ความสูญเสียของผู้เรียนรุ่นโควิด19

ความสูญเสียของผู้เรียนรุ่นโควิด19

ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษาในระดับใดก็ตามสิ่งที่เหมือนกันและน่าเศร้าสำหรับผู้เรียนในรุ่นนี้คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในยุคโควิด19

ช่วงนี้ควรเป็นช่วงของความคึกคักในแวดวงการศึกษาของไทย นิสิต นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยเพิ่งสำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตจบใหม่ ขณะที่น้องๆ ม.6 หลายๆ คนก็เฉลิมฉลองกับข่าวดีของการได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย และในอีกไม่กี่วันข้างหน้าภาคการศึกษาใหม่ของโรงเรียนทั่วประเทศก็จะเริ่ม อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษาในระดับใดก็ตามสิ่งที่เหมือนกันและน่าเศร้าสำหรับผู้เรียนในรุ่นนี้คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในยุคโควิด19

        หลายท่านอาจจะมองว่าสำหรับเด็กๆ ผลกระทบของโควิด19 นั้นก็เป็นเพียงแค่เปลี่ยนสถานที่เรียนจากสถานศึกษาไปเรียนผ่านออนไลน์ที่บ้านเท่านั้น แต่ถ้าได้พูดคุยกับเจ้าตัวหรือผู้เกี่ยวข้องจริงๆ จะพบว่าผลของโควิด19 ต่อชีวิตการเรียนรู้นั้นไม่ใช่เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่เรียนเท่านั้น

        การมาเรียนหนังสือนั้นไม่ใช่เพียงแค่จะได้รับแต่ความรู้ในห้องเรียนเท่านั้น แต่การได้พบเจอ พูดคุยกับครู อาจารย์และเพื่อนๆ ระหว่างวันหรือระหว่างเวลาเรียน การได้จัดหรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ การได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลต่างๆ นอกห้องเรียน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สำคัญและช่วยหล่อหลอมบุคคลคนหนึ่งขึ้นมาในสังคม

          ทุกท่านลองย้อนกลับไปนึกถึงชีวิตในวัยเรียนของท่านดู แล้วจะพบว่าเมื่อนึกถึงความทรงจำสมัยวัยเรียนส่วนใหญ่ จะเป็นความทรงจำต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนอกห้องเรียนมากกว่าความรู้ที่ได้รับในห้องเรียน

        ได้มีผู้ปกครองนิสิตจุฬาฯ ที่บุตรหลานเข้าปี 1 เมื่อปีที่แล้วมาเล่าให้ฟังว่าลูกเขารู้สึกเศร้ามากที่ซื้อชุดนิสิตปี 1 มาแต่แทบไม่มีโอกาสได้ใส่เลย ขณะที่นิสิตชั้นปี 4 ก็มาเล่าให้ฟังด้วยความรู้สึกเศร้าเช่นกันว่าชีวิตปี 4 ในรั้วมหาวิทยาลัยได้สูญหายไป กิจกรรมต่างๆ ที่คิดว่าอยากจะเข้าร่วมก็ไม่เกิดขึ้น ชีวิตในปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยที่หวังจะได้ใช้กับเพื่อนๆ อย่างเต็มที่ก็เปลี่ยนมาเป็นชีวิตออนไลน์แทน ผู้ที่อยู่ในวัยเรียนต่างมีความรู้สึกว่าตนเองได้สูญเสียประสบการณ์ในวัยเรียนหลายๆ อย่างที่ไม่สามารถหวนกลับคืนมาได้ และเป็นความสูญเสียที่ไม่สามารถจะควบคุมหรือทำอะไรได้อีกด้วย

        ถึงแม้การเปลี่ยนมาใช้ชีวิตในช่วงวัยเรียนมาเรียนออนไลน์จะมีข้อดีอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เด็กๆ ได้มีเวลาในการนอนมากขึ้น ไม่ต้องเสียเวลารถติดอย่างยาวนานอยู่บนท้องถนน มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น หรือ บางคนก็ใช้เวลาที่มีอยู่ไปเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แต่ความสูญเสียในประสบการณ์หรือการเรียนรู้นอกห้องเรียนก็เป็นสิ่งที่ยากจะทดแทนได้

        นอกจากนี้ยังพบว่าการเรียนออนไลน์ที่บ้านโดยลำพังของเด็กๆ ในยุคโควิด19 จะส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการในด้านการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมกับคนรอบข้าง พบว่าในอเมริกาที่เริ่มเปิดให้มีการกลับไปเรียนในห้องเรียนก็มีเด็กระดับมัธยมปลายให้สัมภาษณ์เลยว่าหลังจากเรียนออนไลน์มา 1 ปี เมื่อกลับเข้าห้องเรียนอีกครั้ง จะมีความรู้แปลกๆ และไม่รู้จะคุยในเรื่องอะไรกับคนที่มานั่งข้างๆ

      ดังนั้นสิ่งที่พ่อแม่ ผู้ปกครองหรือผู้เกี่ยวข้องจะต้องให้ความสำคัญเสริมสำหรับบุตรหลานที่อยู่ในวัยเรียน ก็คือการสร้างทักษะทางสังคมให้กับบุตรหลานของท่าน จริงอยู่ว่าถึงแม้ว่าเมื่อเรียนที่บ้านจะมีครอบครัวและญาติๆ อยู่ด้วย แต่สิ่งที่ขาดคือโอกาสในการฝึกฝนและสร้างทักษะทางสังคมกับผู้อื่นที่ไม่คุ้นเคย 

        สำหรับเด็กๆ ที่อยู่ในช่วงวัยเรียน ที่เติบโตมาในยุคโควิด19 นั้นจะน่าเป็นห่วงในเรื่องของการสูญเสียโอกาสในการเรียนรู้และประสบการณ์ต่างๆ นอกห้องเรียน ซึ่งจะเป็นทักษะและประสบการณ์ที่สำคัญที่จะหล่อหลอมเขาให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาและเสริมสร้างเรื่องความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น มีเด็กรุ่นใหม่เคยมาสารภาพว่าการเรียนออนไลน์ของเขานั้นเป็นเพียงแค่การเรียนเพื่อสอบให้ผ่านเท่านั้น ไม่ได้เกิดการเรียนรู้อะไรเลย คำถามคือแล้วจะหาแนวทางหรือวิธีการอย่างไรที่จะชดเชยสิ่งที่สูญเสียไปให้กับเด็กรุ่นนี้.