สู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน

ความวุ่นวายของโลกทุกวันนี้มี ‘โควิด-19’ เป็นจำเลยใหญ่ เพราะทุกประเทศมองว่า ‘โรคระบาด’ เป็นต้นตอที่ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายทั้งทางด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง แต่สาเหตุสำคัญที่ทุกคนมักจะมองข้ามไปก็คือความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นตัวการใหญ่ไม่แพ้กันเลย

ความไม่สมดุลในที่นี้เราจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดในประเทศ ที่เราเชื่อว่ามีระบบสาธารณสุข และระบบป้องกันโรคติดต่อที่ดีที่สุดในโลกนั่น คือ สหรัฐอเมริกา ซึ่งมาถึงวันนี้กลับกลายเป็นประเทศที่ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้จนกลายเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงที่สุดในโลก

จากประเทศที่มีความมั่นคงทางการทหารสูงที่สุดในโลก ด้วยงบประมาณด้านกลาโหมสูงกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ทิ้งห่างทุกประเทศทั่วโลกอย่างไม่เห็นฝุ่น จนมีกองกำลังที่ไม่มีใครเทียบได้ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ไปจนถึงกองทัพอวกาศที่เพิ่งจัดตั้งขึ้น แต่เมื่อต้องเจอเชื้อไวรัสตัวเล็กๆ ที่ตามองไม่เห็นก็ต้องพ่ายแพ้หมดรูปจนมีชาวอเมริกันเสียชีวิตไปแล้วกว่า 130,000 คน ซึ่งมากกว่ายุคสงครามโลกครั้งที่ 1 เสียอีก

เพราะเหตุใดประเทศมหาอำนาจที่เพียบพร้อมด้วยงบประมาณ และบุคลากรมากมายกลับไม่สามารถดูแลประชากรของตัวเองได้ งบประมาณด้านกลาโหมมากมายมหาศาล แต่เรื่องการรักษาโรคระบาดกลับไม่มีงบประมาณมาสนับสนุน จนมีคนล้มละลายเพราะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลมากมาย

ความไม่สมดุลนี้เกิดขึ้นเพราะนโยบายทางการเมืองที่ผู้นำประเทศจ้องจะเอาชนะและช่วงชิงคะแนนเสียงโดยไม่พิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีเยี่ยม แต่กลับละเลยคนยากจน คนที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบประกันสุขภาพได้

ความยิ่งใหญ่ของอเมริกาจึงไร้ความหมายสำหรับคนจำนวนมากที่ต้องอยู่อย่างหวาดวิตกว่าจะติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากไม่มีทางจ่ายค่ารักษาตัวเองได้หากติดเชื้อขึ้นมา ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ก็ไม่อยู่กับร่องกับรอย เพิ่งจะกลับลำส่งเสริมให้ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อไม่นานมานี้เองหลังจากเห็นแล้วว่าพฤติกรรมแบบเดิมไม่สามารถควบคุมการระบาดได้

ความยิ่งใหญ่และความทะนงตน ก่อให้เกิดนโยบายที่ไม่มีความสมดุล เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สถานการณ์โรคติดต่อครั้งนี้ทวีความรุนแรงกว่าที่เราคาดคิด เป็นบทเรียนสำคัญที่ผู้บริหารทั่วโลกควรต้องศึกษาเอาไว้ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น

แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง โควิด-19 ก็ก่อให้เกิดความร่วมมือทางการแพทย์ครั้งประวัติศาสตร์ แม้ว่าแต่ละประเทศยังคงเฝ้าระวังกันอย่างเข้มข้นจนทำให้การเดินทางระหว่างประเทศเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่กับบุคลากรด้านการแพทย์และเภสัชกรรมที่เร่งคิดค้นวัคซีนและยารักษาโรคโควิด-19 กลับตื่นตัวกันอย่างเต็มที่

เพราะทุกประเทศล้วนมีเป้าหมายเดียวกันในการพิชิตโรคระบาดครั้งนี้ให้ได้สำเร็จ ความร่วมมือระหว่างประเทศในการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อมูลที่จำเป็นต่อการพัฒนาวัคซีนจึงขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ก็เร่งทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ เพื่อพัฒนาวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดไม่ว่าจะเป็นจีน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ต่างร่วมมือกันเต็มที่

แม้ว่าในด้านเศรษฐกิจอาจมีสงครามการค้ากีดกันความร่วมมือระหว่างประเทศเกิดขึ้น แต่กลับโรคระบาดครั้งนี้เราจะเห็นความร่วมกันแบบไร้พรมแดนเพราะโควิด-19 บีบให้คนทั้งโลกเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อรักษาชีวิตของชาวโลกให้มากที่สุด

ไม่ว่าประเทศร่ำรวยหรือประเทศยากจน ก็ล้วนได้รับผละกระทบจากโควิด-19 ไม่แตกต่างกัน ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจึงเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดที่จะทำให้เราก้าวผ่านโรคระบาดในครั้งนี้ไปได้สำเร็จ