ชีวิตและความหวัง

ชีวิตและความหวัง

การใช้งานสมองไม่เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ่คือยิ่งใช้ยิ่งไม่เสื่อม

นับตั้งแต่โลกรู้จักโควิด-19 ความกังวลและความสับสนก็เกิดขึ้นทั่วทุกทวีปเพราะเราไม่รู้ว่าจะรับมือกับภาวะการระบาดที่เกิดขึ้นอย่างไร ประชากรกลุ่มแรกที่ต้องแบกรับความกดดันที่เกิดขึ้นคือคนทำงานในวัยหนุ่มสาวที่ไม่อาจทำงานได้ตามปกติเนื่องจากมาตรการควบคุมการระบาดทำให้ไม่สามารถหารายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้เหมือนภาวะปกติ

นอกจากนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กันก็คือผู้สูงอายุ เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคนี้สูงที่สุด และในเวลาเดียวกันก็มีความเครียดจากความกดดันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่แพ้คนหนุ่มสาว เพราะผู้สูงอายุจำนวนมากยังทำงานและรับผิดชอบครอบครัวเช่นเดียวกัน

ยิ่งทุกวันนี้โครงสร้างประชากรของเราเริ่มดำเนินรอยตามหลายประเทศที่กลายเป็นสังคมผู้สูงวัย เนื่องจากอัตราประชากรเกิดใหม่น้อยกว่าอัตราการเสียชีวิต เพราะความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น ทำให้ผู้สูงอายุหลายคนอยู่ในภาวะซึมเศร้าเพราะมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองในภาวะแห่งความสับสนอลหม่านเช่นทุกวันนี้

สิ่งหนึ่งที่เราควรตระหนักในการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางโลกที่ผันผวนรุนแรงเช่นทุกวันนี้ คือเรายังแสวงหาความสุขได้อยู่เสมอแม้ต้องอยู่ท่ามกลางความกดดัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ต้องมองให้ทะลุถึงคุณค่าภายในตัวเองที่สามารถถ่ายทอดให้กับคนรุ่นใหม่ได้

แม้จะมีพละกำลังไม่เหมือนคนหนุ่มสาวแต่ประสบการณ์และความรู้ที่สะสมมาก็น่าจะมากพอที่จะสร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมได้ และการที่ได้ใช้ความคิดอย่างสม่ำเสมอก็เป็นหนทางในการเพิ่มประสิทธิการทำงานของสมองได้อีกด้วย

การใช้งานสมองไม่เหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ คือ ยิ่งใช้ยิ่งไม่เสื่อม ต่างจากส่วนอื่นของร่างกายที่เสื่อมถอยลงตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่ทั้งสั้นและยาวมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือหูที่ได้ยินเสียงแย่ลงตามอายุที่มากขึ้น แต่สมองจะยังคงทำงานได้เฉียบคมไม่ต่างจากในอดีตหากเรากระตุ้นความคิดให้กับตัวเองอยู่เสมอ

สมองที่ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาจะทำให้เราตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบข้าง ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้เพราะอะไร กระบวนการทำงานเป็นอย่างไร ฯลฯ ก่อให้เกิดการศึกษา การเรียนรู้ และเปิดรับสิ่งใหม่เสมอ ทำให้เราพึงพอใจกับตัวเองมากขึ้น และรู้สึกมีส่วนร่วมกับความเป็นไปของโลกไม่ต่างจากคนหนุ่มสาว

เพราะเราไม่อาจหลีกเลี่ยงความกดดันที่เกิดจากการใช้ชีวิตในช่วงเวลาเช่นนี้ได้ การเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับมันจึงเป็นสิ่งจำเป็น เราต้องเลือกทางสายกลางเพื่อสมดุลชีวิตให้เหมาะสม ไม่ตึงและหย่อนจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเปิดรับสื่อต่าง ๆ ซึ่งมีทางเลือกมากมาย หากไม่ชอบติดตามข้อมูลข่าวสารในโทรทัศน์ก็มีช่องทางออนไลน์ให้เลือกทดแทน ทั้งวิชาความรู้ใหม่ ๆ สารคดี ทำให้เรามีความร่วมสมัยเพิ่มขึ้น

การเปิดรับความรู้ใหม่ ๆ ยังเป็นโอกาสให้เราได้นำเอาความรู้เหล่านั้น ผสมผสานกับทักษะและประสบการณ์ที่สะสมมานานนับทศวรรษเพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไป ซึ่งย่อมสร้างความพึงพอใจในคุณค่าของตัวเองเพิ่มขึ้นทีละน้อย ๆ เพราะนั่นคือความสุขในการให้ ซึ่งยิ่งถ่ายทอดมาก เราก็ยิ่งต้องอาความรู้ใหม่ ๆ มาเพิ่มพูนให้ตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก

ยิ่งเป็นเรื่องยาก ก็ยิ่งท้าทายให้เราใช้ความคิดมากยิ่งขึ้น สร้างคุณค่าให้ตัวเราได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยิ่งถ่ายทอดได้มากก็ยิ่งมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงสังคมได้มากขึ้น เปรียบเสมือนการว่ายน้ำที่เราผลักน้ำออกจากตัวเพื่อที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ในขณะที่คนว่ายน้ำไม่เป็นมักจะดึงน้ำเข้าหาตัวและจมน้ำลงในที่สุดไม่ต่างอะไรจากคนที่ตักตวงผลประโยชน์จากส่วนรวมซึ่งท้ายที่สุดเขาก็ต้องจมลงด้วยความโลภของตัวเอง

รอยตีนกาที่ดูเหมือนริ้วรอยแห่งวัยชรา จึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่าเราเคยหัวเราะ ยิ้มและมีความสุขมาแล้วมากเพียงใดในอดีต การใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันแม้จะมีแรงกดดันมากขึ้น แต่ก็ไม่ยากเกินกำลังที่เราจะฝ่าฟันต่อไปให้สำเร็จ