คลื่นลูกใหม่หลังโควิด

คลื่นลูกใหม่หลังโควิด

บทบาทของคนเจนวายเหล่านี้เริ่มฉายแววให้เห็นในหลายบริษัทสตาร์ทอัพ

เป้าหมายหลักทางการตลาดยุคปัจจุบันขยับมาที่คนในเจนเนอเรชันวายหรือกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1981-1996 มากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนวัยนี้มีวิถีชีวิตที่แตกต่างจากคนในยุคก่อนมากจึงมีความต้องการสินค้าและบริการที่เน้นเรื่องไลฟ์สไตล์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจน

การตลาดในยุคหลังโควิด-19 ที่เปลี่ยนแนวทางมาเน้นในเรื่องของออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมากขึ้น จึงสอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของคนวัยนี้เพราะเขาเติบโตมาในยุคที่อินเตอร์เน็ตเบ่งบาน รวมถึงสินค้าด้านเทคโนโลยีดิจิทัลทุกรูปแบบที่เขาใช้อย่างคล่องแคล่วจนกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของชีวิตไปแล้ว

ที่สำคัญบทบาทของคนวัยนี้ไม่ได้เป็นเพียงผู้บริโภคแต่เพียงอย่างเดียว แต่พวกเขากำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารในองค์กรธุรกิจหลายแห่ง

ด้วยวัยที่อยู่ในช่วงเหมาะสมคือ 30-40 ปีจึงเป็นกำลังสำคัญของทุกองค์กรอยู่ในเวลานี้และอีกสิบปีข้างหน้า คนกลุ่มนี้ก็จะกลายเป็นผู้บริหารระดับสูง รวมถึงเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่จำนวนมาก ยพื้นฐานที่เติบโตมาจากเทคโนโลยีเขาจึงมีรูปแบบการคิดและการตัดสินใจที่ต่างจากคนในยุคเจนเนอเรชันเอกซ์หรือเบบี้บูมเมอร์มากมาย

โดยเฉพาะเรื่องการใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสายตาของเขา ซึ่งเราเริ่มเห็นได้ชัดเจนจากอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ที่เริ่มต้นจากการใช้งานส่วนบุคคลแต่ขยายไปสู่ภาคธุรกิจ สังคม และการเมืองโดยไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้เลย

ธุรกิจของเราในอีกสิบปีข้างหน้าจึงต้องมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นองค์ประกอบในทางใดทางหนึ่งเพื่อให้อยู่ในสายตาของผู้บริหารเจนวายเหล่านี้ เพราะเขาจะเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในยุคต่อไป การปรับโครงสร้างองค์กรตั้งแต่วันนี้จึงเป็นการเปิดทางให้เขามองเห็นภาพองค์กรภายใต้การบริหารงานของเขาในอนาคต

ซึ่งในความเป็นจริงแล้วบทบาทของคนเจนวายเหล่านี้เริ่มฉายแววให้เห็นในบริษัทสตาร์ทอัพหลายแห่งโดยเฉพาะในต่างประเทศที่เราจะเห็นบริษัทระดับยูนิคอร์นหรือบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่จำนวนมากที่มีผู้ก่อตั้งมีอายุอยู่ในช่วง 25-35 ปีเป็นหลัก

คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นมหาเศรษฐีได้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ไม่จำเป็นต้องรอให้มีอายุ 50-70 ปีเหมือนคนในรุ่นเบบี้บูมเมอร์ เพราะเขาอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นฐานในการสร้างลูกค้าให้เติบโตได้ในระยะเวลาอันสั้น ลดเวลาและขั้นตอนในการขยายธุรกิจได้อย่างมหาศาลต้องยอมรับว่าโควิด-19 เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เทคโนโลยีดิจิทัลขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนเป็นโอกาสให้คนในรุ่นนี้ได้แสดงฝีมือ และเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำองค์กรในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้ 

ด้วยความพร้อมด้านเทคโนโลยีและประสบการณ์ที่บ่มเพาะมาเพียบพร้อมตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา มีเทคโนโลยีที่คนในเจนวายหล่านี้มีส่วนร่วมบุกเบิกมากมายเช่นบิ๊กดาต้า เอไอ บล็อกเชน ฯลฯ และผลักดันให้เขากลายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจสตาร์ตอัพที่ประสบความสำเร็จมากมายในหลายประเทศ แถวบ้านเราก็เช่นอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ที่ล้วนมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นกันหมดแล้วโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ฯลฯ ซึ่งเป็นผู้นำโลกดิจิทัลในปัจจุบันก็ล้วนอาศัยพลังของคนรุ่นนี้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะจีนที่เราเห็นได้ชัดเจนว่าอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลปรับเปลี่ยนประเทศเข้าสู่ยุคใหม่จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจในทุกวันนี้

สำหรับบ้านเรา คนเจนวายจึงกำลังเป็นคลื่นลูกใหม่ที่พัดเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับโลกธุรกิจ ซึ่งมันจะกลายเป็นเหมือนดินแดนใหม่ที่สร้างโอกาสให้เราอีกครั้ง แม้เราอาจจะยังไม่เห็นว่าจะมีธุรกิจอะไรเกิดขึ้นมาใหม่ หรือมีบริการอะไรที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเราอีก รวมถึงเศรษฐกิจและสังคมจะเปลี่ยนไปทางไหนก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้