หวังว่าเมื่อผ่านวิกฤติโควิดระลอกสองไปได้..(ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่) สิ่งที่ผู้นำและรัฐบาลควรทำ คือสังคายนา แก้ปัญหาโครงสร้าง กลไกภาครัฐ
Part1.ปีใหม่ 2564...ที่เงียบสงัดและการระบาดและการรับมือกับวิกฤติไวรัสโควิด19 ในครั้งแรก เป็นปีใหม่ที่เงียบที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา....
เริ่มจากภาพใหญ่ของประเทศและเศรษฐกิจไทยส่อแววร่อแร่ตั้งแต่ปลายปี 61 จนกระทั่งเจอวิกฤติไวรัสโควิดรอบแรกในช่วงต้นปี 2562 ที่หลายประเทศทั่วโลกวิกฤติทั้งทางด้านสุขภาพและวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจ แต่ประเทศไทยยังพอประคองตัวให้รอดมาได้ ถึงแม้หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง ส่วนมากก็เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการบิน การท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจที่เชื่อมโยงที่ได้รับผลกระทบเต็มๆเหมือนกันทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่น่าจะใช่
Part 2. ได้รับคำชื่นชมจากหลายประเทศและ WHO.
การรับมือการระบาดรอบแรกของไทย. ถือว่ารับมือได้ดี จนได้รับคำชื่นชมจากหลายประเทศและหน่วยงาน WHO . ต้องให้เครดิตทั้งคุณหมอ บุคคลากรทางการแพทย์ อสม. และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการตัดสินใจการบริหารจัดการของภาครัฐ และความร่วมมือของประชาชนทุกคน ที่ถึงแม้จะเผชิญปัญหาเรื่องปากท้อง ขาดรายได้ ตกงานกันเยอะ แต่ก็ร่วมไม้ร่วมมือป้องกันการระบาดรอบแรกได้อย่างดี
ส่วนรัฐบาลที่กำลังทำคะแนนได้ดี จากมาตรการต่างๆ ที่ออกมาหลังการระบาดรอบแรก (ส่วนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจะออกมาแย้งออกมาค้านก็เป็นเรื่องธรรมดาของฝ่ายค้านทั้งในสภาและนอกสภา)
มาตรการที่โดดเด่นสุดคือโครงการคนละครึ่งที่กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยให้คึกคักในเดือนพฤศจิกายนจนถึง ต้นเดือนธันวาคม บรรยากาศการค้าขายกลับมาใกล้เคียงสภาวะปกติ
จนกระทั่ง...
Part 3. สัญญานเตือน...จากท่าขี้เหล็ก!
การระบาดจุดเล็กๆจาก ท่าขี้เหล็ก จ.เชียงราย ที่เกิดจากการลักลอบไปทำงานที่บ่อนในพม่ารวมไปถึง
นักพนันที่ข้ามไปเล่นการพนันที่บ่อน เฉลี่ยวันละ1-2พันคนต่อวัน และติดเชื้อ นำเชื้อกลับมาที่เชียงราย.. (สังเกตดีๆนะครับ นักพนันนักเล่นเริ่มนำเชื้อโควิดจากพม่า มาตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก เชียงรายแล้ว!)
เป็นสัญญาณเตือน ถึงความหละหลวม การเห็นแก่ผลประโยชน์ ปล่อยปละละเลยให้พวกที่พาลักลอบข้ามแดนไปจนถึงเจ้าหน้าที่บางส่วนที่รับผลประโยชน์ (ทั้งที่เจ้าหน้าที่ดีๆจำนวนมากทำงานอย่างหนัก พยายามตรวจจับผู้ที่ลักลอบข้ามแดน แต่เนื่องจากกำลังพลของเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอกับพื้นที่ ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่และพวกที่พากันลักลอบนำคนไปมา มีพลังเงิน พลังผลประโยชน์มากกว่า ไม่คิดถึงผลเสียที่ตามมา เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว จ่ายส่วยแล้วปลอดภัยใครจะทำอะไรได้!?
