ความกดดันกับโลกความเป็นจริง

ความกดดันกับโลกความเป็นจริง

ในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนรุนแรงเช่นนี้ เราต้องแสวงหาความสุขจากคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำ

ผ่านพ้นเดือนแรกของปี พ.ศ. 2564 กันไปแล้ว แต่ความเครียดและความกดดันที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2563 ดูจะยังไม่ผ่อนคลายลงเลย เพราะความวุ่นวายจากโรคระบาดก็ยังไม่หายไปไหน ความซบเซา ทางเศรษฐกิจที่กระทบเกี่ยวเนื่องกันมาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น

ความเครียดที่เกิดขึ้นในเวลานี้จึงไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ลงลึกไปถึงระดับครอบครัว เพราะเสาหลักที่ต้องเลี้ยงดูคนทั้งบ้านไม่อาจหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้ตามปกติ รวมไปถึงเด็กนักเรียนนักศึกษาก็เครียดไม่น้อย เพราะต้องพึ่งพาการเรียนแบบออนไลน์เป็นหลัก แทบไม่มีโอกาสได้พบปะเพื่อนฝูงอย่างที่ควรจะเป็น

อันที่จริง แม้ไม่มีภาวะระบาดของโรคโควิด-19 ความเครียดที่เกิดขึ้นในคนยุคปัจจุบันก็มากกว่าคนสมัยก่อนหลายเท่าอยู่แล้ว เนื่องจากเวลาที่หดสั้นลงในทุกวันนี้บีบบังคับให้คนในยุคปัจจุบันต้องเจอการเปลี่ยนแปลงมากมายที่กระทบกับการทำงานและต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเองตลอดเวลา

คนรุ่นพ่อรุ่นแม่หากต้องเจอการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตก็อาจกินเวลานับสิบปี เพราะวงรอบของการเปลี่ยนแปลงกินเวลาค่อนข้างนาน คือการที่การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะเกิดขึ้นและส่งผลให้สังคมต้องเปลี่ยนแปลงมีน้อย และการส่งผลกระทบไปยังส่วนอื่น ๆ ก็มีไม่มากนัก ตลอดทั้งชีวิตอาจมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น 1-2 ครั้งเท่านั้น

ในขณะที่ทุกวันนี้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นตลอดเวลา และอาจส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของเราหลายครั้งหลายหน จนตลอดชีวิตเราอาจต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทุก ๆ 5-10 ปี เพราะโลกเล็กลงด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและการค้าไร้พรมแดน

แม้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และมีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมายคอยให้บริการ แต่ด้วยความเครียดจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้คนรุ่นใหม่มีความสุขในการใช้ชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับคนในยุคก่อนย่างเห็นได้ชัด

นั่นคือการใช้ชีวิตที่เร่งรีบอันเนื่องมาจากความก้าวหน้าในวิทยาการ เช่นคนการเดินทางในอดีตที่อาจเกินเวลานานหลายวันถูกย่นย่อลงด้วยรถไฟความเร็วสูงและเครื่องบินซึ่งกินเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้เราทำกิจกรรมได้มากขึ้นในเวลาที่ลดลง กลับทำให้เรามีความเครียดเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แล้วความเครียดเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เราเกิดความกดดันขึ้นภายในตัวเองจนไม่มีความสุขในชีวิตเลยจริงหรือ ลองคิดดูถึงคนๆนึง ที่ได้ทานแต่อาหารที่มีรสหวานเป็นประจำทุกวัน แล้วเขาอาจจะไม่พึงพอใจในรสชาติความหอมหวานนั้น เพราะไม่มีรสชาติอื่นให้เปรียบเทียบ

ในขณะที่อีกคนหนึ่งที่รับรู้ความเผ็ดร้อน ความขม ความเปรี้ยว เมื่อเจอรสหวานเขาย่อมชื่นชอบรสนี้เป็นพิเศษเพราะรู้ถึงความแตกต่างจากรสอื่น ๆ เช่นเดียวกับชีวิตของคนเราที่จำเป็นต้องพบเจอความหลากหลายทั้งความทุกข์และความสุข

เราอาจหลงลืมไปว่าในสภาพแวดล้อมที่ผันผวนรุนแรงเช่นนี้ เราก็อาจแสวงหาความสุขได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องรู้จักมองให้เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ และต้องเข้าใจว่าชีวิตที่มีความสุขสบายโดยไร้แรงกดดันใด ๆ นั้นไม่มีอยู่จริง 

ดังนั้น หากเราเข้าใจโลกในมุมมองดังกล่าวก็จะช่วยให้เราใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขได้แม้ในยามที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความกดดันครั้งใหญ่ และไม่ว่าจะเกิดขึ้นกี่ครั้งก็ยังสามารถฝ่าฟันไปได้สำเร็จ