงครามกับธรรมชาติอันมีไวรัสโควิด-19 เป็นกองทัพใหญ่จากฝ่ายธรรมชาติในขณะนี้ที่ทำให้ชาวอเมริกันตายไปแล้วเกิน 6 แสนคนและบาดเจ็บราว 35 ล้านคน  รองลงมาได้แก่สงครามกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันซึ่งเกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกประเทศ  ด้านสุดท้ายมักมองไม่ค่อยเห็นจนเป็นที่ประจักษ์จึงมักถูกมองข้าม หรือไม่ยอมรับ นั่นคือ สงครามกับอวิชชาควบตัณหาภายในตัวเอง

            ตลอดเวลาหลังก่อตั้งประเทศมา 245 ปี ชาวอเมริกันขยายฐานทางการพัฒนาเศรษฐกิจผ่านการขยายพื้นที่ของประเทศและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติทั้งที่มีอยู่ในพื้นที่ในครอบครองและของผู้อื่น  วัดกันตามมาตรของแนวคิดเศรษฐกิจกระแสหลักซึ่งชาวอเมริกันนำในด้านการใช้แนวคิด การพัฒนาเศรษฐกิจประสบความสำเร็จสูงจนเอื้อให้ชาวอเมริกันโดยทั่วไปสามารถบริโภคสินค้าและบริการได้ไม่ต่ำกว่าชนชาติใดในโลก  อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จและการใช้ทรัพยากรเกิดจากการรุกรานธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยสารพัดวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้สารเคมีที่มนุษย์ผลิตขึ้น หรือจากการเผาผลาญสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ

            การรุกรานดังกล่าวโดยทั่วไปดูจะไม่มีการตอบโต้จากธรรมชาติให้เห็นจนเป็นที่ประจักษ์จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา  ปรากฏการณ์หลายอย่างเริ่มสร้างความสนใจให้แก่ชาวอเมริกัน เช่น แม่น้ำลุกเป็นไฟ อากาศสกปรกจนหายใจไม่สะดวก และนกฟักไข่ไม่ออก  ปรากฎการณ์เหล่านี้มีผลในด้านการปรับเปลี่ยนนโยบายหลายอย่าง  แต่การปรับเปลี่ยนเหล่านั้นไม่มีผลในด้านการยับยั้งการรุกรานธรรมชาติอย่างมีนัยสำคัญ  ปรากฏการณ์ระดับพื้นฐานจึงเริ่มเป็นที่ประจักษ์โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศที่มักเรียกกันว่าภาวะโลกร้อน  ภาวะนี้มีผลหลากหลายอย่างรวมทั้งการสูงขึ้นของระดับน้ำทะเล ลมพายุที่เกิดบ่อยขึ้นและร้ายแรงขึ้น และความแห้งแล้งร้ายแรงต่อเนื่องกันเป็นเวลานานขึ้น  ในขณะเดียวกันก็มีปรากฏการณ์จำพวกการระบาดของเชื้อโรคร้ายที่ไม่เคยมีมาก่อน  เชื้อโรคเหล่านี้จะเกิดจากธรรมชาติที่ขาดสมดุลเพราะถูกรุกราน หรือจากการเล่นแร่แปรธาตุของมนุษย์ยังพิสูจน์ไม่ได้  แต่ชาวอเมริกันกำลังสู้รบกับมันชนิดถึงพริกถึงขิง

            ในด้านการทำสงครามกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ชาวอเมริกันฆ่าฟันกันเองทุกวันด้วยการใช้อาวุธชนิดต่าง ๆ รวมทั้งปืนยิงเร็วจำพวก M-16 ที่ใช้ในการทำสงครามกับต่างชาติ  การฆ่าฟันกันเองเข้มข้นขึ้นในช่วงเวลาปีกว่า ๆ มานี้เมื่อมีโควิด-19ระบาด  การสู้รบกันแบบนี้จะมีต่อไปด้วยสาเหตุต่าง ๆ รวมทั้งการเหยียดหยามผิวพันธุ์และการช่วงชิงทรัพยากร  ด้านสงครามกับต่างชาติมีทั้งส่วนที่มองเห็น เช่น ในอัฟกานิสถาน และส่วนที่มองไม่เห็น เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลทำร้ายกันอันเป็นสมรภูมิใหม่ในสงครามเย็น  สงครามนี้มีเป้าหมายหลายอย่างรวมทั้งเพื่อการช่วงชิงทรัพยากรธรรมชาติและเพื่อเผยแพร่แนวคิดต่าง ๆ ทางการเมือง เศรษฐกิจและวัฒนธรรม

            ในด้านการทำสงครามกับอวิชชาควบตัณหาอาจมองได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ประจักษ์แก่สายตาของผู้มีภูมิหลังทางพุทธศาสน์เท่านั้น  ชาวอเมริกันโดยทั่วไปมองไม่เห็น หรือไม่ยอมรับว่าตนกำลังทำสงครามในด้านนี้นอกจากกลุ่มเล็ก ๆ ซึ่งรวมทั้งนักวิชาการและผู้สนใจในด้านจิตวิญญาณจำนวนหนึ่ง  สถาบันการศึกษาโดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัยเป็นสนามรบใหญ่ แต่ก็มักมุ่งเน้นไปในด้านกายภาพเท่านั้น  ส่วนทางจิตใจซึ่งเป็นองค์ประกอบด้านที่สองของมนุษย์ได้รับความใส่ใจในวงจำกัด

            อนึ่ง หากมองให้กว้างออกไปจะประจักษ์ว่าสงคราม 3 ด้านนี้มิได้มีเกิดขึ้นในอเมริกาเท่านั้น หากเกิดขึ้นทั่วโลก  สงครามระหว่างเพื่อนมนุษย์ใช้ทรัพยากรปริมาณมหาศาลหากรวมการเตรียมพร้อมด้านการฝึกทหารและการสรรหาอาวุธยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง  ส่วนสงครามกับอวิชชาควบตัณหาใช้ทรัพยากรน้อยกว่ามากทั้งที่เป็นสงครามสำคํญที่สุดซึ่งมนุษยชาติน่าจะพร้อมใจกันทำ ทั้งนี้เพราะหากไม่ทำสงครามด้านนี้จนมีชัยชนะ โอกาสจะยุติสงครามด้านอื่นนั้นไม่มีแน่  แต่มนุษย์เราโดยทั่วไปไม่ยอมทำเพราะมองไม่เห็นความสำคัญ  ฉะนั้น สงคราม 3 ด้านจะดำเนินต่อไปทั้งในอเมริกาและในภาคอื่นของโลก.