ภาครัฐเริ่มตื่นตัวเข้าไปแก้ปัญหาที่ท่าขี้เหล็ก จ.เชียงรายจนสถานการณ์คลี่คลาย.. แต่ไม่เคยเฉลียวใจบ้างเลยว่า ต้องเตรียมป้องกันการระบาดรอบสองอย่างไร ทั้งที่ในประเทศพม่ามีการระบาดอย่างรุนแรงแล้ว แต่ในประเทศไทย มีแรงงานชาวพม่าที่กลับมาทำงานในประเทศไทยหลายแสนคนแล้ว ไม่เคยคิดไปถึงจุดนี้!
Part 4.วันนี้ในประเทศไทย เจอการระบาดหนักรอบสอง เพราะอะไร?
-แรงงานต่างด้าว และ บ่อนการพนันที่มีทั่วประเทศ!
แรงงานต่างด้าวเป็นสิ่งจำเป็น และเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยในหลายอุตสาหกรรมมายาวนานโดยเฉพาะการประมง ที่พึ่งพาแรงงานต่างด้าวชาวพม่าจำนวนมาก
เจ้าของกิจการชอบใช้แรงงานต่างด้าวเพราะค่าแรงถูกกว่าจ้างคนไทย และคนไทยไม่ทำงานในหลายๆงานที่แรงงานชาวพม่าทำในปัจจุบัน
คำถามคือ.. ภาครัฐไม่รู้หรือว่า ในจำนวนแรงงานต่างด้าว 1 ล้านกว่าคน ที่ทำงานในประเทศไทย มีแรงงานนอกกฎหมายประมาณ 600,000 คนที่มาทำงานในปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิดรอบ แรก แรงงานทั้งถูกกฎหมายและนอกกฎหมาย ส่วนหนึ่งทยอยกลับไปประเทศพม่า
สังเกตตรงนี้ดีๆ นะครับ... เมื่อประเทศไทยผ่านพ้นการระบาดรอบแรกมาแล้ว แรงงานพม่าเริ่มทยอยกลับเข้ามาในประเทศ ในช่วงที่ประเทศพม่าเกิดการระบาดอย่างรุนแรง แรงงานพม่าหนีตายจากกลัวโควิดและหนีตายจากกลัวอดตายเพราะไม่มีงานให้ทำในประเทศพม่า!
แรงงานนอกกฎหมาย ถูกนำเข้ามาโดยคนไทยที่เห็นแก่ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่บางส่วน นำเข้า ไม่ใช่แค่นำแรงงานเข้า แต่นำเชื้อโควิดติดมาด้วย!
ฝีมาแตกทะลัก ที่ตลาดกลางกุ้ง สมุทรสาคร ซึ่งเปรียบเสมือนเป็น มินิอู่ฮั่นที่เป็นจุดเริ่มต้นการระบาดในจีน เพราะสมุทรสาคร เป็นศูนย์กลางที่พ่อค้าแม่ค้ามาซื้อเพื่อนำไปขาย... ทั่วประเทศ รวมทั้งคนไปกินไปเที่ยวที่นั่นก็ได้กินทั้งอาหารทะเลผสมเชื้อโควิดที่ติดจากแรงงานผิดกฎหมายที่นั่นไปเต็มๆ! งานเข้าสิครับ!
แค่ที่สมุทรสาคร ยังไม่รู้จะควบคุมการระบาดให้นิ่งยังไง เพราะเป็นสถานที่ ที่พ่อค้าแม่ค้า และผู้บริโภคมาแล้วนำเชื้อไปแพร่จังหวัดใกล้เคียง ลามจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งที่กรุงเทพ!
นั่นแค่จุดเริ่มต้นของฝีแตกเม็ดแรก!
Part 5. เมื่อการบริหารแบบราชการและไม่สามารถจัดการปัญหาทุจริตคอรัปชั่นที่ฝังลึก จะเกิดอะไรขึ้น!?
ประโยคที่ชวนขำจนน้ำตาคลอคือ... ทุกวันนี้เราจะรู้ว่าที่ไหนมีบ่อนก็ต่อเมื่อที่นั่นมีโควิดระบาด!
