ขอพูดเรื่อง “คน” ให้คนไทยได้ฟัง

ขอพูดเรื่อง “คน” ให้คนไทยได้ฟัง

ผมได้ยินเสียงคนบ่นกันหนาหูขึ้นเรื่อยๆ ว่า คนสมัยนี้ทำไมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คำตอบส่วนหนึ่งที่ผมเชื่อว่าถูกต้อง

เพราะคนเป็นพ่อเป็นแม่เด็กรุ่นปัจจุบันเลี้ยงลูกด้วยความกลัวลูกจะลำบากเหมือนตนเอง

ผมสอนหนังสือถามหาเด็กมาเรียนหนังสือด้วยรถประจำทางแทบไม่มีเลย ค่าใช้จ่ายต่อวันอย่างต่ำๆ 200 บาท อุปกรณ์ประจำตัวที่สำคัญวันนี้ไม่ใช่ตำราเรียน ถ้าไม่มีโน้ตบุ๊คก็ต้องมีสมาร์ทโฟน เขาเรียนรู้ทุกเรื่องรวดเร็ว เขาไม่มีพ่อแม่มานั่งกำกับดูแลเข้มงวด เพราะเขารู้เขาเห็นทุกอย่างในโลกเสมือนจริง บางคนรู้เห็นบางเรื่องก่อนวัยอันควร เมื่อรู้แล้วเขามีความเชื่อมั่น เขาคิดว่าวันนี้ครูอาจารย์แทบไม่จำเป็น เพราะทุกอย่างเขาค้นหาได้ในโลกไซเบอร์ เรื่องนี้ทางผมเองก็ต้องปรับตัว ไม่มาปิ้งแผ่นใสหรือฉายพาวเวอร์พอยต์ให้นั่งจดอีกต่อไป

ต้องใช้วิธีให้ในสิ่งที่เขาไม่สามารถหาได้ในที่ใดๆ นอกจากต้องมาหาความรู้กับตัวผมในชั้นเรียน หรืออาจพาไปทัศนศึกษาภายนอก ไปเห็นโลกแห่งความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น ตรงนี้คือจุดขายที่ทำให้บางวิชาที่ผมสอนมีนิสิตนักศึกษาสนใจอยากเรียนด้วยค่อนข้างมาก

วันนี้ผมผ่อนปรนลดการปะทะในหลายกรณี โดยไม่ให้ผิดบรรทัดฐาน ไม่ว่าจะเครื่องแบบการแต่งกาย ถ้าไม่น่าเกลียดกระทั่งทำให้ดูจะเป็นการระคายเคืองความรู้สึกของคนทั่วไป ตามทัศนะที่ผมและวิญญูชนรู้ได้ว่าความดีงามถูกต้องอยู่ ณ จุดใดแล้ว ก็มักตักเตือนให้คำแนะนำ มิได้ปล่อยปละละเลยยังต้องทำหน้าที่มอบความรู้คู่คุณธรรมเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ผมเองแม้จะเป็นอาจารย์อาวุโส (ทางอายุ) แต่มิได้ปิดกั้นตัวเอง ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของสังคม เพราะตัวเองเป็นนักรัฐศาสตร์ เป็นนักสังคมวิทยาคนหนึ่งเช่นกัน จึงมีโซเชียลต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ โปรแกรมไลน์ เว็บไซต์ของตัวเอง จึงไม่ต้องห่วงว่าจะตามเด็กไม่ทัน แต่บางทีเมื่อตามทันก็ค่อนข้างเป็นห่วง เพราะหลายเรื่องผมพูดกับตัวเองว่า สมัยเราหนุ่มๆ สาวๆ เราก็คล้ายเขาในบางเรื่อง คือมักคิดว่าคนรุ่นเก่าๆ น่าจะล้าหลัง คิดอะไรคงตามพวกเราไม่ทัน แต่รับรู้ได้ในภายหลังว่า “เป็นความคิดที่ผิดพลาดยิ่ง” เพราะหลายอย่างที่เรามีในวันนี้ มีบ่อเกิดหรือมักเป็นการเสริมเติมต่อในสิ่งที่คนในรุ่นเก่าก่อน เขาได้ริเริ่มดำเนินการไว้

