หนีห่าง...

หนีห่าง...

ธุรกิจแห่งอนาคตเหล่านี้ คงเปรียบได้กับ 'ดวงดาว' ที่ส่องแสงสุกสกาวอยู่บนฟ้า และคอย 'หนีห่าง' ออกไปเรื่อยๆ

เมื่อประมาณ 4-5 เดือนก่อน ขณะถูกล็อคดาวน์อยู่กับบ้านจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผมเลือกที่จะแปลงวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการทุ่มเวลากับการดูหุ้นทั่วโลก ที่กำลังอยู่ในภาวะผันผวนรุนแรง ณ เวลานั้น

แม้ตลาดหุ้นต่างๆ จะร่วงกันระเนระนาดรวมทั้งของไทย ทว่าหลักทรัพย์จำพวกหนึ่งซึ่งราคาปรับลดลงมาเพียงช่วงสั้นๆ แล้วก็วิ่งห้อตะบึงกลับไปยังจุดเดิมและสูงยิ่งกว่าเดิม คือ 'หุ้นเทค' โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่จากซิลิคอนวัลเลย์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Apple, Facebook, Alphabet, Microsoft ที่ได้รับประโยชน์จากการที่ผู้คนต้องขังตัวเองอยู่กับบ้าน

บ่ายวันหนึ่ง ขณะกำลังไล่ดูงบของ tech stock พวกนี้ ผมเปิด Youtube ฟัง และได้ยินเพลง 'หนีห่าง' จากเสียงร้องของ เกมส์ สุจิตรา นักร้องนำวง 'จุลโหฬาร' วงดนตรีจากจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นการ cover เพลงของ 'เขียนไขและวานิช' นักร้องเพลงโฟล์คจากค่ายเดียวกันได้อย่างเสนาะเพราะพริ้ง

เนื้อเพลงท่อนหนึ่งสะกิดใจผมเข้าอย่างจัง 'เฝ้ามองดูดวงดาว ฉันมองเห็นเธอสุกสกาว ส่องแสงเรืองรองนับกลางใจ เธอเหมือนดวงดาวส่องแสง วันดีคืนดีเธอหายลับไปจากดวงตาฉัน มองไม่เห็นดวงใจเธอนั้น เธอเหมือนดวงดาวที่คอยหนีห่าง'

ผมนึกขึ้นมาทันทีว่า เนื้อเพลงๆ นี้เหมือนกับหุ้น Apple ที่ปรากฏอยู่หน้าจอของผม ผมเฝ้าติดตามมาหลายปี แต่ก็ไม่เคยเข้าซื้อ เพราะมองว่าอนาคตของมันคาดเดาได้ยาก ทว่าวันคืนผ่านไป ธุรกิจของบริษัทกลับโตเอาๆ จนมูลค่าตลาดพุ่งแตะ 2 ล้านล้านเหรียญเมื่อไม่นานมานี้

จากราคา 66 เหรียญ (เทียบพาร์ปัจจุบัน) ในช่วงที่ผมเริ่มศึกษา (เมื่อครั้ง iPhone 4 ออกจำหน่าย) ณ วันนี้ หุ้น AAPL ไต่ระดับขึ้นมาอยู่ที่ 120-135 เหรียญ (iPhone กลายเป็นรุ่น 11) เป็นการเพิ่มขึ้นราวสองเท่า ซึ่งไม่ง่ายเลยสำหรับบริษัทมาร์เก็ตแคปขนาดนี้

ดังที่เนื้อเพลงบอกไว้ ช่างเหมือนกับ 'ดวงดาว' ที่เคยสุกสกาวอยู่ตรงหน้า ราวกับอยู่ในระยะมือเอื้อมถึง ทว่าเมื่อไม่ฉวยมันไว้ในวันที่มีโอกาส มันก็ลอย 'หนีห่าง' ออกไปเรื่อยๆ จนเกินไขว่คว้า ราวกับเป็นภาพลวงตาอันเลือนราง

ล่าสุด ในสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน หุ้นเทคทั้งหลายราคาร่วงลงอย่างหนัก ดัชนี Nasdaq บางวันลดลง 4-5 เปอร์เซ็นต์ AAPL เองก็ปรับตัวลงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ จนหลายคนมองว่า tech stock ซึ่งเปรียบเสมือน 'หมู่ดาว' เหล่านี้อาจถึงคราดับแสง

อย่างไรก็ตาม ผมยังเชื่อโดยส่วนตัวว่า นี่เป็นเพียงการเข้าสู่ 'correction territory' คือคืนสู่จุดที่ใกล้เคียงมูลค่ามากขึ้น หลังจากราคาวิ่งเร็วและแรงเกินไป มิใช่ปรากฏการณ์ 'ฟองสบู่แตก' เหมือนยุคด็อทคอมบูม

ธุรกิจแห่งอนาคตเหล่านี้ คงเปรียบได้กับ 'ดวงดาว' ที่ส่องแสงสุกสกาวอยู่บนฟ้า และคอย 'หนีห่าง' ออกไปเรื่อยๆ

อยู่ที่ใครจะสามารถไขว่คว้ามาครอบครอง ในเวลาที่เหมาะสมนั่นเอง