จ.ระยองและหลายจังหวัดในภาคตะวันออก ที่ธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มฟื้น โรงแรมหลายแห่งจองกันเต็มในช่วงปลายปี ก็ต้องถูกยกเลิกจองหมด และกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่... ไม่ใช่สิ ไม่ใช่นับหนึ่ง แต่ติดลบเลย
ฝีอันที่สอง มาแตกที่จ. ระยอง เพราะการระบาดของโควิดติดมาจากบ่อนในจังหวัดระยอง! โดยที่คนในพื้นที่รู้ว่าบ่อนใหญ่ที่มีนักการเมืองใหญ่และผู้มีอำนาจหนุนหลังมีที่ไหนบ้าง แต่ตำรวจไม่รู้ บอกไม่มีบ่อน!?
จากบ่อนระยอง ตามมาด้วย บ่อนชลบุรี บ่อนจันทบุรี บ่อนตราด หลายๆบ่อนของภาคตะวันออก เริ่มเปิดตัวให้ทั่วประเทศรับรู้พร้อมกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่เกิดจากนักพนันเดินสายเข้าหลายบ่อนหลายจังหวัด และนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนในครอบครัวและแพร่ในทุกสถานที่ที่ไป! (นี่ยังไม่รวมบ่อนในกรุงเทพนะ!)
Part6.การระบาดรอบสอง.. จะหยุดเมื่อไหร่?
ตอบไม่ได้เพราะตราบใดที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มขึ้นหลักร้อยหรือหลายร้อยต่อวัน ต้องอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือของประชาชนทุกคน ถึงจะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์ได้
ที่สำคัญรัฐบาล ต้องเลิก วิธีคิด วิธีบริหารแบบ 'ราชการ' ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เพราะผู้นำรัฐบาลก็เติบโตมาจากราชการ ขาดความยืดหยุ่น ฉับไว (ประชุมแต่ละครั้งกำหนดวันประขุมตามราชการ แต่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนการประชุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์)
(ข้อสังเกตุ.. เมื่อเกิดวิกฤติไวรัสโควิด พ่อค้าแม่ค้าขาดรายได้ พนักงานจำนวนมากตกงาน รายได้ลดลง แต่คนที่ทำงานราชการ รัฐวิสาหกิจ รายได้ไม่ลดนะครับ รับเท่าเดิมได้อยู่กับบ้านเพิ่มเติมอีกด้วย!)
สถานการณ์ตอนนี้ ณ.วันที่ 2 มกราคมช่วงสายๆ..ไม่ Lock Down แต่สถานการณ์สภาวะทางเศรษฐกิจก็แทบไม่ต่างอะไรกับการ Lock Down แล้ว
หวังว่า เมื่อผ่านวิกฤติโควิดระลอกสองไปได้..(ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่) สิ่งที่ผู้นำและรัฐบาลควรทำ คือสังคายนา แก้ปัญหาโครงสร้าง กลไกภาครัฐที่คอรัปชั่นแทรกเรื้อรังในทุกส่วนมานาน ให้มากที่สุด เข้าใจครับว่าจะไม่ให้มีคอรัปชั่นเลยมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าปล่อยให้ทั้งนักการเมือง ตำรวจ อัยการ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐ เห็นแก่ผลประโยชน์ คอรัปชั่นกันสุดลิ่มทิ่มประตูแบบนี้ โดยที่รัฐบาลปล่อยปละละเลย ลูบหน้าปะจมูกเพราะเป็นคนกันเองหรือเพราะไม่กล้า ไม่ต้องรอโควิดระลอกสาม ประเทศไทยก็ไปไม่รอดแน่นอน!
หวังว่าผู้นำและรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างถูกต้องในการบริหารจัดการโควิดรอบนี้ ไปจนถึงสังคายนาระบบผลประโยชน์ คอรัปชั่นกันทุกหย่อมหญ้า ถ้าทำได้ ไม่ต้องกลัวใครจะมาไล่ แต่จะได้ใจได้เป็นรัฐบาลไปอีกนานเท่าที่ต้องการได้เลย.. ลองกล้าๆ ทำสิ่งที่ควรทำบ้างนะครับ เพราะปากท้องของคนที่ลำบากทั้งประเทศ อยู่ที่ความกล้าและการตัดสินใจของผู้นำครับ!