เพิ่งมีคนส่งคลิปเด็กผู้หญิงไปยืนพูดให้ความรู้เรื่องคล้ายๆ ให้มีการปรับวิธีการเรียนการสอนเพศศึกษา ผมในฐานะครูบาอาจารย์เห็นภาพของคนที่เกาะรั้วโรงเรียน เป็นยามรักษาการณ์ของทหารผ่านศึก ที่เฝ้าปฏิบัติหน้าที่อยู่และต้องได้ยินได้ฟังทุกเรื่องราวอย่างแจ่มชัด ผมเองในฐานะสุภาพบุรุษแท้จริงที่ผ่านโลกมากกว่า 50 ปีแล้ว จะทำเหนียมอายบอกไม่รู้เรื่องเพศศึกษา หรือทนฟังคำโน้นคำนี้ไม่ได้ คงไม่ใช่หรอกครับ

แต่ด้วยการที่ผ่านโลกมามาก และเคยอยู่ในสังคมที่ค่อนข้างมีเสรีภาพในเรื่องเหล่านี้ไม่น้อยมาร่วมสิบปี ทำให้เข้าใจดีว่าเรื่องบางเรื่องไม่ใช่ใครนึกสนุกหรือเห็นต่างอย่างไรก็นำมาพูดให้คนเชื่อกันได้ง่ายๆ มันต้องเป็นด้วยเครดิตส่วนตัวของคนคนนั้น และต้องมีแหล่งค้นคว้าอ้างอิง ไม่ใช่การยืนเลคเชอร์ให้คนคล้อยตาม อาจด้วยเห็นว่าฉันน่าจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ดีแล้ว และคำพูดคำจาเท่าที่ผมเคยพบเห็นมาคงไม่จำเป็นต้องออกมาในแนวที่พวกเราผู้ชายทั่วไปนิยมชมชอบคุ้นเคยกับถ้อยคำเหล่านั้น เพราะเห็นเด็กที่ยืนฟังให้กำลังใจสักเกือบสิบคนเป็นนักเรียนหญิงน่าจะแทบทั้งหมด

เมื่อพูดถึง “คน” แล้ว ก็ควรพูดถึงคำว่า “คน” ให้สิ้นกระแสความ วันนี้ผมรู้สึกเห็นใจนายกรัฐมนตรี ที่เคยมีคนมาปลอบใจผมเวลาถูกกลั่นแกล้งรังแก เขาบอกให้ดูนายกฯ สิ ท่านเจอหนักกว่าเราอีก เพราะแม้จะรู้ว่าใครเลวก็ยังต้องร่วมทำงานด้วย เพราะติดด้วยเรื่องนั้นเรื่องนี้ เราอาจเจอคนเลวแต่ไม่ต้องเจอกันทุกวันทุกอาทิตย์ก็พอมีกำลังใจขึ้นมา แต่ก็ยังคงเห็นใจอดีต คสช.ทุกท่าน ที่ใช้ความพยายามในห้วงเวลา 5-6 ปีที่ผ่านมา ในการทำประเทศไทยให้ดีขึ้นในทุกวิถีทาง ด้วยการสรรหาคัดเลือก “คน” เข้ามาเป็นกำลังสำคัญ

ผมยอมรับว่า ผมเป็น “คนหนึ่ง” ที่ถูกเลือกให้ทำหน้าที่หลายเรื่องที่ผ่านมา แม้ขณะนี้จะยังติดเงื่อนเวลาตามรัฐธรรมนูญที่ต้องคอยถึงสิ้นปีในบางภารกิจที่จะต้องพ้นเวลานั้นไปก่อน แต่ก็ยินดีกับคนหลายคนที่ได้รับการสนับสนุนให้ทำหน้าที่ต่อเนื่องไม่ขาดตอน

ผมขอกล่าวถึงเฉพาะตัวเองไม่ต้องการเทียบเคียงกับผู้ใด สำหรับตัวผม ผมเชื่อมั่นว่าความเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงานที่มีมาทุกวันนี้ได้เป็นเพราะความกตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่บุพการีและผู้มีพระคุณ ผมเลือกที่จะแสดงตนว่าอยู่ข้างคนที่ปกป้องสถาบันฯ ปกป้องรัฐธรรมนูญ เพราะผมไม่เห็นว่ามีสิ่งใดเป็นเรื่องผิดพลาดขนาดที่เราจะต้องไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

ผมมีจุดยืนที่ชัดเจนเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นเพราะได้ประโยชน์แล้วต้องตอบแทน แต่ผมจะไม่ทำตัวเหมือนคนเหยียบเรือสองแคม หากเลือกจะหนีหรือตีจากจะไปเลย แต่ถ้ายังต้องอยู่กับใครก็จะไม่ทรยศหรือเนรคุณผู้ใดเป็นอันขาด