ของเก่าแก่ที่ยังใช้ได้เสมอ

ของเก่าแก่ที่ยังใช้ได้เสมอ

ในยามที่รอบด้านมีแต่การโต้กันไปมาว่าของฉันดี ของแกแย่  คนระดับปัญญาชนก็เป็นไปกับเขาด้วย

คนระดับปัญญาชนก็โต้เถียงกันไปมาในเรื่องไม่ประเทืองปัญญา ที่หลั่งไหลกันมาทุกเวลานาที ตามสไตล์ของบิกเดต้า ที่ไม่ตั้งใจจะรับ แต่ก็หนีไม่พ้น  จนทำให้เมื่อรับรู้ไปมาก ๆ สติปัญญาในการบริหารจัดการก็ตีบตันกันไปหมด

มาทบทวนของเก่ากันเพื่อฟื้นฟูปัญญาในด้านการบริหารจัดการกันสักหน่อย ของดั้งเดิมที่มีมาแล้วหลายสิบปีเรื่องการบริหารบอกว่าผู้นำระดับสูงขององค์กร ต้องชี้นำเส้นชัยที่สอดคล้องกับบริบทในยามนั้นได้ อย่างสอดคล้องกับตัวตนขององค์กร ผู้นำระดับสูงไม่มาเสียเวลาเถียงเรื่องไม่ประเทืองปัญญา แต่มุ่งมั่นสื่อสารเส้นชัยที่องค์กรต้องมุ่งมั่นจะไปถึงให้ผู้คนยอมรับเชื่อถือ พร้อมกับยึดมั่นอย่างมั่นคงว่าในขณะที่องค์กรเดินทางไปสู่เส้นชัยนั้น ทุกขั้นตอนชอบด้วยกฎหมาย เป็นไปอย่างมีจริยธรรม มีการกำกับดูแลการเดินทางให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล คุ้มค่า ทุกขั้นตอนโปร่งใสจนอธิบายได้ว่าอะไรเป็นอย่างไร ทำไมต้องเป็นแบบนั้น

ผู้นำระดับสูงชวนผู้คนในองค์กรเดินหน้าสู่เส้นชัย อย่างมีความหวัง และเต็มไปด้วยกำลังใจ มหาบุรุษมหาสตรีมากมายหลายท่าน นำพาผู้คนที่ศรัทธา เดินทางฝ่าความยากลำบากไปถึงเส้นชัยนั้นด้วยความเต็มใจ ด้วยความหวัง โดยปราศจากความย่อท้อ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ไม่อาจเกิดขึ้นจนกลายเป็นตำนานได้เลย หากเส้นทางสู่เส้นชัยโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ และผู้นำจากทุกกลุ่มมัวแต่พูดจาในเรื่องไม่เป็นเรื่อง พูดกันแต่เรื่องจุกจิก หรือไม่ก็ป่าวประกาศถึงเส้นชัยที่เป็นนามธรรม จนผู้คนฟังอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าสวรรค์ที่ท่านผู้นำชี้นำนั้นเป็นอย่างไร เลยนึกต่อไปไม่ได้ว่าทำไมฉันต้องไปสวรรค์ของท่านผู้นำ ผู้นำระดับสูงต้องประกาศวิสัยทัศน์ที่เป็นความหวังของผู้คน เป็นวิสัยทัศน์ที่ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อมั่นและเต็มใจที่จะร่วมเดินทางไปสู่วิสัยทัศน์นั้น

เวลาจะเดินทางไปสู่เส้นชัยที่เป็นทั้งความหวัง และความเชื่อมั่น ผู้คนอยากเห็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางให้ชัด ๆ เหมือนพระถังซัมจั๋งจะธุดงค์ไปชมพูทวีป เพื่ออาราธนาพระไตรปิฎก เหล่าสาวกก็คงอยากรู้ว่าเส้นทางเป็นอย่างไร ไม่เหมือนในตำนานที่เส้นทางไม่แน่ชัด เลยต้องอาศัยอิทธิฤทธิ์ของเหล่าสาวกในการฝ่าฟันสารพัดความท้าทายที่เกิดขึ้น แก้กันเฉพาะหน้าตามเหตุการณ์ที่พบเจอ ถ้าเราไม่ได้เก่งกาจเหมือนเห้งเจีย ก็ต้องทำแผนที่การเดินทางสู่เส้นชัยกันอย่างละเอียด จะได้รู้ตัวว่าจะเดินทางไปทางไหน ไปอย่างไร ผ่านที่ไหนก่อน คาดว่าจะเจออะไรบ้าง ตรงไหนเราพอได้เปรียบในการรับมือ ตรงไหนเราน่าจะต้องเตรียมตัวกันเพิ่มเติม ซึ่งก็คือการกำหนดกลยุทธ์ และการถ่ายทอดกลยุทธ์สู่การปฏิบัติอย่างได้ผลนั่นเอง

ผู้นำที่มัวแต่สนุกอยู่กับการโต้คารมในสารพัดรูปแบบ ไม่ทำให้เส้นชัยมีความชัดเจนขึ้น ไม่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในเส้นชัยนั้นได้ ไม่ทำให้ผู้คนเกิดความหวัง และกำลังใจ ถ้าวันหนึ่งพระถังซัมจั๋งบอกว่าพระไตรปิฎกอยู่ที่ชมพูทวีป อีกวันหนึ่งกลับบอกว่าอยู่ที่เมืองไทย ลูกศิษย์ติดตามการธุดงค์คงหมดความเชื่อมั่นในเส้นชัย แล้วเดินทางกันแบบวันต่อวัน วันนี้ซ้าย พรุ่งนี้ขวา ผู้นำแบบนี้ไม่ได้มุ่งมั่นการปฏิบัติ แต่มุ่งมั่นโต้คารม

การเดินทางหมื่นลี้แสนลี้ ผู้นำต้องคอยดูด้วยว่าที่พาผู้คนเดินทางไกลกันนั้น ยังตรงกับความคาดหวัง ความต้องการที่มีอยู่ก่อนเดินทางหรือไม่  ปรับเปลี่ยนไปเมื่อเดินทางกันไปแล้วมากน้อยอย่างไร ไม่งั้นเดินทางมาไกลแสนไกล ไปถึงแล้วต่างคนต่างผิดหวัง เพราะที่ต้องการและคาดหวังในวันเริ่มเดินทาง เปลี่ยนไประหว่างเดินทาง ผู้นำที่ไม่ยอมรับรู้ความต้องการและความคาดหวังของผู้คน จะพาองค์กรไปผิดทิศผิดทาง เดินทางอย่างสร้างความลำบากใจ ความทุกข์ใจให้กับผู้คน แต่ผู้นำคิดไปเองว่าตนเองกระทำในหนทางที่ดีที่สุดแล้ว ซึ่งความจริงเป็นแค่หนทางที่เคยดีที่สุดตามความคาดหวังของผู้คนตอนเริ่มต้นออกเดินทาง แต่ตรงข้ามกับความคาดหวังในวันนี้

คำว่าผู้นำระดับสูงไม่ได้หมายถึงเฉพาะผู้นำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หมายรวมถึงคนที่นำผู้คนในทุกกลุ่มที่มีอยู่ในองค์กรนั้น ถ้าใครที่คิดว่าเป็นผู้นำ แต่ยังคุยกับคนอื่นที่คิดว่าตนเองเป็นผู้นำเหมือนกันไม่รู้เรื่อง ทุกคนที่เรียกตัวเองว่าผู้นำ ล้วนแต่ไม่ควรเป็นผู้นำทั้งสิ้น