หมู่บ้านมิตรภาพ 'ไทย-เวียดนาม' เพื่อความยั่งยืน

หมู่บ้านมิตรภาพ  'ไทย-เวียดนาม'  เพื่อความยั่งยืน

"สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม" ได้รับสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้น เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2519 และปัจจุบันยกระดับเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ

สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม มีมาอย่างยาวนาน และไทยได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตที่กรุงฮานอย และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เมื่อปี 2521 และ 2535 ตามลำดับ 

ในมิติความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-เวียดนามปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดีมาก ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนเยี่ยมเยือนในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง และมีการยกระดับความสัมพันธ์ ขึ้นเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ซึ่งเราจะเห็นได้จากความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจที่เติบโต

ล่าสุดไทย-เวียดนาม มีการร่วมแลกเปลี่ยน เรียนรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การท่องเที่ยวชุมชนมีความรับผิดชอบและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่ไทยและเวียดนาม ให้ความสำคัญในการดำเนินโครงการการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเวียดนาม และสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและเป้าหมายการปลูกต้นไม้พันล้านต้นภายในปี ค.ศ. 2025 ของรัฐบาลเวียดนาม

ในการนี้ ภายใต้โครงการหมู่บ้านมิตรภาพ ไทย-เวียดนาม เพื่อความยั่งยืน (Thailand-Vietnam Friendship Village for Sustainability) ทางสถานทูตไทยได้ร่วมกับทีมไทยแลนด์จัดงานหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนามเพื่อความยั่งยืน ณ ที่ทำการสถานทูตฯ และศูนย์การแสดงสินค้ากรุงฮานอย เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2564 เพื่อสร้างเสริมมิตรภาพผ่านการรู้จักวัฒนธรรมประเพณีและการเรียนรู้บทเรียนจากความสำเร็จ และแบบอย่างที่ดีซึ่งกันและกันให้แพร่หลายยิ่งขึ้น

งานนี้ เปิดโอกาสในการส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาอย่างยั่งยืนระหว่างกัน โดยได้เชิญผู้แทนฝ่ายเวียดนามเข้าร่วมได้แก่ เหวียน เฝื่อง บ๋าว อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศเวียดนาม, เจิ่น ถิ เฝื่อง รองประธานสหพันธ์มิตรภาพกรุงฮานอย (HAUFO), เหวียน ดิน เหวียต ผู้อำนวยการสำนักต่างประเทศและผู้แทนจากคณะกรรมการประชาชนจังหวัดท้ายเงวียน ร่วมด้วยคณบดี อาจารย์และผู้แทนจาก มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ (USSH), มหาวิทยาลัยภาษาและการศึกษาระหว่างประเทศ (ULIS), มหาวิทยาลัยฮานอย และสื่อสารมวลชน เช่น วอยซ์ ออฟ เวียดนาม (VOV), เดอะ เวิลด์ แอนด์ เวียดนาม รีพอร์ต และเวียดนาม ไทม์ส

กลุ่มชาวเหวียตเกี่ยวในกรุงฮานอย รวมทั้งผู้แทนภาคเอกชนไทยที่มีความโดดเด่นในการจัดกิจกรรม CSR ในเวียดนามเข้าร่วมด้วย การจัดงานดังกล่าวเป็นกิจกรรมแรกในความสัมพันธ์ระดับประชาชน เพื่อนำไปสู่กิจกรรมการฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์ ไทย-เวียดนาม ในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ได้รับผลตอบรับที่ดีจากหน่วยงานภาครัฐเวียดนาม ภาคเอกชนไทยและภาคประชาชนทั้งสองประเทศ

สุดท้ายนี้ ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่าประเด็นความยั่งยืนไม่ว่าจะเป็นในด้านการดำเนินธุรกิจในประเทศหรือในด้านชีวิตความเป็นอยู่ การรับผิดชอบต่องสิ่งแวดล้อม หรือการสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นล้วนแต่เป็นประเด็นที่สำคัญที่ทั้งไทยและเวียดนามมุ่งเน้นที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนของทั้งสองประเทศอย่างแท้จริง